กกต. ไม่ตอบปม 'เงินดิจิทัลวอลเล็ต' ถูกหรือผิด ชี้ เป็นเรื่องของพรรคการเมือง-ประชาชน

ความเคลื่อนไหว เรื่องโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเลต วันนี้มีควาามเห็นจากเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งเรื่องนี้ แต่ไม่ชี้ว่า โครงการถูกหรือผิด ทั้งเรื่องแหล่งที่มาของเงิน หรือทำตามนโยบายหาเสียงหรือไม่ เนืองจาก กกต.มีอำนาจพิจารณาเพียงข้อกฎหมาย



นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งในฐานะที่ กกต. เป็นผู้พิจารณานโยบายนี้ก่อนหาเสียงเลือกตั้ง กล่าวว่าก่อนการหาเสียง มีการเสนอโครงการลักษณะนี้ กว่า 756 โครงการ งบประมาณรวม 70 ล้านล้านล้านบาท หน้าที่ ของ กกต. คือดูว่า นโยบายผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ อาทิ สัญญาว่าจะให้หรือเปล่า เข้าข่ายหลอกลวงหรือไม่ ใช้งบประมาณแผ่นดินอย่างไร อยู่ในอำนาจหน้าที่ที่จะทำได้หรือไม่ รวมไปถึงอยู่ในวิสัยที่จะทำได้หรือ



แต่ กกต. ไม่ได้พิจารณาว่าดีไม่ดี เพราะเป็นเรื่องของประชาชนตัดสินใจ พรรคการเมืองให้ข้อมูลกับประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแล้ว กกต.จะพิจารณาเพียงข้อกฎหมาย



คุณแสวง บอกว่า ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลมีโครงการที่หาเสียงไว้ บางครั้งก็ไม่ทำเลย บางครั้งก็ทำต่างจากที่หาเสียงไว้ ซึ่ง กกต.ก็ต้องมาดูว่า การที่รัฐบาลทำเพียงบางส่วนของนโยบาย หรือไม่ทำเลย หรือทำไม่ตรง นั้น ผิดกฎหมายหรือไม่ และต้องดูว่ากฎหมายอนุญาตให้ กกต.ตรวจสอบได้แค่ไหน



และตนเองก็ไม่สามารถตอบได้ว่า แหล่งที่มาของเงินในโครงการ ผิดจากที่หาเสียงไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ เพราะ กกต. จะพิจารณาเพียงการใช้เงินว่าแหล่งเงินมาจากไหน อีกทั้ง กกต.ก็ไม่มีหน้าที่วินิจฉัยหรือให้ความเห็น เรื่องนี้ให้กับรัฐบาลได้



ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นถึง ข้อเสนอแนะ ของ ป.ป.ช. ที่มีต่อ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า โครงการนี้ ถ้าไม่ทำหรือทำไม่ได้ก็เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล เพราะเป็นผู้ริเริ่มนโยบาย ทั้งในส่วนที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน และแถลงนโยบายต่อรัฐสภาด้วย



ถ้าทำก็ต้องทำแบบไม่ให้มีการทุจริต ผิดกฎหมายและเกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจด้วย เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยจำนำข้าวที่เกิดการทุจริตกระทำผิดกฎหมายและสร้างความเสียหายกับประเทศมหาศาล

จนถึงวันนี้ก็ยังใช้หนี้ไม่หมด



ส่วนจะทำอย่างไรขึ้นอยู่กับรัฐบาล เมื่อเป็นคนผูกแล้วก็ต้องเป็นคนแก้และกรณีนี้จะเป็น บทเรียนสำคัญกับประชานิยมให้ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น