ยายร้องให้ช่วยลูกสาววัย 42 ปีติดยาคลั่ง ซ้ำยังเอายาให้ลูกน้อยกิน ก่อนข่มขู่จะฆ่าผู้เป็นแม่

วันนี้ 20 พ.ค.67 เวลา 10.00 น. ที่ สภ.ร่มเกล้า ถ. เคหะร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
กัน จอมพลัง คุณยายมาร้องทุกข์ เนื่องจากลูกสาว อายุ 42 ปี ติดยาเสพติดอย่างหนัก เคยเอายาเสพติดให้ลูกกินตั้งแต่ 9 เดือน จนต้องเข้าห้อง ICU มีพฤติกรรมคุ้มคลั่ง อาละวาด พูดจาไม่รู้เรื่อง ด่าคนในบ้าน และยังข่มขู่จะฆ่าผู้เป็นแม่ ก่อนหน้านี้เคยใช้มีดแทงที่ขาแม่แล้วหนึ่งครั้ง ชอบลักขโมยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน



ล่าสุดจะทำร้ายร่างกายแม่อีก จนชาวบ้านต้องเอาเชือกมามัด แต่ลูกสาวดิ้นหลุดจึงกระโดดลงน้ำแล้วหนีไป



คุณยายร้องให้ตนช่วยเนื่องจากกลัวความปลอดภัยเพราะลูกพกมีดตลอดเวลา อยากให้ตนเองช่วยพาตัวไปรักษา

ซึ่งในคลิปวิดีโอ จะเห็นว่า ลูกสาววัย 42 ปี ถูกชาวบ้านจับมัดมือเนื่องจากมีอาการคลุ้มคลั่ง พูดจาไม่รู้เรื่อง และยังต่อว่าแม่แท้ๆ ด้วยถ้อยคำที่หยาบคายก่อนที่จะปลดเชือก กระโดนลงน้ำลอยคอหนีไป



ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับนายกัณฐัศว์ หรือ กัน จอมพลัง เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อวานนี้ มีคุณยายท่านหนึ่งมาร้องขอความเป็นธรรมให้ช่วยเหลือลูกสาวอายุ 42 ปี ที่มีพฤติกรรมติด ยาเสพติดมานาน กว่า 30 ปี เคยแม้กระทั่งเอายาเสพติดป้อนให้ลูกอายุเพียง 9 เดือน ดื่มกิน จนน้องต้องเข้า ICU น้องรักษาตัวจนรอดชีวิตมาได้ นอกจากนี้ยังมีอาการคลุ้มคลั่ง อาละวาด ทะเลาะวิวาทกับชาวบ้านในชุมชนไปเรื่อยๆ หนักเข้าทะเลาะกับคนในบ้าน เอามีดแทงที่ขายายมาแล้วหนึ่งครั้ง



สาเหตุที่ลูกสาวสามารถหายาเสพติดมาเสพเองได้ เนื่องจากลูกสาวมีพฤติกรรมหากใครมียาเสพติด ก็จะยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วย เพื่อแลกกับยาเสพติด ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายเป็นอย่างมาก หากมีเด็กเกิดมาโดยไม่พร้อม



จนล่าสุดเมื่อวานนี้ ลูกสาวคุณยายเสพยาเสพติดจนหลอนอีก คุณยายถูกลูกสาวทำร้ายร่างกายถือมีดขู่จะฆ่า ยายเองต้องร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน จนเพื่อนบ้านต้องนำเชือกมาช่วยกันผูกไม่ให้ลูกสาวอาละวาด สุดท้ายลูกสาวดิ้นหลุด กระโดดหนีลงน้ำ ตอนนี้ยังติดตามตัวไม่ได้ ทำให้คุณยายเกิดความไม่สบายใจ กลัวลูกสาวแท้ๆจะย้อนกลับมาทำร้าย ตนจึงได้ประสานทาง พ.ต.อ.สมโภช ทองมูล ท่านผู้กำกับ สภ.ร่มเกล้า เพื่อจัดเจ้าหน้าที่ติดตามตัวมาและตนจะประสานไปที่ปลัดพัฒนาสังคม ท่านธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือรับตัวลูกสาวคุณยายไปบำบัด



ทางด้านของ นายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า การแก้ไขในกรณีดังกล่าว ต้องแก้ไขข้อกฎหมายบางส่วน เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ใช้สารเสพติดนับแสนคน และยังมีช่องว่างของเจ้าหน้า บางส่วนเจ้าหน้าที่ไม่มีอำนาจที่จะเข้ามาดูแล จัดการกับผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่



ในเรื่องของการบำบัดรักษา สำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ป่วยรายนี้ เสพยาเสพติดติดต่อกันมาเป็นเวลามากถึง 30 ปี มีอาการคลุ้มคลั่ง อาละวาด พูดจาวกวน ไม่รู้เรื่อง รวมถึงยังเคยนำยาเสพติดให้ลูกน้อยวัย 9 เดือน กินอีกด้วย ถือว่าเป็นผู้ป่วยหนัก ตนจึงได้ทำการประสานทางโรงพยาบาลศรีธัญญา เพื่อให้แน่ใจว่า ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาและบำบัด อย่างถูกต้อง และหายขาด เพื่อที่ผู้ป่วยจะได้กลับมาดำเนินการใช้ชีวิตด้วยตนเองได้