เลือกตั้งและการเมือง

“ชัยธวัช” ร่วมงานศพ “บุ้ง ทะลุวัง” คืนแรก ออกตัว “ก้าวไกล” ไม่ได้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหว

โดย kanyapak_w

16 พ.ค. 2567

109 views

 “ชัยธวัช” ร่วมงานศพ “บุ้ง ทะลุวัง” คืนแรก ออกตัว “ก้าวไกล” ไม่ได้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหว เพราะเป็นการตัดสินใจของตัวบุคคล ชวนสังคมมองต้นเหตุโศกนาฏกรรม อยู่ที่ไม่ให้สิทธิประกันตัว เผย กมธ.นิรโทษกรรม เตรียมยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาล



16 พฤษภาคม 2567 ที่วัดสุทธาโภชน์ เขตลาดกระบัง นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาร่วมงานสวดพระอภิธรรมในพิธีบำเพ็ญกุศลคืนแรกของ นางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือ “บุ้ง ทะลุวัง” นักกิจกรรมที่เสียชีวิตในเรือนจำ ระหว่างการอดอาหารประท้วงสิทธิประกันตัว



โดยนายชัยธวัช ให้สัมภาษณ์หลังร่วมงานสวดพระอภิธรรมคืนแรก ของนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง ถึงการเรียกร้องต่อรัฐบาลถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า วันนี้มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญเรื่องพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ซึ่งมีการยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการด้วย จึงได้หยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุยกัน โดยทางประธานคณะกรรมการธิการ ได้เสนอให้ทำหนังสือไปถึงนายกรัฐมนตรี ระหว่างที่ยังไม่มีกฎหมายนิรโทษกรรม



เฉพาะกระบวนการยุติธรรมในชั้นตำรวจ และชั้นอัยการ รวมถึงฝ่ายบริหาร สามารถหารือกับฝ่ายตุลาการได้ หากรัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจน ส่วนในสภาเอง จะมีการพิจารณาเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับ ป.วิอาญา ที่ทำให้สิทธิในการประกันตัวถูกรับรองอย่างแท้จริง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเป้าหมายระยะยาว แต่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ทั้งในบทบาทที่ตนเองอยู่ในคณะกรรมาธิการ และฝ่ายค้าน ต้องผลักดันข้อเสนอให้ฝ่ายบริหารมีนโยบายในการแก้ไขปัญหาเรื่องคดีทางการเมือง สิทธิในกระบวนการยุติธรรมของผู้ที่ถูกกล่าวหาจากการแสดงออกทางการเมืองโดยสันติ




นายชัยธวัช ระบุต่อว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างประธานกรรมาธิการการพิจารณาว่าจะมีกี่ข้อเสนอในการส่งให้รัฐบาล และประธานกรรมาธิการจะรับไปดำเนินการต่อ ซึ่งเรื่องการปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองที่ถูกคุมขังอยู่ในขณะนี้ ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง โดยปัญหาเรื่องการประกันตัวก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีเคยระบุเอาไว้ว่า เป็นปัญหาของศาล เพราะบางส่วนเป็นเรื่องของศาล แต่ฝ่ายบริหาร ถ้ามีนโยบายที่ชัดเจน ที่อยากคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง และช่วยฟื้นฟูนิติรัฐ ตามที่รัฐบาลเคยแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เราไม่ได้เสนอให้รัฐบาลเข้าไปแทรกแซงฝ่ายตุลาการ แต่รัฐบาลสามารถหารือพูดคุยกับฝ่ายตุลาการได้เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน เชื่อว่าจะส่งผลได้



นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า สิทธิในการประกันตัว เริ่มต้นได้ตั้งแต่ในชั้นตำรวจ ปัญหาที่ผ่านมาคือผู้ที่ถูกกล่าวหาในคดีทางการเมือง โดยเฉพาะคดีในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในช่วงหลัง ตำรวจจะไม่พิจารณาให้สิทธิการประกันตัวเลย เมื่อผู้ต้องหามารายงานตัว และรับทราบข้อกล่าวหา ก็จะส่งศาลฝากขังทันที ตำรวจก็จะโยนไปให้เป็นภาระของผู้พิพากษา ดังนั้น ในชั้นตำรวจรัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนมาก เพราะอยู่ภายใต้ การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี ซึ่งสามารถทำได้ในอนาคต



ส่วนความคิดเห็นของบางส่วนที่ออกมาบอกว่าพรรคก้าวไกลเป็นสาเหตุให้นางสาวเนติพรเสียชีวิต เพราะอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวทางการเมือง นายชัยธวัช ระบุว่า หากพิจารณาดี ๆ พรรคก้าวไกลไม่เคยสนับสนุนนางสาวเนติพร หรือการอดอาหาร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยข้อเท็จจริง คือเป็นการตัดสินใจโดยแต่ละท่านทั้งสิ้น อย่างกรณีของนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ตั้งแต่ครั้งแรกที่อดอาหารประท้วง เรามีความพยายามในการประสานติดต่อให้ยุติการอดอาหารประท้วง แต่สุดท้าย ต้องยืนยันว่า ตัวเขาเองเป็นผู้ที่ตัดสินใจ คงไม่มีใครที่จะผลักให้คนอื่นไปอดอาหารแล้วเสียชีวิต



