พี่สาวหนุ่มหลอนยาคลั่งคว้ามีดแทงตำรวจเสียชีวิต ยันน้องชายไม่ได้ป่วยจิต

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2566 นางอาพิยุ อายุ 50 ปี พี่สาวผู้ต้องหา ก่อเหตุทำร้ายแทงตำรวจเสียชีวิต เปิดเผยว่า สำหรับน้องชายของตน คือ นายอานุเดช หรือเดช เป็นน้องชายคนกลาง ในบรรดาพี่น้อง 3 คน ตนเป็นพี่สาวคนโต น้องชายเคยมีครอบครัวมีลูกชาย 1 คน แต่หย่าร้างกับภรรยา เพราะมีปัญหาติดยาเสพติด เสพยาบ้ามานานกว่า 10 ปี หลังกลับมาจากไปทำงานรับจ้างต่างจังหวัด มาอยู่บ้านกับพี่สาว และมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเสพยาบ้ามาตลอด เคยประสานฝ่ายปกครองนำตัวไปบำบัดรักษาหลายรอบ สุดท้ายกลับมาเสพอีก

จนกระทั่ง 3-4 ปีที่ผ่านมา อาการหนัก เสพยาขาดสติ โวยวายทำร้ายคนในครอบครัว ตนถึงขั้นแจ้งตำรวจมาจับน้องชาย เพราะสุดทน ถูกศาลตัดสินจำคุกไป 1 ปี 7 เดือน พ้นโทษออกมา เมื่อต้นปี แต่หนักว่าเดิม ล่าสุดเคยส่งตัวไปบำบัดรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม เป็นเวลา 2 เดือน ออกมาจากบำบัดวันเดียวกลับไปเสพยาอีก ยอมรับยาบ้าในชุมชนระบาดหนัก ก่อนมาก่อเหตุทำร้ายตำรวจจนเสียชีวิต โดยก่อนนี้หายไป 4 วน กลับมาเช้าวันเกิดเหตุ มีอาการคลั่งถือมีดพร้าตะโกนหาเรื่อง ญาติ เพื่อนบ้าน จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ประสานตำรวจมาตรวจสอบควบคุมเหตุ เนื่องจากมีตำรวจที่ดูแลพื้นที่ คือ หมวดอี๊ด คนเสียชีวิต มาดูแล สนิทสนมกับน้องชายมาก เพราะมาดูแลจนคุ้นเคยกัน และควบคุมเหตุได้ตลอด และยังเป็นคนช่วยดูแลเกลี้ยกล่อมให้กินยาระงับประสาท เสมือนคนในครอบครัว เพราะมีอะไรได้พึ่งพาอาศัย มาช่วยควบคุมเหตุ สุดท้ายไม่คิดว่าน้องชายจะฆ่าตำรวจที่เป็นคนดี



นอกจากนี้ในส่วนของประวัติน้องชายยืนยัน ว่า ไม่เคยป่วยจิตมาก่อน และไม่ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช เพียงไปเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม เนื่องจากเสพยาบ้าปริมาณมาก จนขาดสติ เชื่อว่าที่ก่อเหตุเกิดจากเมายาบ้าขาดสติ เพราะปกติจะคุ้นเคย และกลัวหมวดอี๊ดมาก เวลาเจอหน้าตำรวจจะยกมือไหว้ ยอมกินยา ควบคุมเหตุได้ด้วยดี ยอมรับเป็นปัญหายืดเยื้อมานานหลายปี ไม่มีทางออก ทำได้แค่แจ้งตำรวจมาควบคุมเหตุ ฝากขอโทษครอบครัวตำรวจที่เสียชีวิต เข้าใจในความสูญเสีย ยอมรับตำรวจที่เสียชีวิตทำหน้าที่ดีที่สุด และเป็นตำรวจที่ดูแลใกล้ชิดประชาชน