อาชญากรรม

เปิดผลชันสูตร 'ป้าบัวผัน' เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง กะโหลกแตก ซี่โครงหัก ด้าน 'แม่เชน' ย่องกราบขอโทษญาติ

โดย petchpawee_k

20 ม.ค. 2567

609 views

เปิดผลชันสูตรป้าบัวผัน เสียชีวิตจาก “เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองร่วมกับภาวะอกรวน” - พบกะโหลกแตกบิ่น ซี่โครงหัก 5 ซี่ ขณะที่หน้าผากซ้ายแผลฉีกขาดลึกถึงกะโหลกยาว 15 ซม.  ด้านแม่เชน กราบขอโทษญาติป้าบัวผัน มอบซองทำบุญ - พี่สาวเผย เตรียมเผาศพวันนี้ (20 ม.ค.) แม้ก่อนหน้าอยากให้ได้รับความเป็นธรรมก่อน แต่ไปต่อไม่ไหว ติดปัญหาค่าใช้จ่าย  วอนแก้กฎหมายเด็ก ทำผิดต้องรับโทษเหมือนผู้ใหญ่


วานนี้ (19 ม.ค.67) ทีมข่าวลงพื้นที่ไปที่สำนักสงฆ์วัดป่าหนองน้ำใส อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพป้าบัวผัน ซึ่งคืนวานนี้มีการตั้งบำเพ็ญกุศลศพเป็นคืนสุดท้าย และได้ข้อมูลจากป้าปราง มลใสกุล พี่สาวของป้าบัวผัน ถึงผลชันสูตรพลิกศพป้าโดยละเอียด พบว่าสาเหตุการเสียชีวิตโดยตรงคือ “เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองร่วมกับภาวะอกรวน”


สภาพศพภาพนอก : ปรากฏบาดแผลฉีกขาดความยาวประมาณ 15 เซนติเมตร บริเวณหน้าผากด้านซ้ายยาวมาจนถึงกลางหน้าผากลึกถึงกะโหลกศรีษะ และพบบาดแผลฉีกขาดขนาดประมาณ 5 เซนติเมตรบริเวณขมับซ้ายลึกถึงกะโหลกศรีษะ ร่วมกับกะโหลกศีรษะแตกบิ่นบริเวณใต้ต่อบาดแผล


ส่วนสภาพศพภายใน บริเวณศีรษะ : กะโหลกศีรษะแตกบิ่น บริเวณใต้ต่อบาดแผลบริเวณขมับด้านซ้าย  พบเลือดออกใต้เยี่ยหุ้มสมองฉันนอกซีกขวา  ส่วนบริเวณทรวงอกพบว่ากระดูกซี่โครงซี่ที่ 3-7 หักเป็นหลายท่อน และลมรั่วในช่องอก


นอกจากนี้ ป้าปราง ยังได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่าเมื่อคืนวันที่ 18 ม.ค.67 ที่ผ่านมาแม่ของ ด.ช.เชน หนึ่งในเด็กผู้ก่อเหตุ พร้อมด้วยคนใกล้ชิด ได้เดินทางมาที่งานศพของป้าบัวผันเพื่อพูดคุยกับตัวเอง โดยเดินทางมาในช่วงดึกหลังจากสวดอภิธรรมเสร็จแล้ว  ซึ่งตอนนั้นญาติๆ รวมถึงคนที่มาร่วมงานต่างกลับบ้านไปหมดแล้ว

แม่ของ ด.ช.เชนมากราบขอโทษตัวเอง และมอบซองทำบุญ ซึ่งภายในซองมีเงินอยู่ 10,000 บาท  นอกจากนี้แม่ ด.ช.กัส ยังฝากซองมาทำบุญก่อนด้วยจำนวน 5,000 บาท เพื่อร่วมทำบุญกับป้าบัวผัน


ทีมข่าวได้คลิปช่วงที่แม่ของ ด.ช.เชน เข้ามากราบขอโทษ พี่สาวป้าบัวผัน บางช่วงบางตอนมีทั้งกราบ และบอกว่า “ขอโทษ ขอโทษจริงๆนะคะ”


