ภาคประชาสังคมชายแดนภาคใต้ ร่วมเวทีเสวนา สะท้อนปัญหาการใช้กฎหมายปิดปากนักกิจกรรม

ภาคประชาสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมเวทีรับฟังความคิดดเห็นที่สมาคมผู้สื่อข่าวระหว่างประเทศประเทศไทย หรือ FCCT สะท้อนปัญหาการใช้กฏหมายปิดปากกับนักกิจกรรมชายแดนใต้ปาตานี ซึ่งคาดหวังว่ารัฐบาลพลเรือนภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยจะไม่ถูกครอบงำโดยอำนาจทหาร จนทำลายบรรยากาศกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้



สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย หรือ FCCT จัดการเสวนา "การบังคับใช้กฏหมายปิดปากภายใต้รัฐบาลเศรษฐา" โดยมีนักเคลื่อนไหวจังหวัดชายแดนภาคใต้ แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชน กรณีการฟ้องปิดปาก (SLAPP) ในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และสร้างความหวังในกระบวนการสันติภาพภายใต้รัฐบาลชุดใหม่



นางสาว อัญชนา หีมมิน๊ะ กลุ่มด้วยใจ เปิดเผยว่าว่า สถานการณ์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นเกิดขึ้นต่อเนื่องมากว่า 20 ปี แม้ว่าจะมีกระบวนการพูดคุยสันติภาพ แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น เพราะยังมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนแ ละการดำเนินคดีกฏหมายปิดปาก แม้กระทั่งการจัดกิจกรรมแต่งชุดมลายูในวันฉลองเทศกาลฮารีรายอ เมื่อปี 2565 ซึ่งผู้จัดงานมองว่าเป็นการดำเนินคดีย้อนหลังเกือบ 2 ปี ทั้งๆที่เรื่องนี้มีการยอมรับอย่างมากในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา จึงอยากให้ภาครัฐทบทวนการทำหน้าที่ไม่ใช้กฏหมายมาปิดปากประชาชน ทั้งทางอัตลักษณ์วัฒนธรรม โดยเฉพาะการดำเนินคดีย้อนหลังกิจกรรมแต่งชุดมาลยู ย้อนหลัง 2 ปีในปี 2565 เป็นการสะท้อนเหตุผลทางการเมืองมากกว่าความมั่นคง เพราะมีการชี้แจงการจัดกิจกรรมไปตั้งแต่ปี 2565 เพระากรณีมีการอ้างพบธงบีอาร์เอ็นในงาน ทางผู้จัดงานไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และหลังมีผู้ชูธงไม่เกิน 10 นาทีทางผู้จัดงานขอให้ปลดออก รวมถึงได้มีการชี้แจงผู้เกี่ยวข้องในการลงพื้นที่ด้วย



การดำเนินคดีกับสื่อที่ทำหน้าที่เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชน และกรณีการดำเนินดคีชุดมลาย และคดีพ่อบ้านใจกล้า ซึ่งเป็นเพียงการทำหน้าที่ทางด้านมนุษยธรรมนการระดมทุนเพื่อครอบครัวที่ถูกวิสามัญฆาตกรรม จึงเรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรมื โดยดีเอสไอ ชี้แจงความชอบธรรมเรื่องนี้ด้วย



นอกจากนี้ยังมีกรณีการใช้กฏหมายปิดปากดำเนินคดีกับกลุ่มนักศึกษาที่จัดเวทีเปิดตัวองค์กรนักศึกษาและจำลองการทำประชามิติเพื่อสอบถามความต้องการในการปกครองตนเอง หรือ RSD ซึ่งเป็นเพียงกระบวนการีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งนายฮากิม พงติกอ the Patani เปิดเผยว่า องค์กรนักศึกษาได้ยุติองค์กรนั้ไปแล้ว จึงคาดหวังกลุ่มนักศึกษาเดินหน้าต่อ



ขณะที่ชารีฟ สะอิ สภาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ หรือ cap เปิดเผยด้วยว่า ภาคประชาสังคมที่ต้องการพื้นที่เพื่อสันติภาพ ต้องการให้รัฐเปิดพื้นท่นี้ แต่หากยังมีปัญหภายในแต่แไม่แสดงบทบาทในการเป็นผู้นำสันติภาพก็น่าเสียดาย หากยังไม่ทำให้เกิดการยอมรับได้ ก็สิ้นหวังกับกระบวนการสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้