อาชญากรรม

เก๋งขาวไล่ชนแท็กซี่สนั่นกลางรัชดา ล่าสุดเจอรถต้นเหตุแล้ว ติดสติ๊กเกอร์ ‘สำนักงานอัยการสูงสุด’

โดย paweena_c

15 ม.ค. 2567

1.9K views

เก๋งขาวหัวร้อน ไล่ชนแท็กซี่สนั่นกลาง ถ.รัชดา ก่อนขับรถหนีไปจอดไปซอย ล่าสุด จนท.พบรถคันก่อเหตุแล้ว สภาพพังยับ ด้านหน้าติดสติ๊กเกอร์ ‘สำนักงานอัยการสูงสุด’ เตรียมเรียกเจ้าของรถมารับทราบข้อกล่าวหา

คลิปเหตุการณ์ที่รถแท็กซี่คันหนึ่งถูกรถเก๋งสีขาวพุ่งชนได้รับความเสียหายก่อนจะขับรถหนีไป เหตุเกิดขึ้นบนถนนรัชดาภิเษก ขาออก บริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้า the street รัชดา เลยสามแยกเทียนร่วมมิตรมาเล็กน้อย เหตุเกิดคืนวันอาทิตย์ที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา เวลาตอน 4 ทุ่มครึ่ง

ทีมข่าวอาชญากรรมลงพื้นที่สำรวจจุดเกิดเหตุยังพบเศษซากกันชนท้ายรถแท็กซี่ วางเอาไว้อยู่บริเวณฟุตบาทข้างถนน ส่วนรถแท็กซี่คันได้รับความเสียหาย มาจอดไว้ที่ สน.ห้วยขวาง โดยพบร่องรอยความเสียหายเกือบทั่วทั้งคัน หนักที่สุดคือบริเวณท้ายรถถูกชนจนท้ายรถหลุด ประตูผู้โดยสารฝั่งซ้ายมีรอยถูกชนบุบได้รับความเสียหาย ส่วนบริเวณฝั่งด้านขวา หรือฝั่งคนขับก็ปรากฏรอยถูกชนเป็นแนวยาว ได้รับความเสียหายและกระจกข้างฝั่งคนขับหลุดออกมา

คนขับรถแท็กซี่ คือ นายยุทธพงศ์ แซ่ฟุ้ง อายุ 58 ปี เปิดเผยกับทีมข่าวทางโทรศัพท์ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เขาขับรถแท็กซี่อยู่เลนขวาสุดบนถนนรัชดาภิเษก บริเวณด้านหน้าโลตัส พระราม 9 ซึ่งขณะนั้น เขากำลังจะเบี่ยงซ้ายเพื่อเข้ามารับผู้โดยสาร ปรากฏว่า มีรถเก๋งสีขาวคันดังกล่าว ขับมาด้วยความเร็วสูงตามท้ายรถของเขา แล้วเสียบพุ่งชนรถของเขา ครูดตามแนวยาวบริเวณฝั่งคนขับแล้วขับหลบหนีไป พร้อมกับไปเฉี่ยวชนรถแท็กซี่อีก 1 คันในละแวกนั้น เขาจึงรีบขับรถแท็กซี่ตามไป และมาทันที่สามแยกเทียนร่วมมิตร

จากนั้นปาดหน้าแล้วจอดขวางที่เลนขวาสุด เพื่อสกัดไม่ให้รถเก๋งคันดังกล่าวหลบหนี บริเวณหน้า the street รัชดา แต่ว่ารถเก๋งคันดังกล่าว ได้ถอยรถแล้วขับพุ่งชนฝั่งนั่งผู้โดยสารฝั่งซ้ายและท้ายรถอีก 5 ครั้ง ซึ่งจากในคลิปจะเห็นว่า รถเก๋งขับชนตน 2 ครั้ง แต่จริง ๆ แล้วมีก่อนหน้านั้นอีก 3 ครั้ง แล้วคนขับรถเก๋งก็ขับหลบหนีออกไปทันที รวมแล้วรถเก๋งขับชนรถแท็กซี่ตนถึง 6 ครั้งด้วยกัน เชื่อว่าคนขับน่าจะเมาแล้วขับ จึงเจตนาหลบหนีหลังจากเฉี่ยวชนครั้งแรก และการชนครั้งนั้นทำให้เขาบาดเจ็บที่ข้อศอกขวาด้วย

หลังเกิดเหตุเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ซึ่งพนักงานสอบสวนแจ้งความคืบหน้าเบื้องต้นว่า ทราบตัวคนขับรถเก๋งคนดังกล่าวแล้ว และออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ (15ม.ค.)

