สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 17 ม.ค.67 เลื่อนประชุมเงินดิจิทัล-แฉวีรกรรม 5 ทรชนฆ่าป้าบัวผัน-สั่งเพิ่มโทษ ตร.ชนหมอกระต่าย

โดย thichaphat_d

17 ม.ค. 2567

53 views

1.แฉวีรกรรมผู้ต้องหาคดีป้าบัวผัน มีคดีค้างเก่าเพียบ

ชาวบ้านรุมสับลูกตำรวจสระแก้ว ผู้ต้องหาคดีป้าบัวผัน พบตั้งชื่อแก๊งตังค์ไม่ออก ก่อเหตุร้ายพบป้าบัวผันไม่ใช่เหยื่อรายแรก มีคดีค้างเก่าทั้งฆาตกรรมและรุมโทรม ชอบรวมตัวสร้างความวุ่นวาย ขโมยของ ขู่เผาบ้าน ถูกตักเตือนไปหลายครั้ง ยังไม่สลด ไม่คาดคิดจะกล้าลงมืออย่างโหดเหี้ยม

ด้านผู้บัญชาการภาค 2 เผย พ่อของเยาวชนก่อเหตุทำร้าย ไปถามตำรวจด้วยกันทราบว่า เป็นตำรวจน้ำดี ทำงานตรงไปตรงมา พร้อมยันพ่อของเยาวชนไม่รู้เรื่องที่ลูกไปก่อเหตุ

2.ญาติร้องบิ๊กโจ๊ก ขอความเป็นธรรม คดี 5 เยาวชนฆ่าป้าบัวผัน

ญาติป้าบัวผันที่เสียชีวิตที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายร่างกาย ร้องบิ๊กโจ๊ก ขอความเป็นธรรมในคดี หลังพบ 1 ในผู้ก่อเหตุ เป็นลูกตำรวจในพื้นที่ สงสัยมีขบวนการสร้างเรื่องให้ลุงเปี๊ยกรับสารภาพ ก่อนระบุรับไม่ได้กับความโหด ฟังคลิปเสียงทรชนเล่านาทีฆ่า ลั่นมันไม่ใช่คนแล้ว ไม่เชื่อปมตำรวจบอกลุงเปี๊ยกรับสารภาพ เพราะติดสุราเรื้อรัง พูดไปเรื่อย ยืนยันแม้ดื่มบ้าง แต่พูดรู้เรื่อง ด้านรัฐมนตรี พม.เผยส่งสหวิชาชีพร่วมสอบ 5 เยาวชน

3.บิ๊กโจ๊ก ลงพื้นที่ดูคดี ป้าบัวผัน ลั่นต้องจบวันนี้

บิ๊กโจ๊กลงพื้นที่สระแก้ว นั่งหัวโต๊ะดูคดีป้าบัวผัน หลังกัน จอมพลัง พาญาติเข้าพบ หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลั่นไม่ปกป้อง หากตำรวจทำผิด ย้ำลุงเปี๊ยกปลอดภัยดี แต่หากพบให้การเท็จ จะต้องถูกดำเนินคดี รอฟันตำรวจชี้นำข่มขู่ เห็นด้วยกับ ผบ.ตร.ลดอายุอาชญากรเด็ก แต่มองว่าเป็นมาตรการระยะยาว

ด้านลุงเปี๊ยกระบุปมรับสารภาพก่อนหน้านี้ รับสร้างเรื่องขึ้นมาเพราะเสียใจที่แฟนเสียชีวิต และถูกชาวบ้านหาว่าเป็นคนฆ่าเมีย

4.ตำรวจยันคดี โยโกะ ไม่ซับซ้อน รอชี้แจงแม่พรุ่งนี้

ตำรวจเรียกนิติบุคคล รปภ. และเจ้าหน้าที่คอนโด ที่โยโกะอาศัยอยู่มาสอบปากคำ พร้อมชี้แจงแม่พรุ่งนี้ ตำรวจตอบคำถามได้ทุกประเด็น ส่วนการสอบปากคำเพื่อนชายคนสนิท ให้การสอดคล้องในสำนวน ยันไม่หนักใจ ไม่มีอะไรซับซ้อน ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดที่มีบางช่วงหายไป เพราะกล้องเป็นระบบจับความเคลื่อนไหว ถ้ามีวัตถุหรือคนเดินผ่านจึงจะจับภาพ ส่วนเรื่องการซื้อยาไซยาไนด์นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นที่เดียวกับที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้หรือไม่