ขณะที่เสื้อขาวในคลิปที่มากับแม่ ด.ช.เชน พูดว่า “มันทารุณ ผมสะอื้นตั้งแต่วันนั้นแล้ว  ส่วนแม่ ด.ช.ก็พยายามพูดขอโทษ ซี่งป้าปราง พี่สาวป้าบัวผัน ก็บอกไปว่า “เขาอยู่ในสภาพนั้นยังมาทำเขาได้ เขาไม่มีทางสู้เขาอยากจะหนีตายแต่เขาหนีไม่รอด

จากนั้นแม่ ด.ช.เชน ได้มอบซองทำบุญให้ป้าปรางบอกว่า “อันนี้เราขอช่วยงานนี้ก่อนนะคะ”

ป้าปราง เล่าต่อว่า ถ้าเป็นซองทำบุญตัวเองจะรับไว้ แต่หากเป็นเงินที่จะช่วยเหลือเยียวยาตรงนี้ไม่ขอรับเงินจากครอบครัวของผู้ก่อเหตุ แม้ว่าจะมีการมากล่าวขอโทษแล้วก็ตาม ในฐานะญาติของผู้เสียชีวิต ตัวเอง ยืนยันว่าจะไม่ขอรับคำขอโทษและการขอขมาจากครอบครัวของอีกฝ่าย เพราะตลอดระยะเวลาที่มีการสวดพระอภิธรรมที่ผ่านมา ตั้งแต่ 12-18 ม.ค.ไม่ได้มีญาติของผู้ก่อเหตุมาร่วมงานศพเลยแม้แต่คืนเดียว


ป้าปราง ยังบอกอีกว่า วันที่แม่ของ ด.ช.เชน มา ก็ไม่ค่อยพูดอะไร และตนมองว่าไม่มีพ่อแม่ที่ไหนจะไม่รู้ว่าลูกไปทำอะไร  ถ้าไม่รู้แสดงว่าไม่สนใจอะไรลูกแล้ว  ส่วนสีหน้าท่าทางแม่ของ ด.ช.เชน วันที่มามีสีหน้าเศร้าอย่างเห็นได้ชัด


เมื่อถามว่าวันนี้ (20 ม.ค.67) เป็นวันเผาศพถ้าญาติจะมาร่วมพิธีด้วยตัวเองยินดีหรือไม่ ป้าปราง บอกว่าตอนนี้ตัวเองไม่พร้อมที่จะเจอหน้าญาติของฝั่งผู้ก่อเหตุจึงไม่ได้อยากให้ญาติของอีกฝ่ายมาร่วมงาน  อยากจัดงานให้ผ่านไปด้วยดี

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ป้าปรางยืนยันว่าจะยังไม่เผาศพป้าบัวผัน จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม แต่ล่าสุดเปลี่ยนใจมาเผาศพประเด็นนี้เกิดจากสาเหตุใด ป้าปราง บอกว่า เนื่องจากติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ไปต่อไม่ไหว ซึ่งตนก็ได้กู้ยืมเงินพี่น้องมาเป็นจำนวนมากแล้ว จึงตัดสินใจฌาปนกิจศพน้องสาววันนี้ (20 ม.ค.67)

เมื่อถามว่าตอนนี้มองว่าป้าบัวผันได้รับความเป็นธรรมแล้วหรือยัง ป้าปราง บอกว่า ในใจยังแอบคิดอยู่ แต่ก็รู้สึกสบายใจขึ้น เพราะสื่อมวลชนช่วยกันเรียกร้องความเป็นธรรม ซึ่งตัวป้าเองก็ขอบคุณมาก ช่วงท้ายป้าปรางน้ำตาคลอ ฝากถึงน้องสาวเป็นครั้งสุดท้ายว่า “ตัวเองคิดถึงน้องมาก ขอให้ไปสู่สุคติ ขอให้ไม่ให้ต้องเจ็บ ไม่ต้องปวดอีกแล้ว”

ส่วนกรณีที่ผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชน ป้าปราง มองว่า อยากให้มีการแก้กฎหมายให้รับโทษเหมือนกันหมด เพราะทำผิดไม่อยากให้รับโทษตามกฏหมายเยาวชน

