สังคม

น้ำท่วมยะลา-นราธิวาส หนักสุดในรอบ 50 ปี ชาวบ้านโอดการช่วยเหลือล่าช้า ด้าน จนท.วอนขออุปกรณ์ที่พร้อม

โดย nattachat_c

26 ธ.ค. 2566

80 views

จากกรณี ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก และต่อเนื่อง ในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง เมื่อวันที่ 23-25 ธันวาคม 2566


ความคืบหน้า วานนี้ (25 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนที่ตกอย่างหนัก และต่อเนื่องยังไม่มีแนวโน้มจะลดลง ทำให้ปริมาณน้ำฝนสะสมได้ไหลเอ่อเข้าท่วมในหลายพื้นที่ .

-------------

วานนี้ (25 ธ.ค. 66) 'คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ' ได้มีการเปิดเผยปริมาณน้ำฝนสะสม 24 ชม. (นับจนถึง 18.00 น.) พบว่า ภาคใต้มีปริมาณฝนสูงที่สุด


ขณะที่ จ.นราธิวาส แดงทั้งจังหวัด ทะลุ 651 มิลลิเมตร (สถานีบ้านไอร์กลูแป ที่ตั้ง ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิว่า) 

-------------

วานนี้ (25 ธ.ค. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความ ระบุว่า


“ผมขอส่งความห่วงใยไปถึงพี่น้องภาคใต้ในหลายจังหวัด ซึ่งขณะนี้ ฝนตกต่อเนื่อง ทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนเสียหายเป็นอย่างมากครับ


ผมได้มอบหมาย ท่านเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งกำกับดูแล 'กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย' เข้าไปติดตามดูแล และช่วยเหลือทุกคนอย่างใกล้ชิดในวันพรุ่งนี้ที่ จ.นราธิวาส และ จ.ยะลาครับ


ขณะที่ ศูนย์อำนวยการน้ำส่วนหน้าภาคใต้ ก็ได้แจ้งเตือนให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งพลเรือน และเหล่าทัพ เข้าให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในการขนย้ายสิ่งของ


ซึ่งผมได้สั่งการเพิ่มเติมให้กรมอุตุนิยมวิทยา ติดตามข้อมูลการเคลื่อนไหวของสภาพอากาศในช่วงนี้เป็นพิเศษ เพราะมีทั้งอากาศหนาว และพายุฝน


หากพี่น้องประชาชนคนใดต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้ตลอดเวลานะครับ”ง


ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า นายเศรษฐา ห่วงใยสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดนราธิวาส ที่ได้รับรายงานว่าประสบความเดือดร้อนมากที่สุด


ดังนั้น ในวันนี้ (26 ธ.ค. 66) หลังประชุมคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังจังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจดูสถานการณ์อุทกภัย และแนวโน้มของสถานการณ์ ความพร้อมในการรับมือของหน่วยงาน แนวทางการบริหารจัดการน้ำ เช่น การระบายน้ำ รวมทั้งปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ เพื่อที่จะแก้ไข และช่วยเหลือ ได้ตรงเหตุ และทันสถานการณ์


อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีไม่ต้องการเพิ่มภาระแก่หน่วยงาน และเจ้าหน้าที่ในการต้อนรับใด ๆ โดยให้กำลังทั้งหมดมุ่งไปที่การช่วยเหลือประชาชน และแก้ไขสถานการณ์

-------------
วานนี้ (25 ธ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วม จ.นราธิวาส ว่า 


เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ อย่างผู้บัญชาการในหลายพื้นที่ ได้ลงพื้นที่ด้วยตัวเองเพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

-------------

จากกรณี ฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ส่งผลให้มีน้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จนชาวบ้านหลายรายได้ออกมาโพสต์ขอความช่วยเหลือ ผ่านทางโซเชียลมีเดีย 


ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ประพันธ์ ฤทธิวงศ์ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า

"ด่วน.. สภาพน้ำท่วม ในพื้นที่อำเภอรือเสาะ บ้านท่าเรือ บ้านนาโอน บ้านบากง ต้องการความช่วยเหลือด่วน ที่บึงบัวบากง กว่า 10 ชีวิต กำลังรอคอยต้องการเรือด่วน และช่วยประสานงานช่วยเหลือเร่งด่วน ทั้งน้ำ และอาหาร"


ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Angles Keef โพสต์ภาพชาวบ้านนั่งแช่อยู่ในน้ำ พร้อมข้อความระบุว่า