5.ศาลอุทธรณ์สั่งเพิ่มโทษคุก 5 ปี 1 เดือน คฝ. ขับรถชนหมอกระต่าย

ศาลอุทธรณ์สั่งแก้เพิ่มโทษ ตำรวจคฝ.ขับบิ๊กไบค์ชนหมอกระต่าย เสียชีวิตบนทางม้าลาย จากจำคุก 2 ปี 1 เดือน เป็น 10 ปี 2 เดือน แต่จำเลยสารภาพลดโทษเหลือ จำคุก 5 ปี 1 เดือน ปรับ 4 พันบาท ไม่รอลงอาญา ชี้พฤติการณ์ร้ายแรงเป็นตำรวจแต่ไม่เคารพกฎหมาย ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในสังคม ก่อนนำตัวเข้าเรือนจำ ระหว่างรอศาลฎีกาให้พิจารณาประกันตัว

6.ครม.เห็นชอบลดภาษีดีเซล 1 บาทต่อลิตร นาน 3 เดือน

ครม.เห็นชอบขยายเวลาปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 1 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ส่วนการเก็บค่าไฟฟ้า ม.ค.-เม.ย.67 สำหรับกลุ่มผู้ใช้ไฟทั่วไป หน่วยละ 4.18 บาท ส่วนกลุ่มเปราะบางหน่วยละ 3.99 บาท เพื่อช่วยลดภาระให้ประชาชน คาดมีผลวันนี้ สูญเสียรายได้ 6,000 ล้านบาท

7. อาลัย หญิง จุฬาลักษณ์ เสียชีวิตจากมะเร็งเต้านม

ครอบครัว-เพื่อนสนิทร่วมอาลัย กับการจากไปของหญิง จุฬาลักษณ์ นักแสดงยุค 90 ที่เสียชีวิตจากมะเร็งเต้านม ด้วยวัย 45 ปี บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า หลายคนร่ำไห้ คุณแม่เผยหญิงป่วยมานาน 10 ปี สู้มาตลอด แต่ปลายปีที่แล้วพบลามมาที่ไต ตอนแรกอาการดีขึ้น แต่พอจะให้คีโมต่อก็ไม่ไหวแล้ว



เรื่องเล่าการเมือง

-เปิดรายงาน ป.ป.ช. ปมแจกเงินดิจิทัล ชี้จุดเสี่ยง แนะรัฐบาลทำ 8 ข้อ


นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลทำท่าจะมีอุปสรรคเพิ่มขึ้น เมื่อมีการเปิดรายงานการศึกษาของ ป.ป.ช.ออกมา ซึ่งมีทั้งการชี้จุดที่เป็นความเสี่ยงและข้อเสนอแนะที่รัฐบาลควรทำ

สำหรับรายงานของคณะกรรมการเพื่อศึกษาและดำเนินการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล ที่มีการเผยแพร่ออกมา หน้าปกระบุว่าเป็นข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล กรณีการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต มีทั้งหมด 177 หน้า แบ่งเป็นส่วนของเนื้อหา 57 หน้า ส่วนที่เหลือเป็นภาคผนวก

สาระสำคัญในรายงาน มีการระบุว่าจากข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับนโยบายนี้ พบว่ามีประเด็นที่ควรพิจารณา คือ ความเสี่ยงต่อการทุจริต /ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ / ความเสี่ยงด้านกฎหมาย และประเด็นอื่น ๆ เช่น เรื่องการกำหนดนโยบายของพรรคการเมือง ที่มีความเสี่ยงที่พรรคการเมืองจะนำนโยบายที่เป็นไปได้ยากหรือไม่มีการศึกษาอย่างรอบคอบมาหาเสียง

ซึ่งจากประเด็นความเสี่ยงดังกล่าว จึงมีข้อเสนอต่อ ครม.เพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาลในโครงการนี้ 8 ข้อ เช่น

-รัฐบาลต้องศึกษาวิเคราะห์ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมว่าผู้ได้รับผลประโยชน์จะไม่ใช่พรรคการเมือง หรือ บุคคลรายใดรายหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่

-ในการเสียงของพรรคเพื่อไทยกับที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภามีความแตกต่างกัน กกต.จึงควรตรวจสอบว่าขัดรัฐธรรมนูญ และกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่ มิฉะนั้นจะเป็นบรรทัดฐานว่าพรรคการเมืองจะหาเสียงไว้อย่างไรก็ได้ เมื่อได้รับเลือกตั้งแล้วไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม

-รัฐบาลต้องประเมินความเสี่ยงด้านกฎหมาย ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจอย่างรอบคอบ รอบด้าน

-การดำเนินนโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่เข้าขั้นวิกฤต ควรพิจารณาที่กลุ่มเปราะบางที่สุดที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง

