เลือกตั้งและการเมือง

‘สุริยะ’ แจง ล้อรถไฟฟ้าสายสีเหลืองหลุด เกิดจากเบ้าลูกปืนล้อประคองเสียหาย

โดย attayuth_b

3 ม.ค. 2567

87 views

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เรียก BEM และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชี้แจงสาเหตุล้อรถไฟฟ้าสายสีเหลืองร่วงหล่นลงมาโดนรถแท็กซี่เสียหาย พบ สาเหตุเกิดจากเบ้าลูกปืนของล้อประคองเสียหาย ทำให้ล้อประคองหลุดร่วงลงมา พร้อมสั่งหยุดขบวนรถที่ใช้ชุดแคร่ล้อในล๊อตเดียวกับขบวนที่เกิดเหตุทั้งหมด เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงกับบริษัทผู้ผลิต และระยะยาวเตรียมออกกฏหมายกำหนดบทลงโทษ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการฯ และผู้บริหารบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) ผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้ามหานครสายสีเหลือง ร่วมแถลงถึงสาเหตุล้อรถไฟฟ้าสายสีเหลืองร่วงหล่นลงมาโดนรถแท็กซี่ด้านล่างเสียหาย จากการตรวจสอบหาสาเหตุเบื้องต้น พบว่า เกิดจากเบ้าลูกปืน (Bearing) ของล้อประคอง (Guide Wheel) ด้านล่างฝั่งขวา ซึ่งอยู่ด้านนอกของคานทางวิ่ง เสียหาย หลุดออกจากแคร่ล้อ ทำให้ล้อประคองหลุดร่วงลงมา ทั้งนี้ ขบวนรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลืองที่ประสบเหตุเป็นขบวนใหม่ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติการซ่อมบำรุง (Maintenance Log) พบว่า มีการซ่อมบำรุงตามรอบ วาระโดยสม่ำเสมอ (วาระประจำวัน วาระประจำสัปดาห์ และวาระตรวจละเอียดทุก 15 วัน) ปัจจุบัน บริษัท Alstom (ผู้ผลิต) อยู่ระหว่างตรวจสอบชุดล้อประคองที่หลุดออกมา เพื่อหาสาเหตุโดยละเอียดต่อไป

ทั้งนี้ได้ทำเเผนปฏิบัติการ (Action Plan) เพื่อยกระดับความปลอดภัย ระยะเร่งด่วน 1. งดใช้ขบวนรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่ใช้ชุดแคร่ล้อ (Bogie) ในล๊อตเดียวกับขบวนที่เกิดเหตุ 2. ตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงร่วมกับผู้ผลิต เพื่อดำเนินการแก้ไขและป้องกันให้ถูกจุดต่อไป 3. เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบเบ้าลูกปืนของล้อต่างๆ เพิ่มเติมจากการตรวจตาม วาระปกติ ก่อนนำขบวนรถไฟฟ้าขึ้นมาให้บริการประชาชน พิจารณาเปลี่ยนชุดล้อช่วงล่างจากโรงงานใหม่ที่มี track record ให้หมดภายใน 6 เดือน หรือ ภายในเดือนมิถุนายน 67

ระยะยาว เร่งรัดการออกพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. .... เพื่อใช้ในการกำกับดูแลด้าน ความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพ และสามารถกำหนดบทลงโทษ และการชดเชยแก่ ผู้โดยสารและผู้ได้รับผลกระทบ

ทั้งนี้ จากเหตุการที่เกิดขึ้น ทำให้การให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง วันนี้ (3 ม.ค.) ได้ปรับรูปแบบการให้บริการโดยมีความถี่ 30 นาที จากปกติชั่วโมงเร่งด่วนทุก 5 นาที และ นอกชั่วโมงเร่งด่วน ทุก 10 นาที โดยนำขบวนรถที่ได้รับการตรวจสอบว่า มีความปลอดภัยมาให้บริการจำนวน 6 ขบวน จากปกติวิ่งให้บริการ 21 ขบวนจากทั้งหมด 30 ขบวน


https://youtu.be/Upicv2Ns-0s

คุณอาจสนใจ

Related News