อดีต รอง ผบ.ตร. ชี้ตำรวจอรัญประเทศ สะเพร่าทำคดีฆ่า "ป้าบัวผัน" จนจับแพะ

พลตำรวจเอกวินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และปัจจุบันเป็น ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ เปิดเผยถึงประเด็นที่สังคมตั้งคำถามถึงตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ที่มีการจับกุม ลุงเปี๊ยก ว่าเป็นคนร้ายที่ฆ่า ป้าบัวผัน ซึ่งเป็นภรรยา โดยมีการนำตัวลุงเปี๊ยก ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และนำตัวไปฝากขังที่ศาล แต่สุดท้ายเป็นการจับผิดตัว หรือที่เรียกว่าจับแพะ

โดย พลตำรวจเอกวินัย ยอมรับว่า การทำงานของตำรวจ สภ.อรัญประเทศ มีความบกพร่อง และมีความต้องการที่จะรีบปิดคดี โดยอาศัยเพียงคำรับสารภาพของลุงเปี๊ยก ซึ่งเป็นคนเมาสุรา และประจักษ์พยานที่บอกว่าก่อนหน้านี้ลุงเปี๊ยก เคยทะเลาะตบตีป้าบัวผัน หลายครั้ง จนทำให้ชุดทำงานตั้งธงไว้ล่วงหน้าว่าลุงเปี๊ยก ต้องเป็นผู้ก่อเหตุ โดยไม่มีการแสวงหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ หรือพยานแวดล้อมอื่น ๆ มาประกอบ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญที่จะให้รูปคดีมีความรัดกุม ซึ่งเป็นหลักการทำงานเบื้องต้น

แม้ว่าในเวลาต่อมา ตำรวจชุดสืบสวนจะไปไล่กล้องวงจรปิด จนรู้ว่าผู้ก่อเหตุที่แท้จริงเป็นกลุ่มเยาวชน 5 คน และมีการนำตัวลุงเปี๊ยก ออกมาจากเรือนจำ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ตำรวจชุดทำงานจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ว่า เป็นการจับแพะ และเป็นความสะเพร่า ที่ทำให้คนบริสุทธิ์ต้องรับโทษ

นอกจากนี้ พลตำรวจเอกวินัย ยังเห็นด้วย ที่จะมีการแก้กฎหมาย ปรับลดอายุเยาวชนจาก 15 ปี เหลือ 12 ปี ให้ต้องได้รับโทษทางอาญา เพราะเยาวชนสมัยก่อนกับปัจจุบัน แตกต่างกันมาก ในเรื่องพฤติกรรมการก่อเหตุ ที่จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้ เด็กก่อเหตุอาชญากรรมมีมากขึ้น

ที่สำคัญ การให้เด็กได้รับโทษ จะต้องดูพฤติกรรมทางคดีประกอบด้วย ว่ามีการวางแผน หรือก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม อุกอาจ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายหรือไม่ ถ้าเข้าองค์ประกอบลักษณะนี้ ก็ควรที่จะได้รับโทษเทียบเท่ากับผู้ใหญ่