-และ รัฐบาลควรใช้แอปเป๋าตังกับโครงการนี้

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ได้เปิดเผยกับทีมข่าวการเมืองของเราว่า คณะกรรมการศึกษานโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ที่มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ เป็นประธาน ได้เสนอรายงานการศึกษาเข้าที่ประชุม ป.ป.ช.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเอกสารรายงานที่มีการเผยแพร่ทางสื่อมวลชนเป็นของจริงหรือไม่

ทั้งนี้ที่ประชุมได้มอบหมายให้กรรมการ ป.ป.ช.แต่ละท่านนำกลับไปดูรายละเอียดว่าจะมีข้อท้วงติง หรือ ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมอีกหรือไม่ และยังไม่ได้มีการกำหนดว่าจะนำเรื่องนี้กลับเข้าสู่ที่ประชุมอีกครั้งเมื่อใด



-ภูมิธรรม แจงเลื่อนประชุม คกก.นโยบายดิจิทัล รอความเห็น ป.ป.ช.

ขณะที่ เมื่อวานรัฐบาลต้องเลื่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตออกไปก่อน ด้วยเหตุผลความเห็นของ ป.ป.ช.

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเลื่อนประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet จากเดิมจะประชุมเมื่อวาน ว่า เนื่องจากทราบว่าจะมีความเห็นจาก ป.ป.ช. ส่งมายังรัฐบาล ดังนั้นจึงต้องรอพิจารณาความเห็นจาก กฤษฎีกา และ ป.ป.ช. ไปพร้อมกัน แต่ก็ยังไม่ทราบว่าความเห็นจะมาถึงรัฐบาลเมื่อไหร่ อาจจะมาภายใน 1-2 อาทิตย์นี้ และก็คงพอดีที่นายกฯเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรม ยืนยันว่ารัฐบาลจะเดินหน้าโครงการนี้ นโยบายนี้ไม่ใช่นโยบายที่คิดขึ้นมาลอยๆ เป็นนโยบายที่พรรคร่วมรัฐบาลได้ร่วมกันคิดตั้งแต่ก่อนจัดตั้งรัฐบาลแล้วได้แถลงต่อรัฐสภา เพียงแต่ต้องรับฟังความเห็นเพื่อให้ทุกคนสบายใจ และให้รอบด้านครบถ้วนมากที่สุด และยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ตั้งธงเรื่องนี้ เพราะถ้าตั้งธงหมายความว่าทำตามอำเภอใจ และขอว่า "อย่าจินตนาการมาก ยิ่งจินตนาการมากพวกผมยิ่งเหนื่อย"



-เฉลิมชัย แถลงไม่เกี่ยวข้องปม นำเข้า หมู-ไก่ เถื่อน แจงเฮียเก้า ไม่ใช่น้องชาย


เรื่องของปัญหาการทุจริต นำเข้าหมูและตีนไก่เถื่อน ที่มีการกล่าวหาบุคคลที่อ้างว่ามีความใกล้ชิดอดีตรัฐมนตรี รัฐบาลที่แล้ว เมื่อวานนี้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกมาแถลงข่าวชี้แจงเป็นครั้งแรก ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการทุจริตที่เกิดขึ้น

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย บรรดา สส. และกรรมการบริหารพรรค ออกมาแถลงชี้แจงอย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังมีการข้อกล่าวหาว่า คนใกล้ชิด เกี่ยวข้องกับเนื้อหมูเถื่อน ไก่เถื่อน โดยระบุว่ามีความพยายามโยงเรื่องนี้ มาถึงตนเอง ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกระทำผิด มั่นใจว่า ข้อกล่าวหาไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่เกิดเพื่อผลทางการเมือง เพราะมีการดำเนินการเป็นขบวนการ ทำให้สังคมไขว้เขว เข้าใจผิดว่าตนมีส่วนร่วมกระทำผิดด้วย

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ตั้งแต่รับตำแหน่งรัฐมนตรีเกษตรฯ ได้มอบหมายให้นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วย กำกับดูแลกรมปศุสัตว์ โดยไม่ได้เข้าไปก้าวก่าย มีเพียงเรื่องการระบาดของโรคอหิวาต์หมู ที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง ตามโครงสร้าง

