สังคม

สยบทาสยาอุดรฯ คลั่งไล่ทุบรถ-พ่นยาฆ่าหญ้าใส่ จนท. อ้างไม่ได้บ้า แต่เชื่อมจิตอ่านใจคนออก

โดย thichaphat_d

28 ธ.ค. 2566

63 views

เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.00 น. ตำรวจ สภ.ไชยวาน จ.อุดรธานี พร้อมฝ่ายปกครอง สนธิกำลังกันกว่า 10 นาย เข้าจับกุมนายธีรโรจน์ พาลี หรือ ท็อป อายุ 35 ปี ที่เสพยาจนหลอนคลุ้มคลั่ง วิ่งออกจากบ้านมาที่ร้านขายลาบก้อยที่อยู่ใกล้กัน เอามีดอีโต้ไล่ทุบรถชาวบ้านและรถของ ผอ.โรงเรียนที่มาจอดกินลาบก้อย จนเสียหายไป 3 คัน  ชาวบ้านแถวนั้นพากันแตกตื่นหาที่หลบ เพราะกลัวโดนลูกหลง ก่อนที่นายท็อปจะวิ่งกลับไปซ่อนในบ้านตัวเอง

ชุดระงับเหตุ ที่นำโดย พ.ต.อ.รัฐพลชัย เพ็ญสงคราม  ผกก.สภ.ไชยวาน พยายามเกลี้ยกล่อมนายท็อป แต่กลับถูกนายท็อปเอายาฆ่าหญ้าใส่ถังฉีดสะพายหลัง ฉีดใส่เจ้าหน้าที่จนต้องพากันหลบชุลมุน และยังขู่ว่า หากเจ้าหน้าที่เข้ามา จะเผาตัวเองตาย จากนั้นนายท็อปก็เอาน้ำมันเบนซินราดตัวและพื้นบ้าน เตรียมจะเผาตัวเองพร้อมบ้า จังหวะนั้น ตำรวจใช้กระสุนยางยิงเข้าไป เพื่อจะสยบนายท็อป แต่นายท็อปยังไม่ยอมหยุด เอามีดไล่แทงเจ้าหน้าที่ แต่สุดท้ายตำรวจหลายนาย ก็รุมเข้าชาร์จนายท็อปได้สำเร็จ ท่ามกลางความโล่งใจของชาวบ้าน

แต่ปรากฎว่า พอตำรวจพาไปโรงพยาบาลไชยวาน นายท็อปยังไม่เลิกคลั่ง ร้องตะโกนลั่นโรงพยาบาล ว่า “จำใส่กะลาหัวไว้เลย มาจับกูแบบนี้ กูเป็นทหารพระเจ้าตากสิน ไม่มีใครทำอะไรกูได้” จนแพทย์พยาบาลพากันตกใจ ตร.ต้องเฝ้าหน้าห้องฉุกเฉิน จนหมอมาฉีดยาให้สงบสติอารมณ์ ก่อนนำตัวไปควบคุมตัวไว้ที่ สภ.ไชยวาน รอมีสติก่อนแล้วค่อยดำเนินคดี

ขณะที่วานนี้  (27 ธ.ค.66) ผู้สื่อข่าวไปติดตามความคืบหน้า พบว่านายท็อปยังถูกคุมตัวในห้องขัง พ.ต.อ.รัฐพลชัย เพ็ญสงคราม  ผกก.สภ.ไชยวาน ไปสอบถามอาการว่าเป็นอย่างไรบ้าง จะพาไปรักษา แต่นายท็อปบอกว่า “ผมไม่ได้ป่วย  ผมไม่ได้เผาตัวเอง ไม่ได้เผาบ้าน ใครว่าผมเผา ผมยังมีสติทุกอย่าง ผมไม่ได้ทุบรถใคร”

แต่พอถามย้ำ นายท็อปก็พูดวกไปวนมา สุดท้ายก็บอกว่า “ผมทุบรถเอง เพราะเจ้าของรถไปด่าผมในเฟซบุ๊ก ทำให้ผมโกรธ” พอผู้กำกับถามว่า ไปรู้จักเจ้าของรถได้ยังไง เขามาจากที่อื่นมากินข้าว นายท็อปก็บอกว่า “ผมเชื่อมจิตอ่านใจเขาออก ว่าเขาด่าผมในเฟซบุ๊ก” พร้อมกับย้ำว่า “ผมไม่ได้เสพยา ผมไม่ได้บ้า ผมไม่ได้เผาตัวเอง น้ำมันมันหกเฉยๆ ผมเป็นทหารพระเจ้าตากสิน  ผมอ่านใจออกทุกคน และตอนนี้ผมเชื่อมจิตไปหา ผกก.แล้ว ผกก.เชื่อในสิ่งที่ผมพูดแน่นอน ว่าผมไม่ได้บ้า ไม่ได้เสพยา”