นายชัยธวัช ระบุว่า ต้องมาดูว่าตอนนี้ปัญหาอยู่ตรงไหน โดยเปรียบเทียบเหมือนสุภาพสตรีที่ถูกข่มขืนเพียงเพราะแต่งกายโป๊ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่ต้นเหตุของปัญหานี้ คือ ปัญหาซ้ำซากของการไม่ได้รับสิทธิการประกันตัวในกระบวนการยุติธรรม จนสุดท้าย เมื่อถึงจุดหนึ่ง ก็เป็นวิธีการเดียวที่สามารถทำได้ในฐานะผู้ต้องขัง ทั้งที่ยังไม่ถูกพิพากษาว่ามีความผิด ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องนำมาพิจารณา ย้ำว่า สิทธิในการประกันตัวเป็นเรื่องของทุกคน ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่แต่ละท่านทำ หรือถูกกล่าวหา เรื่องนั้นให้ไปว่ากันในชั้นศาล โดยการไม่ให้ประกันตัว ควรเป็นเฉพาะกรณีเท่านั้น



ส่วนหลังจากนี้จะมีการช่วยเหลือผู้ต้องขังยังไง โดยเฉพาะนางสาวทานตะวันที่อดอาหารอยู่ นายชัยธวัช มองว่า คนที่ใกล้ชิดกับนางสาวทานตะวันเป็นห่วงแน่ ๆ และไม่มีใครอยากให้เกิดกรณีแบบนางสาวเนติพรอีก เราจึงต้องช่วยกันสื่อสารกับนางสาวทานตะวัน และอีกทางที่จะช่วยได้มากคือ หากมีสัญญาณที่ดีเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมาจากฝั่งไหนน่าจะเป็นปัจจัยที่จะช่วยทำให้ไม่เกิดโศกนาฏกรรมแบบนี้อีก



ส่วนจะมีการสื่อสารเรื่องนี้กับผู้ที่เคลื่อนไหวทั้งในสภา และนอกสภาอย่างไรต่อนั้น นายชัยธวัช ระบุว่า ตนเองห้ามไม่ได้ว่าจะมีใครโจมตี หรือกล่าวหาว่าพรรคก้าวไกลอยู่เบื้องหลังของคนหนุ่มสาว ซึ่งเป็นมาตั้งแต่ปี 2563 และยืนยันด้วยข้อเท็จจริงว่า เราไม่ได้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหว ที่ผ่านมาเป็นไปด้วยตัวเขาเอง และสิ่งที่เราพยายามทำคือการสื่อสารกับสังคม แม้ว่าจะไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหว หรือความคิดของคนรุ่นใหม่ แต่แนวทางที่ดีที่สุด เพื่อป้องกันการสูญเสียคือแนวทางสายกลาง ไม่ควรผลักให้ใครต้องสุดขั้วขึ้นไปเรื่อย ๆ เรื่องนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้



นายชัยธวัช ยังยกตัวอย่าง กรณีของนางสาวทานตะวัน เริ่มต้นจากการทำโพล และเกิดการตั้งคำถามว่า เกิดอะไรกับกระบวนการยุติธรรมในสังคมไทย เพราะสุดท้ายคนที่แค่ทำโพล ต้องออกมาแสดงออกในรูปแบบที่หลายคนมองว่าก้าวร้าวมากขึ้นเรื่อย ๆ นี่คือเรื่องที่เราต้องทบทวน และเราต้องช่วยกันชวนคิดกับคนรุ่นใหม่ว่า วิธีการสื่อสารแบบไหน ที่จะทำให้คนรับฟังมากยิ่งขึ้น แต่สถานการณ์ตอนนี้ คือ การอดอาหารประท้วงเพื่อเรียกร้องเพียงแค่สิทธิการประกันตัว คิดว่าเราต้องคุยตรงนี้ก่อน มิเช่นนั้น จะผิดประเด็นไปเรื่อย ๆ



”ทำไมคนบางกลุ่ม ถึงสามารถมีอภิสิทธิ์ได้รับการดูแลอย่างดีในกรมราชทัณฑ์ หรือว่าได้รับการปล่อยตัว ทั้ง ๆ ที่ในบางมิติถูกกระทำการรุนแรงกว่าด้วยซ้ำ ผมคิดว่าอย่าพึ่งผิดประเด็น การที่พยายามจะมาถามว่าพรรคก้าวไกลจะจัดการอย่างไร ผิดไปจากประเด็นของคนที่ต้องรับผิดชอบจริง ๆ“ นายชัยธวัช กล่าวทิ้งท้าย

คุณอาจสนใจ

Related News