ส่วนประเด็นคลิปเสียงที่ตำรวจคุยกันแล้วช็อกหลังรู้ว่าคนก่อเหตุไม่ใช่ลุงเปี๊ยกแต่เป็น 5 ทรชน ป้าปรางบอกว่า “ในใจป้าคิดตลอดว่าลุงเปี๊ยกไม่ได้ทำ เพราะเป็นคนสติไม่ค่อยดีเหมือนกัน และ ไม่สามารถอุ้มป้าบัวผันได้อย่างแน่นอน จึงงงว่าถ้าไม่ผิดแล้วไปรับสารภาพให้ตัวเองผิดทำไม” สุดท้ายตังเองอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้น้องสาว อย่างถึงที่สุดและอยากให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษให้เท่ากับสิ่งที่เขาทำเพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันโหดร้ายเกินไป

------------------------------------------

'แม่เชน' ลูกตำรวจ โฟนอินมาขอโทษสังคม ยืนยันไม่มีใครจับ ลุงเปี๊ยก เพื่อช่วยลูกตัวเอง ก้มหน้ารับสังคมกระหน่ำเพราะเป็นลูกตำรวจ ยอมรับผิดทุกอย่างขอให้กฎหมายลงโทษกันไป

วานนี้ (19 ม.ค.) แม่ของเชน หนึ่งในผู้ต้องหาคดีนี้ โฟนอินเข้ามาในรายการโหนกระแส ขอโทษสังคม ขอโทษชาวอรัญฯ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่รุนแรง และไม่น่าให้อภัย แม่ก็อยากจะใช้พื้นที่ตรงนี้ในการขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “การกระทำมันรุนแรงมาก และมันไม่น่าให้อภัย”


ตั้งแต่เกิดเรื่องเชนอยู่กับแม่ พอรู้เรื่องก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น บอกมาให้หมด  พ่อที่เป็นตำรวจได้ถามลูกว่า ไปทำอะไรมาบ้าง จากนั้นก็พาไปมอบตัวโดยแม่เป็นคนพาไปเอง ส่วนพ่อของเชนพนักงานสอบสวน ก็ได้สอบปากคำ

ส่วนที่บอกว่า พ่อของเชนที่เป็นตำรวจ เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องคดีนั้นไม่จริงเลย ซึ่งเรื่องนี้พ่อน่าจะให้การกับคณะกรรมการสอบสวนไปแล้ว ส่วนพฤติกรรมของลูกชาย เคยมีประวัติไปก่อเหตุอะไรไหม แม่ไม่รู้เลย มารู้พร้อมๆ กับสังคม หรืออาจจะรู้ทีหลังโซเชียลก็เป็นได้ จากการที่มีคนส่งข่าว ส่งอะไรมาให้ดู


คุณแม่ยังเปิดเผยว่า วันต่อมาหลังจากฆ่าป้ากบแล้วเชน ก็มีอาการปกติ อยู่กับพ่อแม่ เชนเป็นคนเงียบๆ และมีโลกส่วนตัวสูง ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่กับแม่ มากกว่าพ่อ เขาจึงเงียบๆ ไม่ค่อยพูดอะไร  


“และขอยืนยันว่าจะไม่ช่วยลูก เมื่อทำผิดร้ายแรง ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย”


สิ่งหนึ่งที่อยากบอก เป็นสิ่งที่อัดอั้นตันใจ ก็คือ ตนก็ชาวบ้านธรรมดา พ่อเขาก็ตำรวจยศน้อยๆ การที่สื่อออกมาบอกว่า ตำรวจไปจับลุงเปี๊ยกมารับผิดแทนเด็ก ตนเจ็บปวดนะ มันไม่เป็นความจริง คนที่โดนความจริงคือแม่ไอ้เชน เพราะมันเป็นลูกตำรวจ เขาไม่มีโอกาสออกมาพูด สังคมก็ไม่รับฟัง


ตนก็อยากตำหนิ อยากต่อว่าตำรวจเหมือนกัน ถ้าเขาสืบไปว่าเด็ก 5 คนไปทำตรงนี้ แล้วตำรวจจับเด็กไป มันก็อาจจะดูรุนแรง แต่ตนจะไม่โดนหนักขนาดนี้เลย ถ้าไม่มีการจับผิดคน  ถามว่าเขาจะมาทำแบบนั้นให้ตนทำไม ไอ้เชนมันไม่ใช่ลูกเจ้าสัว ไม่ใช่ลูกคนรวย พี่ๆ ตำรวจเขามีอนาคตไกล เขาจะเอาตำแหน่งหน้าที่มาแลกกับไอ้เชนเหรอ ตนถามแค่นี้