พ.ต.อ.รัฐพลชัย เปิดเผยว่า  วันเกิดเหตุ ผกก.นั่งประชุมอยู่ พอได้รับแจ้งว่า มีเหตุหนุ่มคลั่งทุบรถชาวบ้านเสียหาย ที่บ้านหนองแคน ริมถนนสายอ.ไชยวาน-ศรีธาตุ  จึงรีบไปบัญชาการเหตุการณ์ด้วยตัวเอง เพราะนายท็อปเป็นบุคคลสีแดง ติดยาและอาละวาด เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกำลังเสริมฝ่ายปกครองไปถึง นายท็อปก็ขู่เจ้าหน้าที่ ฉีดยาฆ่าหญ้าใส่ ตนจึงสั่งลูกน้องยิงกระสุนยางใส่ เพื่อสยบผู้ก่อเหตุ  ส่วนที่ไปบัญชาการเหตุการณ์เอง เพราะห่วงลูกน้อง กลัวจะเกิดความสูญเสียกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ หากเกิดอะไรขึ้น ตนก็พร้อมรับผิดชอบ โชคดีที่จับกุมนนายท็อปได้ และไม่มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต  

ขณะนี้แจ้งข้อหานายท็อป 5 ข้อหา คือ “พยายามวางเพลิงเผาทรัพย์,ทำให้เสียทรัพย์,ต่อสู้และขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่,เสพยาเสพติด,พกพาอาวุธมีด” ดำเนินคดีและนำตัวไปบำบัดรักษาต่อไป ทั้งนี้ ใน อ.ไชยวาน  มีบุคคลที่ต้องเฝ้าระวังประมาณ 285 คน  ซึ่งตำรวจพร้อมช่วยเหลือชาวบ้านเต็มที่ หากรับแจ้ง ก็จะไประงับเหตุทันที

ด้านนายประวิทย์ มิ่งขวัญ ผอ.โรงเรียนโพนสูงพัฒนศึกษา หนึ่งในผู้เสียหาย ที่ถูกทุบรถพัง เล่าว่า เหตุเกิดขณะจอดรถไว้หน้าร้านลาบก้อย แล้วเข้าไปทานอาหารกับเพื่อนครู เคยเห็นแต่ข่าวแบบนี้ในทีวี ไม่คิดว่าจะมาเจอกับตัวเอง ก่อนไปกินข้าวยังคุยกับเพื่อนครูอยู่เลยว่า ต้องช่วยกันระวังเหตุในโรงเรียน เพราะมีข่าวคนป่วยจิตเวช หลอนยาเสพติด บุกเข้าไปในโรงเรียนหลายแห่ง  

ช่วงที่ทานข้าว เห็นผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์มาหน้าร้านครั้งหนึ่ง แล้วถือมีดมาด้วย มาท้าตีท้าต่อยคนที่ทานข้าวในร้าน บอกว่า ใครเก่งมาดวลกับกู ตนเองก็ยังบอกแม่เจ้าของร้านว่า แม่ระวังนะ เผื่อเขาทำร้ายร่างกาย แม่ของเจ้าร้านก็บอกว่า เขามาโวยวายเฉยๆ ไม่ทำร้ายใครหรอก เราก็โล่งใจ สักพักได้ยินเสียงเหมือนกระจกหรือสิ่งของแตก แม่เจ้าของร้านก็บอกว่า มันมาฟันรถแล้ว ตนก็วิ่งออกไปดู ตอนแรกไม่คิดว่าจะเป็นรถของตนเอง ปรากฏว่า รถตัวเองถูกทุบ กระจกด้านหลังแตก  และยังมีรถของ ผอ.โรงเรียนอื่นรวม 3 คันถูกทุบจนเสียหาย จึงถ่ายคลิปและภาพไว้เป็นหลักฐาน

ผอ.บอกว่า ตนเองคงไม่เอาเรื่อง  เพราะคิดว่าเขามีอาการป่วยทางจิตและเหมือนคนเมาขาดสติ แต่คิดว่าเขาคงไม่ได้บ้า เพราะยังถือมีดและด่าคนได้ ส่วนเรื่องความเสียหายก็จ่ายเองประมาณ 20,000 บาท ไม่รู้จะเอาอะไรกับเขา เห็นบอกว่าพ่อและแม่ก็ยังทำร้ายต้องหนีไปอยู่ทุ่งนาและชาวบ้านก็เอือมระอา มีผู้เสียหายเป็นสิบๆ รายในหมู่บ้าน แต่ไม่ทราบว่า เจ้าของรถคันอื่นจะเอาเรื่องไหม รู้สึกว่าสังคมอยู่ยากขึ้น เราต้องระวังตัวมากขึ้น แต่ก็อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ดูแลบุคคลเหล่านี้เป็นพิเศษ และก็ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชยวาน ที่มาอย่างรวดเร็ว ไม่งั้นความเสียหายจะมากกว่านี้แน่นอน ส่วนรถของตนที่เสียหาย เป็นรถเซฟสีขาว ทะเบียน 810 ก็ถือว่า ฟาดเคราะห์สิ้นปี จากนี้ก็ขอให้มีสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/EioH47QoOZk

คุณอาจสนใจ

Related News