"อยู่ในน้ำแบบนี้ตั้งแต่เมื่อคืน 13ชั่วโมงกว่าแล้ว ทั้งหนาว ทั้งหิว ขอความช่วยเหลือ เข้าไปเอาหน่อยเถอะ วอนหน่วยงานไหนก็ได้ #ขอร้อง #4คนนี้สู้มากๆ รวมถึงแมวอีก 1 ตัว ไม่มีใครมีแรงแล้ว


#บาโงตา 175/1 ม.2 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส บ้านบาโงตา ปูลัสมีแล"


ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่าที่บ้่นหลังดังกล่าว ระดับน้ำถึงคอ พร้อมกับบ่นการช่วยเหลือค่อนข้างล่าช้า ใจจะขาดแล้ว


ผู้ใช้เฟซบุ๊ก'Rokeeyoh Meringjuerae โพสต์คลิปที่ถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่จนเกือบมิดหลังคารถยนต์ พร้อมข้อความระบุว่า

"สถานการณ์ ณ ม.4 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ นราธิวาส น้ำยังคงขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากคิดถึงความเสียหาย ชีวิตหลังจากนี้มอบหมายแด่อัลลอฮ์ได้โปรดเมตตาบ่าวด้วย อามีน"


บางส่วนก็ได้โพสต์ภาพรายงานสถานการณ์พร้อมระบุ

โรงเรียนบ้านมะนังกาหยี หมู่ที่ 1 ต.มะนังตายอ อ.เมือง จ.นราธิวาส ระบุว่า ขอให้นักเรียน ผู้ปกครอง คุณครูที่ประสบภัยพิบัติครั้งนี้ ปลอดภัยและได้รับความคุ้มครองทุกคน โรงเรียนบ้านมะนังกาหยีขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน

-------------
วานนี้ (25 ธ.ค. 66) มีรายงานว่า เกิดเหตุเรือที่ขนย้ายผู้ประสบภัยน้ำท่วม เกิดพลิกคว่ำ มีผู้สูญหาย 4 ราย เป็นชาวบ้านพื้นที่ ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส


เพจ ที่นี่นราธิวาส ได้โพสตคลิปวินาทีเรืออาสาพาชาวบ้านหนีน้ำท่วม แต่ถูกกระแสน้ำซัดแรงทำให้ล่ม อาสากู้ภัยต้องรีบช่วยกันพาชาวบ้านออกมาอย่างระทึก


โดยในคลิปกระแสน้ำค่อนข้างเชี่ยวกราก ทางอาสากู้ภัยพยายามช่วยเหลือชาวบ้านออกจากพื้นที่ แต่ถูกกระแสน้ำพัด ทำให้เรือเกิดล่ม ชาวบ้านที่อยู่บนเรือ และชาวบ้านบริเวณดังกล่าว ได้กรีดร้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนที่เรือลำดังกล่าวจะล่มลงต่อหน้าต่อตา


ทางเจ้าหน้าที่จึงนำเชือกมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่ว นแต่ด้วยกระแสน้ำที่แรงนั้น การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทำให้มีผู้สูญหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว 4 ราย ซึ่งทางญาติผู้สูญหายได้ร้องไห้ระงมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


โดยทีมทหารที่เข้าช่วยเหลือเหตุเรือพลิกคว่ำ ระบุว่า กลุ่มชาวบ้านที่อพยพจากน้ำท่วมหนัก เรือมีปัญหาทางเครื่องยนต์ทำให้เรือพลิกคว่ำ ขณะนี้ มีผู้สูญหาย 4 ราย ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างค้นหา


สำหรับผู้สูญหายไปกับกระแสน้ำ 4 คน คือ นางคอตีเยาะ เจ๊ะแล 89 ปี // นางอาอีเสาะ เจ๊ะบอสู 63 ปี // ด.ช.นาซูฮาร์ มายิ 8 ปี // และ ด.ช.มูฮัมหมัดนาบาส มายิ 2 ปี
--------------

ความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส วานนี้ (25 ธ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยเชิ่งหมู่ธารน้ำใจสุไหงโกลก ภายใต้การนำของ นายวิชิตชาติ อุดมลาภเจริญกิจ หัวหน้าชุด ได้ระดมเจ้าหน้าที่กู้ภัยซึ่งล้วนเป็นชุดปะดาน้ำ ได้เดินทางมายังพื้นที่ อ.ระแงะ หลังได้ถูกร้องขอเข้าสนับสนุนในการช่วยเหลืออพยพประชาชน ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปทำการช่วยเหลือได้ เนื่องจากมีปริมาณน้ำท่วมขังสูง และมีกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกลาก


เมื่อถึงเป้าหมาย บ้านแกแม ม.9 ต.ตันหยงมัส เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยได้นั่งเรือไปช่วยหญิงชราอายุกว่า 80 ปี ที่ติดอยู่ในบ้านพักซึ่งอาศัยอยู่ตามลำพัง และได้ให้การช่วยเหลือหญิงชราอีก 1 คน ที่อาศัยอยู่กับหลานชาย ที่รอเจ้าหน้าที่เดินทางมาให้การช่วยเหลือตั้งแต่ในช่วงคืนวันที่ 24 ธ.ค. 66 ที่ผ่านมา


ต่อมา เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยได้เดินทางเข้าไปช่วยเหลืออพยพชาวบ้าน ที่บริเวณหัวสะพานตันหยงมัส ซึ่งจุดดังกล่าวนี้เป็นจุดที่กระแสน้ำในคลองตันหยงมัสไหลเชี่ยวกลาก เพื่อรอระบายลงสู่แม่น้ำบางนรา โดยจุดดังกล่าวนี้ มีกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกลากมาก เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ต้องอาศัยความชำนาญในการลอยไปกับกระแสน้ำ เพื่อบังคับตัวเองไปยังบ้านเป้าหมาย โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 20 นาที สามารถช่วยเหลือชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าว จำนวน 2 คน ออกมาได้อย่างปลอดภัย


ขณะที่ช่วงค่ำ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงใช้ความพยายบามใช้เรือติดเครื่องยนต์ จำนวน 2 ลำ ขับคู่ขนานออกตระเวนให้การช่วยเหลือประชาชน ที่ประสบภัยน้ำท่วมซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล โดยเจ้าหน้าที่ไม่สามารถช่วยเหลือได้อย่างทั่วถึง ที่ติดค้างอยู่ในบ้านพักพื้นที่บ้านบาโงตา ม.1 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ


ซึ่งการช่วยเหลือในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯต้องหาเส้นทางล่องน้ำเข้าไปช่วยเหลือ เนื่องจากเส้นทางซึ่งเป็นถนนที่จะเข้าไปจุดเป้าหมายมีเสาไฟฟ้าโค่นล้ม เจ้าหน้าที่เกรงอาจจะมีกระแสไฟฟ้า จำเป็นต้องขับเรือยนต์อ้อมลัดเลาะซึ่งเป็นระยะทางไกล แต่ก็สามารถช่วยเหลือชาวบ้านออกมาได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาเพียงเสื้อผ้าเพียง 1 ชุด ส่วนสิ่งของสัมภาระ และทรัพย์จำเป็น ต้องทิ้งจมอยู่ในน้ำ เพื่ออพยพครอบครัวหนีระดับน้ำที่ท่วมขังสูง และขึ้นอย่างรวดเร็ว


ขณะเดียวกันทางด้าน พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพรานที่ 45 ลุยน้ำท่วมขังที่กระแสน้ำไหลเชี่ยวกลากและมีระดับสูงโดยเฉลี่ย 1 เมตร พร้อมเรือ และอุปกรณ์การช่วยเหลือ คือ เชือก

ฝ่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกลากเข้าไปให้การช่วยเหลืออพยพชาวบ้าน ที่หมู่บ้านไทย ม.3 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ เนื่องจากหมู่บ้านดังกล่าวถือว่าอยู่ในที่ลุ่มต่ำ มีสภาวะน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากผลพวงของคลองตันหยงมัส ที่มวลน้ำกำลังระบายลงสู่แม่น้ำบางนรา


ด้าน น.ส.จิดาภา อยู่ดี ชาวบ้านไทยได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวในระหว่างเดินออกจากบ้านที่น้ำท่วมขังสูงว่า

ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. น้ำมันมาไวตอนแรกแค่เข่า ตนจึงยกของขึ้นไว้ที่สูง จากนั้นเวลาประมาณ 23.00 น. น้ำมันขึ้นเรื่อยๆ ตนเอาดินสอขีดไว้มันขึ้นตลอด ซึ่งพอน้ำขึ้นเรื่อยๆ ตนก็เร่งขนของหนีน้ำ จนยกขึ้นหนีไม่ไหว เลยต้องเปลี่ยนมาลากเอาของขึ้นถนน จนน้ำขึ้นมาก ๆ เลยไม่เอาอะไร ยอมทิ้งแล้วขึ้นไปอยู่บนถนน

--------------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/eFhjzZLSJXM


คุณอาจสนใจ

Related News