อาชญากรรม

เปิดภาพองศารอยตัดเส้นผม 'น้องชมพู่' หลักฐานมัดตัว ‘ลุงพล’ คาดสะกดวิญญาณ

โดย petchpawee_k

22 ธ.ค. 2566

654 views

ผบ.ตร.ชื่นชมชุดทำคดี "น้องชมพู่" ยกเป็นโมเดลปรับปรุงพัฒนางานสืบสวนในอนาคต แนะใช้วิธีสืบสวนดั้งเดิมควบคู่สมัยใหม่ตามจับคนทำผิด ด้านเพจ‘Drama-addict’ เผยข้อมูล งานวิจัยเส้นผมคดีน้องชมพู่


วานนี้ (21 ธ.ค.) เพจ drama-addict โพสต์ข้อความระบุ "งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยในคดีน้องชมพู่ โดยทางตำรวจสอบสวนกลาง และมีการเผยแพร่งานวิจัยนี้ลงวารสารนิติเวชที่อเมริกา

เป้าหมายคือ การศึกษาสภาพเส้นผมในที่เกิดเหตุ ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด หรือ SEM  เพื่อศึกษาว่าสามารถใช้เส้นผมในที่เกิดเหตุ ซึ่งถูกตัดด้วยของมีคม ในการยืนยันว่าเส้นผมเหล่านั้นเป็นของบุคคลคนเดียวกันได้หรือไม่


การวิจัยใช้ เอาเส้นผม (ซึ่งเลือกเส้นผมที่มีขนาดและความยืดหยุ่นใกล้เคียงกับเคสน้องชมพู่) มาตัดด้วยของมีคมพร้อมๆกัน แล้วใช้ SEM ส่องเทียบดู


ซึ่งเมื่อนำไปส่องดูพบว่า รอยตัดเส้นผมจากมีด จะมีเอกลักษณ์ คือ ตรงกลางมันจะเรียบ แต่ขอบมันจะบิ่นเล็กน้อย เพราะเส้นผมมันจะยืดออกเล็กน้อยเวลาถูกตัดเพราะ elasticity ของเส้นผม


 พบว่าเส้นผมที่ถูกตัดออกมาในเวลาเดียวกัน ด้วยของมีคมชนิดเดียวกัน เมื่อนำมาเทียบองศาของรอยตัด รอยบิ่น สภาพองศาของแต่ละชั้นของเส้นผมที่ถูกตัดออก  มันตรงกันแทบทุกกระเบียดนิ้ว


 จึงสรุปว่า เป็นไปได้ ที่จะใช้เส้นผมที่ถูกตัดด้วยของมีคม ที่พบคนละตำแหน่ง มาเทียบกันว่าเป็นเส้นผมของคนๆเดียวกัน ที่ถูกตัดด้วยของมีคมชนิดเดียวกัน ณ เวลาเดียวกัน ถ้าเทียบแล้วองศาของรอยตัดเมื่อส่องด้วย SEM ตรงกันทุกกระเบียดนิ้ว เช่นนี้


ในงานวิจัยนี้ ไม่มีการเผยแพร่ข้อมูลของคดีน้องชมพู่ เป็นเคสจำลองที่เอาเส้นผมมาทดลอง แล้วทำผลไปใช้กับคดีน้องชมพู่อีกที ส่วนรายละเอียดองศาของเส้นผมน้องชมพู่ อยู่ในสำนวน ต้องรอดูคำพิพากษาตัวเต็ม

-------------------------------------------

ขณะที่ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงมาตรฐานการทำงานของพนักงานสอบสวน ในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ว่า


จะต้องยกคดีของลุงพลนี้เป็นโมเดลในการปรับปรุงพัฒนางานสืบสวนในอนาคต ทั้งการวิเคราะห์พฤติกรรมศาสตร์ของคนร้าย และการสืบสวนแบบดั้งเดิม (back to basic) ซึ่งวานนี้ได้แจ้งกับที่ประชุมของกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลแล้วว่าให้ฝึกนักสืบรุ่นใหม่ๆ ให้สามารถสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งประจักษ์พยานและพยานแวดล้อมด้วยวิธีแบบดั้งเดิม ยกระดับให้มีความเป็นสากลและมืออาชีพมากขึ้น

-------------------------------------------------

ด้าน พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รองผู้บังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งเป็นชุดทำคดีการเสียชีวิตน้องชมพู่ เปิดเผยในรายการโหนกระแสว่า ความยากของคดีน้องชมพู่  คือ ไม่มีประจักษ์พยาน ไม่มีกล้องวงจรปิด จึงต้องเก็บพยานหลักฐานแวดล้อม มีการสอบปากคำบุคคลในหมู่บ้านทั้งหมด เก็บพยานวัตถุไปตรวจ บางอย่างก็ต้องใช้การตรวจหลายครั้ง และใช้เวลา


ส่วนมูลเหตุจูงใจ ที่พาเด็กขึ้นไป ทาง พ.ต.อ.เผด็จ บอกว่าเคสที่ผู้ใหญ่กระทำกับเด็กในหลายเคส เด็กอ่อน อายุ 3 ขวบ เวลางอแง ก็จะมีผู้ใหญ่บางคน ที่จัดการอารมณ์ตัวเองไม่ได้ รู้สึกหงุดหงิด ไม่สามารถจัดการให้เด็กหยุดร้องได้ และไม่สามารถจัดการอารมณ์ตัวเองได้ ก็กระทำกับเด็กไป พอพลาดไปแล้ว มันเหมือนจากเรื่องเล็ก ก็เหมือนกับน้ำผึ้งหยดเดียวแทนที่จะเอามาคืน แต่เอาไปหลบไม่ให้ใครรู้


เมื่อสอบถามว่า คนร้ายตัดผมไปเพื่ออะไรนั้น ทางชุดทำงาน ก็ได้มีการขอความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัฒนธรรมจังหวัด บอกว่า ลักษณะการตัดเส้นผม หรือ ตัดเล็บ เป็นพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ที่พบเห็นทางภาคอีสาน เพื่อไปสะกดวิญญาณไม่ให้มีการรู้ว่าใครเป็นคนร้าย ไม่ให้มีผีหรือวิญญาณมาเข้าฝันบอกใครได้ว่าถูกใครฆ่า



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/syfWvZT5dgY

คุณอาจสนใจ

Related News