อาชญากรรม

"กัน จอมพลัง" พา 2 เคสคดีแก๊งลูกตำรวจ ร้อง DSI ตรวจสอบ

โดย kanyapak_w

22 ม.ค. 2567

192 views

วันที่ 22 มกราคม 2567 เวลา 10.00 น. บรรยากาศช่วงเช้าที่ผ่านมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นาย กัน จอมพลัง ได้พา ผู้ปกครองน้องอายุ 16 ปี เหยื่อแก๊งลูกตำรวจฟันเสียชีวิต ซ้ำโยนลงน้ำ และยังพาหลานของลุงเปี๊ยก มาให้ DSI ช่วยตรวจสอบ ซึ่งในคดีของเด็ก 16 ปี ที่เสียชีวิตจะให้ทาง DSI ตรวจสอบว่า ในระยะเวลา 2 ปี คดีถึงที่สุดแล้ว ศาลตัดสินแล้ว แต่ทำไมผู้เสียหายยังไม่ได้รับการเยียวยา




ส่วนกรณี หลานของลุงเปี๊ยก จะให้ทาง DSI ช่วยตรวจสอบตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของลุงเปี๊ยกกล่าวว่า เข้าข่าย พ.ร.บ. อุ้มหาย หรือไม่ หรือยังมีใครที่ต้องรับโทษอีกหรือไม่



ต่อมา นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง เปิดเผยว่า ผู้ปกครองเยาวชนอายุ 16 ปี ถูกแก๊งลูกตำรวจยกพวกมาถึง 10 คน รุมทำร้ายร่างกาย เอามีดไล่ฟัน จนน้องเสียชีวิต ส่วนเพื่อนของน้องได้รับบาดเจ็บสาหัส รวมถึงระหว่างการจัดงานศพของผู้เสียชีวิตยังเอาระเบิดไปปาที่งานศพ ขี่จยย. ไปเบิ้ลเครื่องใส่ที่งานศพ และไปข่มขู่ว่าจะฆ่าลูกของผู้ปกครองอีกหนึ่งคน กลุ่มคนที่ก่อเหตุยังมาฆ่าป้าบัวผันให้เสียชีวิตอีก หลังจากเกิดเหตุครอบครัวไม่ได้รับการเยียวยาแม้แต่บาทเดียว ในวันที่เกิดเหตุมีเพื่อนของน้องอยู่ในเหตุการณ์อีกสองคน คนนึงถูกมีดจับฟันที่แขนและขาอาการบาดเจ็บสาหัส ระยะเวลามาแล้ว 2 ปี คดีถึงที่สิ้นสุดแล้ว ศาลได้ตัดสินให้พ่อเป็นฝ่ายชนะคดี ให้ชดใช้ค่าเสียหาย แต่ทำไมถึงไม่ได้รับการเยียวยา ตนไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งในคดีของเด็ก 16 ปี ที่เสียชีวิตจะให้ทาง DSI ตรวจสอบว่า ในระยะเวลา 2 ปี ทำไมคดีถึงไม่มีความคืบหน้า



ตนเองขอตั้งคำถามว่า เหตุของน้องอายุ 16 ปีกับป้าบัวผันมีพฤติการณ์ที่คล้ายกัน คือการทำร้ายร่างกายและนำไปทิ้งน้ำ หากดำเนินคดีฐานแรก ตนมองว่าป้าบัวผันอาจจะไม่เสียชีวิต



ในส่วนของ วันที่ 20 ม.ค.64 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว แถลงข่าวกรณี การสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำผิด ในการสอบสวนคดีป้าบัวผัน มีข้าราชการตำรวจ สภ.อรัญประเทศ 2 นาย เข้าข่ายทำผิดวินัยตำรวจ ตาม พรบ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 และ 1 ใน 2 นาย ทำผิดเข้าข่ายกระทำผิดอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 ซึ่งทางน้องวิ หลานของลุงเปี๊ยก ยังมีข้อสงสัยหลายประเด็น ไม่รู้ว่าการตรวจสอบโปร่งใสหรือไม่ ไม่รู้ว่าการสอบสวนกันอย่าง ตำรวจที่เกี่ยวข้องมากกว่านี้หรือไม่



ในส่วนความผิด พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 (กฎหมายซ้อมทรมานและอุ้มหาย) พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะกล่าวโทษได้ ตำรวจทั้งสองนายมีส่งนเกี่ยวข้องหรือไม่ อยากให้ทาง DSI ตรวจสอบว่าในมุมมองของ DSI มีความเห็นว่าอย่างไร




