ครม.อนุมัติโครงการพัฒนา 7 จว.ภาคใต้ ด้านนายกฯ ลงพื้นที่รับฟังกลุ่มค้าน 'แลนด์บริดจ์'

การประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดระนอง วันนี้นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความพอใจการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรครั้งนี้ ที่ได้มีมติสำคัญทั้งการพัฒนากลุ่ม 7 จังหวัดอันดามัน การยกเลิกครูเวร และการรับฟังความคิดเห็นโครงการแลนด์บริดจ์ ที่ภาคประชาชนเสนอตั้งคณะทำงานมาศึกษาผลกระทบอย่างรอบด้าน แต่นายกรัฐมนตรียังไม่ให้คำตอบ จึงให้เวลา 30 วันไปติดตามที่ทำเนียบรัฐบาล



นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ถ่ายภาพหมู่ร่วมกับคณะรัฐมนตรี ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่ศูนย์ราชการจังหวัดระนอง โดยคณะรัฐมนตรีสวมเสื้อผ้าลายทรัพย์รักษ์ระนอง ร่วมถ่ายภาพอย่างสวยงาม



นายกรัฐมนตรีพอใจการลงพื้นที่จังหวัดระนอง ซึ่งก่อนการประชุมได้เยี่ยมชม สินค้าผลิตภัณฎ์ soft power ของจังหวัดระนอง ทั้งผ้าบาติก กะปิด กาแฟ และการท่องเที่ยวของระนอง ซึ่งให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยผลักดันการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่ระนองมีบ่อน้ำพุร้อน และเชื่อมต่อการขนส่งเพื่อรงอรับการท่องเที่ยว



สำหรับผลกระประชุมคณะรัฐมนตรีที่สำคัญ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย เร่งรัดการให้สัญชาติ และการสร้างสะพานให้เด็กชาวมอแกนที่โรงเรียนบ้านเกาะพยาม และคณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการกลุ่ม 7 จังหวัดอันดามันภาคใต้ 13 โครงการมูลค่า 350 ล้านบาท และข้อเสนอของเอกชนอีก 202 ล้านบาท และเห็นชอบในหลักการของ พ.ร.บ.ประมงของรัฐบาล และเร่งรัดให้เข้าที่ประชุมครม.ในสัปดาห์หน้า



ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังมีมติให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 กรกฏาคม 2542 ยกเลิกให้ครูอยู่เวรรักษาการณ์ในโรงเรียนทุกสังกัด โดยให้จ้างพนักงานรักษาความปลอดภัย ติดตั้งกล้องวงจรปิดหรือใช้วิธีอื่นที่เหมาะสม ส่วนโครงการแลนด์บริดจ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โครงการนี้อยู่ในช่วงการโรดโชว์เชิญชวนนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งรัฐบาลมีข้อมูลเบื้องต้นเพียงพอที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจ และไม่มีสื่อต่างชาติวิจารณ์ โดยบริษัทดูไบ พอร์ท เวริลด์ ก็เตรียมลงพื้นที่จริงในเดือนหน้า และรัฐบาลต้องเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเหมาะสม



นายกรัฐมนตรี มารับหนังสือกลุ่มประชาชันคัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์ ด้วยตัวเอง ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา ศูนย์การศึกษาจังหวัดระนอง ซึ่งมีการประสานงานจัดพื้นที่ให้ภาคประชาชนมายื่นหนังสือจากประชาชนในจ.ชุมพร และระนอง ทั้งเครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ กลุ่มประมง และคนไทยพลัดถิ่นโดยตัวแทนยืนยันว่า เป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง จึงอยากให้รัฐบาลฟังเสียงประชาชน เสนอตั้งคณะทำงานมาศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งมีทั้งนักการเมือง นักวิชาการ และประชาชนในพื้นที่ โดยเห็นว่าที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีโรดโชว์ไปขายโครงการกับต่างๆทั้งๆที่ยังไม่ผ่านการศึกษาและได้รับความเห็นชอบกับประชาชน ทั้งๆที่เป็นโครงการมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท



นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมรับฟังเสียงของประชาชนเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาศึกษา ซึ่งยืนยันว่าโครงการแลนด์บริดจ์มีขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของภาคใต้ด้วย ซึ่งรัฐบาลมีแผนที่จะสร้างสนามบินอันดามันที่จังหวัดพังงา การแก้ปัญหาประมงและผลักดันซอฟท์พาวเวอร์ แต่ยังไม่ได้ตอบคำถามว่าจะตั้งคณะทำงานตามที่ภาคประชาชนเสนอหรือไม่



ขณะที่เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่มารับฟังด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะจริงใจนำความเห็นของประชาชนในพื้นที่ไปประกอบการพิจารณาโครงการ เพราะยังไม่รับปากเรื่องการตั้งคณะทำงาน จึงให้เวลารัฐบาล 30 วัน หากยังไม่มีคำตอบก็จะไปพบนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล