ตร.สืบสวนคดีน้องชมพู่ ชี้มูลเหตุ 'ประมาท' ทำดับ พร้อมเผยพิรุธ 'ลุงพล' หลายจุด

รองผู้การกองปราบ หนึ่งชุดทำคดีการเสียชีวิตน้องชมพู่ เผยเบื้องหลังการสืบสวนคลี่คลายคดีน้องชมพู่ อย่างละเอียด โดยเฉพาะการเก็บหลักฐานทางเส้นผมใกล้จุดพบศพ มีรอยมีดสับตรงกับที่พบในรถลุงพล



พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รองผู้บังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งเป็นชุดทำคดีการเสียชีวิตน้องชมพู่ว่าความยากของคดีนี้ คือ ไม่มีประจักษ์พยาน ไม่มีกล้องวงจรปิด จึงต้องเก็บพยานหลักฐานแวดล้อม มีการสอบปากคำบุคคลในหมู่บ้านทั้งหมด เก็บพยานวัตถุไปตรวจ บางอย่างก็ต้องใช้การตรวจหลายครั้ง และใช้เวลา สำหรับหลักฐานเส้นผม ทาง พ.ต.อ.เผด็จ เปิดเผยว่า ใกล้กับจุดที่พบศพ พบเส้นผมตกกระจายอยู่ใกล้จุดพบศพทั้งหมด 4 จุด



จุดที่ 1 พบเส้นผมทั้งหมด 46 เส้น

จุดที่ 2 พบเส้นผมทั้งหมด 13 เส้น

จุดที่ 3 พบเส้นผมทั้งหมด 3 เส้น

จุดที่ 4 พบเส้นผมทั้งหมด 1 เส้นซึ



จากนั้น จึงนำเส้นผมที่ตรวจพบ ไปตรวจพิสูจน์ดีเอนเอ ที่สามารถระบุตัวตนได้



จากการตรวจแล้ว บางเส้นตรวจได้ก็เป็นของน้องชมพู่ บางเส้นตรวจไม่ได้ ไม่รู้เป็นของใคร จึงเริ่มการตรวจด้วยวิธีไมโตรคอนเดีย บางเส้นก็ตรวจได้ บางเส้นก็ตรวจไม่ได้



หลังจากนั้น จึงเริ่มมีการตรวจลักษณะกายภาพของทางเส้นผมที่เก็บ ก็พบว่ามีร่องรอยเอกลักษณ์โดยเฉพาะเส้นผม 46 เส้น มันคือการตัดของคนร้าย ก็เลยเห็นร่องรอยที่เป็นเอกลักษณ์ว่า คนร้ายใช้มีดตัด โดยเป็นการใช้มีดตัดบนพื้นดิน แต่ดินมันอ่อน ผมมันเลยจมไปในดิน จึงต้องมีการตัดซ้ำ เลยทำให้เห็นร่องรอยการตัด 2 บั้ง ในเส้นผม



จากนั้น ทางกองพิสูจน์หลักฐานจึงได้เข้าไปเก็บวัตถุพยานในห้องโดยสารของรถลุงพล ก็พบเส้นผม 16 เส้น



เมื่อนำมาตรวจสอบ พบว่า บางเส้นก็หลุดร่วงตามธรรมชาติ แต่ตำรวจก็เจอบางเส้น ประมาณ 2-3 เส้นที่ถูกตัด เมื่อถามว่าถูกตัดจากอะไร ก็พบว่าถูกตัดจากมีดเหมือนกัน และมีร่องรอยที่มีเอกลักษณ์ตรงกัน พอตรวจละเอียดจึงยิ่งชัด และมัดแน่นว่ามันเคยอยู่ด้วยกันมาก่อน จากการตรวจสอบว่า 1 ในเส้นผมที่ถูกตัด ตรงกับน้องชมพู่



เมื่อสอบถามว่า คนร้ายตัดผมไปเพื่ออะไรนั้น ทางชุดทำงาน ได้มีการขอความเห็นนอกจากผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์แล้ว ยังสืบสวนไปในทางไสยศาสตร์ โดยเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่วัฒนธรรมจังหวัด และได้รับคำตอบว่า ลักษณะการตัดเส้นผม หรือ ตัดเล็บ เป็นพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ที่พบเห็นทางภาคอีสาน เพื่อไปสะกดวิญญาณไม่ให้มีการรู้ว่าใครเป็นคนร้าย ไม่ให้มีผีหรือวิญญาณมาเข้าฝันบอกใครได้ว่าถูกใครฆ่า



ส่วนมูลเหตุจูงใจ ที่พาเด็กขึ้นไป ทาง พ.ต.อ.เผด็จ พูดในรายการโหนกระแสว่า เคสที่ผู้ใหญ่กระทำกับเด็กในหลายเคส เด็กอ่อน อายุสามขวบ เวลางอแง ก็จะมีผู้ใหญ่บางคน ที่จัดการอารมณ์ตัวเองไม่ได้ รู้สึกหงุดหงิด ไม่สามารถจัดการให้เด็กหยุดร้องได้ และไม่สามารถจัดการอารมณ์ตัวเองได้ ก็กระทำกับเด็กไป พอพลาดไปแล้ว มันเหมือนจากเรื่องเล็ก ก็เหมือนกับน้ำผึ้งหยดเดียวแทนที่จะเอามาคืน แต่เอาไปหลบไม่ให้ใครรู้



ขณะเดียวกัน นอกจากพยานหลักฐานเส้นผม การสอบปากคำของลุงพลหลายครั้ง ก็พบข้อพิรุธที่ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง อย่างการหลุดปากพูดกับพระว่า รู้ว่าน้องหาย เลยมารับพระช้า แต่พอถามว่ารู้ได้อย่างไร ลุงพลก็บอกว่ารับโทรศัพท์จากป้าแต๋น แต่โทรศัพท์มีเครื่องเดียว จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะโทรสื่อสารกัน เพราะแต่เดิม ลุงพล กับ ป้าแต๋น มีโทรศัพท์คนละเครื่องที่ใช้ติดต่อหากัน แต่ช่วงที่โควิด ลูกอยู่บ้าน และชอบเอาโทรศัพท์มือถือไปเล่น ลุงพลจึงทำลายโทรศัพท์ทิ้งไปหนึ่งเครื่อง เพราะโมโหที่ลูกติดเกม จึงต้องเอาซิมการ์ดของตัวเอง ไปใส่เครื่องป้าแต๋น จึงเหลือโทรศัพท์เครื่องเดียว ซึ่งมันขัดกับคำให้การที่ลุงพลอ้าง และเวลาโทรเข้าออก ก็ไม่มีข้อมูลที่บันทึกไว้



อีกประเด็น คือ การที่ลุงพลไม่สามารถตอบคำถามช่วงเวลาที่หายไปช่วง 50 นาทีได้ อ้างว่า ไปรับพระ แต่ทำไมถึงใช้เวลานานขนาดนั้น เพราะที่จริงสามารถใช้เวลาแค่ 5 นาที ลุงพลก็พยามเอาเหตุการณ์ต่างๆ ว่าเค้าทำนู่นทำนี่ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังรับพระและเอามาอ้างแทน



ในคดีนี้ มันจึงชัดเจนอยู่แล้วว่า น้องชมพู่ ต้องมีคนพาขึ้นไป โดยเฉพาะภูเขาที่มีความชัน แต่ถ้าขึ้นไปสูงสุด ที่พบศพน้อง ตรงนั้นจะมีพื้นที่ประมาณ 5 × 10 เมตร การขึ้นไปถึงตรงนั้น องศามันชัน เด็กขึ้นไม่ได้ ผู้ใหญ่อย่างเราจะต้องใช้มือช่วยเพื่อข้ามไปชั้นบนสุด ซึ่งน้องชมพู่สูง 96 เซนติเมตร ยกแขนเอื้อมยังไงก็ไม่เกิน 150 เซนติเมตรแน่นอน การไปอยู่บนนั้นจะขึ้นเองก็ไม่ได้ ลงก็ไม่ได้



ทั้งนี้ คดีนี้ ที่คาดว่าจะมีการยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีของลุงพล ทาง พ.ต.อ.เผด็จ ยืนยันว่าจริงๆก็สามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น แม้พยานหลักฐานมันจะอันละเล็ก อันละน้อย แต่พอมาเรียงร้อย มันก็มีน้ำหนัก และเราก็เชื่อมั่นในพยานหลักฐานที่เรามี ซึ่งเคสนี้ มีความท้าทาย มีการขอความเห็น นำองค์ความรู้หลายมิติจากผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ต่างๆ มาใช้ในการคลี่คลายคดี หาคำตอบ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/f5F8aRE6uzU