-----------------------------------------------------
'โฆษกกรมพินิจฯ' เผย 'แก๊งลูกตำรวจสระแก้ว' 5 ทรชนทำร้ายป้าบัวผัน แยกคุมตัว 'แบงค์-โก๊ะ-บิ๊ก' คุมตัวสถานพินิจฯ จันทบุรี ขณะที่ 'เชน-กัส' 2 ลูกตำรวจคุมตัวสถานพินิจฯ ระยอง แย้ม พบต้นตอพฤติกรรมรุนแรง เหตุ "ครอบครัวหย่าร้าง-ไม่สมบูรณ์" พร้อมเปิดอาการล่าสุด เด็กกังวลเรื่องคดี หลังเริ่มเห็นผลกระทบ

ด้านนายโกมล พรมเพ็ง รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ในฐานะโฆษก เปิดเผยว่า เด็กผู้ก่อเหตุทั้ง 5 รายยังอยู่ในการควบคุมของสถานพินิจฯ โดยวันที่ 18 ม.ค. ได้มีการส่งตัวเยาวชน 3 ราย ประกอบด้วย ด.ช. อายุ 13 ปี (แบงค์) ด.ช. อายุ 14 ปี (โก๊ะ) และ ด.ช. อายุ 16 ปี (บิ๊ก) ไปควบคุมไว้ที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดจันทบุรี โดยยังอยู่ระหว่างการกักโรคโควิด-19


ส่วนสาเหตุที่ย้ายจากสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสระแก้วนั้น เป็นเพราะสถานพินิจฯ จังหวัดสระแก้วเป็นสถานที่ควบคุมชั่วคราว มีลักษณะเป็นห้องแถวไม่เหมาะสมกับการดูแลเด็กระยะยาว ซึ่งปกติจะควบคุมเพียง 3-5 วันก่อนส่งตัวไปต่อสถานพินิจฯที่มีแดนแรกรับในโซนภาคตะวันออก คือ สถานพินิจฯ จันทบุรี จึงเป็นเหตุผลดังกล่าว


ส่วนอีก 2 รายที่เป็นลูกตำรวจ ได้แก่ ด.ช. อายุ 14 ปี (เชน) และ ด.ช อายุ 13 ปี (กัส) จะมีการส่งตัวไปควบคุมไว้ที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดระยอง เพราะ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มองว่าทั้งหมดต้องแยกออกจากกัน เกรงว่าหากอยู่รวมกันจะเกิดปัญหาตามมา หรือเกิดการสมคบให้ถ้อยคำในบางประเด็นที่อาจทำให้เสียรูปคดีได้ เพราะทางเจ้าหน้าที่ต้องมีการตรวจสอบเป็นรายบุคคล

เท่าที่ตนได้รับรายงานมา ทราบว่าเด็กทั้งหมดให้ความร่วมมือดี อยู่ในท่าทีสงบเรียบร้อย และไม่พบความก้าวร้าว แต่ในส่วนของความวิตกกังวล ตนมองว่าเด็กจะค่อนข้างวิตกในเรื่องของคดีมากกว่า เพราะตอนก่อเหตุอาจยังไม่ทันคิดถึงผลที่ตามมา แต่พอตอนนี้คงรับรู้โดยถ่องแท้แล้วว่าสร้างผลกระทบต่อตนเอง คนรอบข้างและครอบครัวขนาดไหน ซึ่งในเรื่องนี้ทางนักจิตวิทยาจะรับหน้าที่ในการวิเคราะห์พฤติกรรมและจะมีการประชุมร่วมกับนักสหวิชาชีพ นักสังคมสงเคราะห์ พยาบาล และคณะกรรมการ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยังไม่พบว่าเด็กมีอาการเซื่องซึมหรือเศร้าเสียใจฟูมฟาย แต่ไม่มีความร่าเริง ถือเป็นเรื่องปกติ อาจอยู่ในช่วงของการปรับตัว 


https://youtu.be/NwtfrA99ji8

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ป้าบัวผัน

คุณอาจสนใจ

Related News