จับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังสหรัฐอเมริกาและอังกฤษเปิดฉากโจมตีกลุ่มกบฎฮูตีในเยเมน

จับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังสหรัฐอเมริกาและอังกฤษเปิดฉากโจมตีกลุ่มกบฎฮูตีในเยเมน ตอบโต้ที่ฮูตีโจมตีเรือขนส่งสินค้าที่แล่นผ่านทะเลแดงหลายครั้งตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา

กระทรวงกลาโหมของอังกฤษระบุว่า เมื่อวานนี้ ได้ส่งเครื่องบินรบ "ไต้ฝุ่น" กับเครื่องบินบรรทุกน้ำมันวอยเอจเจอร์จำนวนหลายลำ จากไซปรัส เข้าร่วมปฏิบัติการนี้

เช่นเดียวกันกับกองบัญชาการกลางของกองทัพสหรัฐฯ ที่ส่งเครื่องบินทหารจากเรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ เพื่อโจมตีเป้าหมายของกลุ่มกบฎฮูตีในเยเมน

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ไม่เปิดเผยตัวตนระบุว่า มีการโจมตีเกิดขึ้นจริง โดยเกิดระเบิดรุนแรงหลายครั้งในกรุงซานา, และ เมืองอัลฮูเดย์ดาห์ เมืองท่าทางตะวันตกของเยเมน ตามรายงานระบุว่า กองกำลังของสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ใช้ทั้งโดรน และขีปนาวุธในการโจมตี ซึ่งขณะนี้ กองทัพอากาศของสหรัฐอเมริกาบอกว่า ได้ถล่มเป้าหมายของฮูตีไปแล้วมากกว่า 60 จุด ใน 16 ที่

การโจมตีทางอากาศในครั้งนี้มีจุดประสงค์ เพื่อทำลายฐานที่มั่นหรือจุดที่กลุ่มฮูตี หลังจากช่วงที่ผ่านมา ฮูตีได้ก่อเหตุโจมตีเรือขนส่งสินค้าที่แล่นผ่านทะเลแดงหลายครั้งจนส่งผลกระทบต่อการค้าโลก เนื่องจากทะเลแดงเป็นเส้นทางสำคัญของการค้าระหว่างยุโรปกับเอเชีย และมีสัดส่วน 15% ของการขนส่งสินค้าทางเรือของโลก

ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนเตือนว่า สหรัฐอเมริกาจะไม่ลังเลยหากจำเป็นต้องยกระดับการโจมตี ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า สหรัฐอเมริกาและพันธมิตรจะไม่อดทนต่อการการกระทำของฮูตีต่อไป ซึ่งปฏิบัติการนี้ได้รับการสนับสนุนจากหลายประเทศ เช่น เนเธอร์แลนด์, ออสเตรเลีย, แคนาดา, และบาห์เรน

อย่างไรก็ดี กลุ่มกบฎฮูตีที่อิหร่านให้การหนุนหลังบอกว่า การโจมตีเรือขนส่งสินค้าในทะเลแดง มีขึ้นเพื่อเป็นการแสดงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์และกลุ่มฮามาส และขู่สหรัฐอเมริกากับอังกฤษว่า จะต้องชดใช้ และฮูตีจะเดินหน้าโจมตีเรือขนส่งสินค้าในทะเลแดงต่อไป

ด้านออสเตรเลียประกาศว่าจะให้การสนับสนุนด้านบุคลากรแก่สหรัฐอเมริกา และอังกฤษในการโจมตีเป้าหมายของฮูตีในเยเมน

เช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่ออกมาแถลงสนับสนุนปฏิบัติการดังกล่าว ว่าเป็นการรักษาความปลอดภัยให้กับเส้นทางการเดินเรือของโลก พร้อมกับประณามการกระทำของฮูตีที่ละเมิดการเดินเรืออย่างเสรี