สังคม

ก.เกษตรฯ แจงฝังกลบซากสัตว์ 74 ตู้ ก่อนถูกตรวจสอบ เหตุ DSI ยังไม่รับเป็นคดีพิเศษ

โดย panwilai_c

27 ม.ค. 2567

225 views

มีความคืบหน้า กรณีการฝังกลบซากสัตว์ 74 ตู้คอนเทนเนอร์ ที่ลักลอบนำเข้าและตกค้างในท่าเรือแหลมฉบัง และเกิดคำถามว่าเจ้าหน้าที่ สามารถนำของกลางไปฝังกลบได้เลยหรือไม่ เพราะพนักงานสอบสวนภูธรแหลมฉบัง ได้ส่งสำนวนทั้งหมดให้ดีเอสไอแล้ว และตอนนี้อยู่ระหว่างรอการออกเลขคดีพิเศษเท่านั้น



ล่าสุด ข่าว 3 มิติ ได้รับการชี้แจงจากที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า หลังจากกรมปศุสัตว์แจ้งความกับตำรวจแล้ว ก็ไม่เคยถูกเรียกไปให้ข้อมูล และไม่เคยได้รับแจ้งว่าจะส่งสำนวนให้ดีเอสไอ และยืนยันว่าเมื่อดีเอสไอยังไม่รับเป็นคดีพิเศษ ก็สามารถนำไปทำลายได้ตามเหตุที่เหมาะสม



อย่างไรก็ตาม ข่าว 3 มิติ ตรวจสอบจากหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ดีเอสไอ ได้รับการยืนยันว่าแม้ยังไม่มีเลขคดีพิเศษ แต่สถานะของตู้คอนเทนเนอร์ของกลาง ถือเป็นหลักฐานในสำนวนคดี ที่ต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานสอบสวนภูธรแหลมฉบังก่อน ว่าได้เก็บหลักฐานครบถ้วนแล้วหรือไม่ จึงจะอนุญาตให้นำไปทำลายได้



นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงกับข่าว 3 มิติ ต่อกรณีเจ้าหน้าที่ทำลายซากสัตว์เถื่อนจำนวน 74 ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งถูกตั้งข้องสังเกตว่าทำได้หรือไม่ เพราะสำนวนคดีนี้ พนักงานสอบสวนภูธรแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ เมื่อ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา และดีเอสไอตั้งคณะทำงานสืบสวน แต่ยังไม่ออกเลขคดีพิเศษ จึงถือว่าคดีนี้ยังไม่มีสถานะเป็นคดีพิเศษ



โดยนายธนดล ระบุว่านับจากที่ เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ไว้ที่ สภ.แหลมฉบัง เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566 กรณีพบตู้สินค้าที่ลักลอบนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย โดยภายในตู้พบซากสัตว์แช่แข็งนั้น แต่หลังจากแจ้งความไว้แล้ว นายธนคล ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ด่านกักสัตว์ชลบุรี ไม่เคยได้รับการติดต่อหรือแจ้งจากพนักงานสอบสวนภูธรแหลมฉบัง ให้ไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมในกรณีนี้แต่อย่างใด อีกทั้งไม่เคยได้รับแจ้งว่าพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ไปพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ



โดยนายธนดลยืนยันกับข่าว 3 มิติว่า พนักงานสอบสวนยังไม่เรียกเจ้าหน้าที่มาสอบและยังไม่ออกเลขคดีอาญา ทำให้ตู้คอนเทนเนอร์ทั้ง 74 ตู้ ที่เป็นของกลาง อยู่ในอำนาจของกรมปศุสัตว์ ดูแลของกลางโดยหัวหน้าด่านกักสัตว์ชลบุรี



คณะทำงานซึ่งประกอบด้วยท่าเรือ /ศุลกากรและกรมปศุสัตว์ จึงใช้อำนาจตาม พรบ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2542 ฝังกลบทำลายตามวิธีการที่ถูกตั้ง มีคณะทำงานที่ตั้งขึ้นติดตามอย่างใกล้ชิด โดยนายธนดล ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่มีอำนาจตามกฎหมายในการนำตู้บรรจุซากสัตว์เถื่อนไปทำลายอย่างถูกต้อง



ขณะที่ข่าว 3 มิติ ตรวจสอบจากพันตำรวจตรีณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรณีหมูเถื่อน ได้รับคำตอบว่า ดีเอสไอตั้งคณะทำงานสืบสวนเรื่องนี้แล้ว นับจากที่ได้รับสำนวนการสอบสวนจากภูธรแหลมฉบัง แต่เมื่อยังไม่เป็นคดีพิเศษ หรือยังไม่ได้ออกเลขคดีพิเศษ ตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว จึงอยู่ในอำนาจของพนักงานสอบสวนภูธรแหลมฉบัง โดยตู้สินค้ามี 2 สถานะ คือเป็นของกลางในคดีอาญา และเป็นพยานหลักฐานสำคัญในคดีอาญา การจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งกับของกลางนั้น จึงต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานสอบสวน



ข่าว 3 มิติ สอบถามไปที่พันตำรวจเอกปพนพัชร์ ใบยา ผู้กำกับสภ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี ได้รับคำตอบว่าเรื่องนี้ ส่งสำนวนและรายละเอียดทั้งหมดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษไปแล้ว



เมื่อทีมข่าว 3 มิติ ถามย้ำว่าเรื่องนี้ยังไม่ออกเลขคดีพิเศษ จึงยังถือว่าอยู่ในอำนาจพนักงานสอบสวนภูธรแหลมฉบังหรือไม่ และตำรวจภูธรแหลมฉบัง ได้อนุญาตให้มีการทำลายของกลางหรือไม่ ผู้กำกับการสภ.แหลมฉบัง ขอไม่ตอบในประเด็นนี้ และระบุว่าจะขอตรวจสอบอีกครั้ง



เป็นที่น่าสังเกตว่า หากคดีนี้พนักงานสอบสวนภูธรแหลมฉบังลงบันทึกประจำวันไว้ โดยไม่ออกเลขคดีอาญา และทำให้การกำกับดูแลของกลางอยู่ในอำนาจกรมปศุสัตว์ จนนำไปสู่การฝังกลบได้นั้น แล้วสำนวนคดีที่พนักงานสอบสวนภูธรแหลมฉบังนำส่งดีเอสไอเมื่อ 16 ธันวาคมนั้น จะมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ เพียงใด

คุณอาจสนใจ

Related News