ต่อมานายสมภพ (สงวนนามสกุล) พ่อของเยาวชนอายุ 16 ปี เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันที 4 ธ.ค.65 เป็น งานเทศกาลโต้ลมหนาวที่อำเภอโคกสูง กลุ่มลูกของตนไปเที่ยวที่งาน ถูกแก๊งลูกตำรวจไล่ฟันตั้งแต่ อำเภอโคกสูง จนถึง อำเภออรัญประเทศ บริเวณสระน้ำโรงปลา ซึ่งเหตุกาณ์นี้ทำให้ตนสูญเสียลูกชาย



เมื่อเห็นบาดแผลของลูก ซึ่งลูกโดนฟันที่ข้อเท้า 2 แผล , บริเวณหลัง , หน้าอก แต่พอขึ้นศาลมีการระบุบาดแผลเพียงแค่ว่ารอยแผลถูกฟันบริเวณข้อเท้าอย่างเดียว บาดแผลเหล่านี้เมื่อตนเห็น และได้ยินจากเพื่อนลูกเล่าพฤติการณ์ให้ฟัง รับไม่ได้กับสิงที่เกิดขึ้น เนื่องจากตนเองมองว่าเป็นพฤติกรรมที่อุกอาจ หลังจากก่อเหตุขณะนั้น แก๊งลูกตำรวจพวกนี้ยังไม่สลด ยังมีการไปก่อกวนที่งานศพด้วย ทั้งเบิ้ลท่อรถเสียงดัง ปาระเบิดปิงปอง เอามีดไปขีดข่วนกำแพงวัด ขับรถผ่านมีการชูนิ้วกลางให้



การทำสำนวนคดีของเจ้าหน้าที่ ว่าร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ตนมองว่าสำนวนอ่อนมาก เพราะตอนขึ้นศาลตนให้การลูกถูก กลุ่มวัยรุ่นฟันที่ข้อเท้า ก่อนล้มลงในสระน้ำ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จนเสียชีวิต ส่วนรายละเอียดอื่นๆไม่ปรากฏในสำนวน ส่วนตัวพ่อมองว่าเป็นเจตนาฆ่า เพราะไล่มาตั้งแต่อีกอำเภอ



ตนเองรู้สึกจุกในอกมาก ทรมานมาก นึกถึกแต่หน้าลูก เพราะมองว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรม อีกอย่างตนเคยร้องขอเยียวยาจากฝั่งก่อเหตุ 500,000 บาท ไปจัดงานศพ 9 วัด แต่ฝั่งญาติบอกว่ามากไปให้ไม่ได้ ก่อนบอกว่าไปเจอกันที่ศาล สุดท้ายฟ้องแพ่งชนะให้เยียวยา 1,020,000 บาท แต่ก็ไม่ได้รับการเยียวยา



หลังจากที่คุณกัน จอมพลัง ได้พาไปติดตามความคืบหน้าการติดตามความคืบหน้า ในส่วนของคดีอาญายังไม่ส่งฟ้อง ผู้กระทำความร่วม 10 คน แต่จับได้เพียงสามคน ซึ่งมีหนึ่งในกลุ่มห้าทรชนที่มีส่วนร่วมในการทำร้าย และเพื่อนของน้องอีก 3 คน ที่ถูกฟันแขน ฟันขา รวมถึงถูกสะเก็ดระเบิด ยังไม่มีการเยียวยาหรือดำเนินคดีใดๆ โดยร้อยเวรคนดังกล่าวได้มีการย้ายไปรับราชการต่อที่ สภ.วัฒนานคร



ส่วนตัวมองว่าถ้าแก๊งลูกตำรวจพวกนี้ถูกดำเนินคดี คงไม่มาเกิดเหตุแบบนี้กับป้าบัวผัน



ทางด้านของ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ เปิดเผยว่า วันนี้ทางผู้ร้องมาให้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมต้องเรียนว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งทาง อธิบดีได้มีการมอบหมายให้ ตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง และมีการสืบสวนแล้ว ในชุดการทำงานของกองอำนวยการยุติธรรม ซึ่งจะเข้าข่ายของพรบอุ้มหายหรือไม่ต้องไปดูข้อกฎหมาย และรับฟังข้อเท็จจริงทั้งหมดของพยานบุคคล จึงต้องรับฟังข้อเท็จจริงทั้งหมดซึ่งยังไม่ได้ตัดสินและยังไม่ สามารถที่จะระบุได้ว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาเนื่องจากเป็นคดีที่สำคัญก่อนที่จะพิจารณารับเครื่องมาอยู่ในข้อพิจารณาห้องที่ประชุมของคณะกรรมการคดีพิเศษ



ส่วนกรณีของน้องอายุ 16 ปี ที่เสียชีวิต จะรับเรื่องไว้และส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการตรวจสอบ



แท็กที่เกี่ยวข้อง  อาชญากรรม ,สระแก้ว ,ป้าบัวผัน

คุณอาจสนใจ

Related News