ล่าสุดตำรวจ สน.สุทธิสาร พบรถยนต์คันที่เกิดเหตุแล้ว จอดอยู่ในซอยอินทามระ 26 รถยนต์คันดังกล่าวได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะที่กันชนหน้าทั้งสองฝั่ง ถูกชนบุบจนไฟหน้าแตกพังทั้งสองข้าง บริเวณรถฝั่งผู้โดยสารปรากฏเป็นรอยครูดยาว และกระจกมองข้างซ้ายเสียหาย โดยทุกร่องรอยความเสียหาย ปรากฏคราบสีเขียวของรถแท็กซี่ติดอยู่ นอกจากนี้ยังพบว่า ภายในรถคันก่อเหตุ มีกุญแจคารถไว้อยู่และพบซองกับขวดน้ำ 2 ขวด บรรจุของเหลวสีเหลืองเอาไว้บริเวณพำนักเท้าที่นั่งผู้โดยสารหน้า พนักงานสอบสวนจะต้องส่งตรวจว่าของเหลวดังกล่าวคืออะไร และที่หน้ากระจกรถพบสติ๊กเกอร์ "สำนักงานอัยการสูงสุด" ด้วย ขณะนี้ตำรวจได้ลากรถคันนี้ไปที่ สน.ห้วยขวางแล้ว

จากการสอบถามชาวบ้านภายในซอย ระบุว่า รถยนต์คันดังกล่าวไม่ใช่รถของคนภายในซอย แต่เห็นรถยนต์คันนี้มาจอดประมาณ 4-5 ทุ่ม เข้ามาจอดกีดขวางบริเวณด้านท้ายของซอย ชาวบ้านจึงได้ตะโกนถามว่ามาจอดตรงนี้ไม่ได้ เพราะขวางรถของคนอื่น จากนั้นมีชายหนุ่มไม่ทราบรูปพรรณสัณฐานที่แน่ชัด ลงมาจากรถแล้วบอกกับชาวบ้านว่า ขอจอดแป๊บเดียว ก่อนจะเดินออกไปสูบบุหรี่บริเวณปากซอยแล้วหายไปเลย กระทั่งมีคลิปนี้ออกมา จึงแจ้งตำรวจเพราะเชื่อว่าเป็นรถคันเดียวกัน

ด้าน พันตำรวจเอก ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้มีคู่กรณี 3 คัน เป็นแท็กซี่ 2 คัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเป็นรถที่ปรากฏในคลิป และรถเก๋ง Toyota Crown สีขาวออกบรอนด์ คันก่อเหตุ พบว่าแท็กซี่เขียวเหลืองที่ปรากฏในคลิป ขับมุ่งหน้ามาจากแยกผังเมือง ก่อนเลี้ยวขวาแยกพระราม 9 เข้าสู่ถนนรัชดาภิเษกและพยายามเบี่ยงซ้ายมารับผู้โดยสารบริเวณด้านหน้าโลตัสพระราม 9 หรือฟอร์จูนทาวน์ ส่วนรถเก๋งคันก่อเหตุขับมุ่งหน้ามาจากดินแดง แล้วเลี้ยวซ้ายที่แยกพระราม 9 เข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก ก่อนจะมาขับพุ่งชนรถแท็กซี่เขียวเหลืองคันดังกล่าว

จากนั้นรถเก๋งคันก่อเหตุ ได้ขับมุ่งหน้าตรงไปยังแยกเทียนร่วมมิตร ซึ่งได้เฉี่ยวชนรถแท็กซี่อีก 1 คัน บริเวณด้านหน้าตึก RS ก่อนที่แท็กซี่คันแรกที่โดนชนจะปาดหน้าดักสกัดได้ทันบริเวณด้านหน้า the Street แล้วก็เกิดเหตุการณ์ดังที่ปรากฏในคลิป

ขณะนี้ตำรวจทราบชื่อผู้ครอบครองรถแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเป็นคนขับในวันเกิดเหตุหรือไม่ เป็นชายไทย อายุประมาณ 40 ปี แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถติดต่อได้ เบื้องต้นเตรียมแจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย ชนแล้วหนี และทำให้เสียทรัพย์ ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาเมาแล้วขับหรือไม่ ต้องรอให้ได้ตัวคนขับรถผู้ก่อเหตุก่อนถึงจะนำมาตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ และรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/B8BT325ATBU

คุณอาจสนใจ