ยืนยันว่า ตนและครอบครัวไม่ทำเรื่องสกปรกโสโครกแบบนี้ ไม่รับเงินแบบนี้แม้กระทั่งสลึงเดียว พร้อมฝากบอกสื่อด้วยว่า ทำไมไม่บอกชื่อเลยว่า นักการเมืองคนไหน ทำไมทำให้กำกวมคนเข้าใจผิดว่า ผมเป็นคนทำ และบอกด้วยว่าไม่มีใครหนีกฎแห่งกรรมพ้น ใครทำผิดต้องมาลงโทษกฎหมายไม่ละเว้น ไม่ว่าจะสนิทกับใครก็แล้วแต่ รวมถึง ตนได้ยินข่าวแว่วมาว่า มีการนำตัวผู้กระทำผิดไปเป็นพยาน และมีการกล่าวหาว่า "มีไอ้โม่ง" ขอให้ช่วยกันขุดคุ้ยให้พบว่า "ไอ้โม่งเป็นใคร"

ส่วนนายหลี่ เซิ่ง เจียว หรือ เฮียเก้า ที่มีสื่ออ้างว่าเป็นน้องชายคนละแม่ของตนเองนั้น นายเฉลิมชัย บอกว่า ผมไม่ได้ปฏิเสธความเป็นญาติ แต่ผมปฏิเสธว่าไม่ใช่ลูกพ่อเดียวกัน เรื่องนี้มีความพยายามโยงให้ใกล้ชิดกับตนมากที่สุด และบอกด้วยว่า พ่อผมมาอยู่เมืองไทยกว่า 80 ปีแล้ว คงไม่สามารถย้อนไปมีลูกที่เมืองจีนได้

ส่วนภาพที่ถ่ายคู่กับเฮียเก้าอยู่ในเฟรมเดียวกัน และคนสำคัญๆต่างๆ ชี้แจงว่า มีภาพคู่เพราะได้ไปแสดงความยินดีกับ ประธานหอการค้าเหอหนาน ฮกเกี้ยน ซึ่งเป็นประธานรัฐวิสาหกิจของจีน ที่รัฐบาลประยุทธ์ชวนมาลงทุน EEC ซึ่งตนมา ในฐานะรัฐมนตรี ส่วนเฮียเก้าได้รับเชิญไปในฐานะนายกสมาคม คนจีนเชิญกันเอง

พร้อมย้ำว่า ตนเองและครอบครัวทำมาหากินสุจริต มีธุรกิจอยู่ที่ประจวบ ทั้งเกษตรกรรม อุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์ ประวัติครอบครัวผม ไม่เคยทำชั่ว และจะไม่มีวันทำชั่ว และทุจริตคอรัปชันโดยเด็ดขาด



-สส.ก้าวไกล นนทบุรี เขต 2 เผยข้อมูลอีกด้าน สส.เขต3 ชี้ตัวลูกน้องก่อนโดนรุมยำ

กรณี ผู้ช่วย สส. ก้าวไกล นนทบุรีเขต2 โดนทีมงานของ ผู้ช่วย สส.ก้าวไกล เขต3 รุมกระทืบได้รับบาดเจ็บหัวกะโหลกร้าว

เมื่อวานนี้ มุมของ สส.ก้าวไกล นนทบุรีเขต3 นายอนุสรณ์ แก้ววิเชียร ออกมาโพสต์ชี้แจง บอกว่า เห็นคู่กรณีคุยกันก่อนเกิดเหตุโดยที่ตนเองไม่ได้ยินว่าพูดอะไรกัน และไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลาย

ล่าสุด สส.ก้าวไกล นนทบุรี เขต2 นางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ ที่อยู่ฝั่งของคนเจ็บ ให้ข้อมูลอีกด้าน บอกว่า นายกิตติภัทร คนเจ็บ เล่าว่า ผู้ก่อเหตุที่อยู่ฝั่ง สส.เขต3 เข้ามาถามว่า คนไหนที่มีปัญหากับ สส.เอ๊ะ (หมายถึง สส.เขต3) โดนที่ สส.เอ๊ะ เป็นคนชี้ไปที่เขา ทำให้ผู้ก่อเหตุเข้าไปตบ คนเจ็บ

สส.ปัญญารัตน์ บอกว่าตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่นายกิตติภัทร คนเจ็บ เล่าให้ฟังแบบนี้ ยังบอกอีกว่า นายกิตติภัทร ไม่ได้ถูกตบทีสองที ตามที่นายอนุสรณ์ สส.เขต3 แถลงการณ์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก

ส่วนที่ สส.อนุสรณ์ ชี้แจงว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้เป็นผู้ช่วย สส. นั้น สส.ปัญญารัตน์ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นผู้ช่วยตามกฎหมาย แต่เป็นผู้ติดตามที่เดินตาม ใครๆเขาก็มองว่าเป็นมือขวา ของ สส. เพราะ สส.ไปลงพื้นที่ก็จะมีรูปคนนี้ติดอยู่ตลอด


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/AXxOkxggpKc

คุณอาจสนใจ

Related News