'สมศักดิ์' ปัดล้วงลูก เอื้อ 'ทักษิณ' ชี้เข้าเกณฑ์ใหม่ คุมขังนอกเรือนจำ

กรณีนายทักษิณ ชินวัตร ที่นอนรักษาตัว ในโรงพยาบาลตำรวจใกล้ครบ 120 วัน และสอดรับกับที่ กรมราชทัณฑ์ ได้ออกระเบียบให้มีการควบคุมตัวที่บ้านได้ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า กฎระเบียบต่างๆ ออกมาเพื่อรองรับไม่ให้นายทักษิณ น้องถูกควบคุมตัวในเรือนจำ วันนี้ มีความเคลื่อนไหว ทั้งจากกลุ่มเคลื่อนไหวคัดค้าน ความเห็นจาก สว. และที่น่าสนใจคือ การให้สัมภาษณ์ของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ที่ออกมายอมรับว่า นายทักษิณ อาจอยู่ในข่าย สามารถควบคุมตัวที่บ้านได้



นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม ได้ชี้แจงภายหลังมีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับ ระเบียบกรมราชทัณฑ์ เรื่องการคุมขังนอกเรือนจำ ว่า เรื่องนี้ ต่อเนื่องจาก พรบ. กรมราชภัณฑ์ ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2560 ก่อนที่เขาจะรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม



จนมาถึงการเลือกตั้งปี 2562 จึงได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีการออกกฎกระทรวง เรื่องการจำแนกผู้ต้องขัง โดยดูในเรื่องพฤติกรรมผู้ต้องขัง การรักษาพยาบาล ตลอดจนการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ เขาได้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีก่อน



นายสมศักดิ์ ยืนยันว่า ระเบียบดังกล่าว ไม่ใช่การเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ต้องขังรายใดรายหนึ่ง และยืนยัน ไม่มีการต่อรองในการเข้ามาสังกัดพรรคเพื่อไทย เพราะหากคิด คงทำเสร็จไปแล้ว แต่เรื่องนี้ เป็นพัฒนาการของกฎหมาย ตามกรอบสากล ซึ่งตนไม่ได้ไปล้วงลูก



นายสมศักดิ์ ยังได้อธิบายต่อว่า มีนักโทษที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลเกิน 30 วันเกือบ 150 คน ไม่ได้มีคนเดียว และที่อยู่ในโรงพยาบาล 120 วัน ที่ผ่านมามีหลายคน แต่ไม่ได้มีการเปิดเผย เพราะนายทักษิณ เป็นบุคคลสาธารณะจึงถูกจับจ้อง



อีกด้านนึง เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล เดินทางไปที่รัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือต่อ นายสมชาย แสวงการ ประธานกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน ฯ วุฒิสภา และ นายแพทย์เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานกรรมาธิการ การสาธารณสุข วุฒิสภา เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี การรักษาตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร ว่าอยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจจริงหรือไม่ และมีอาการหนักขนาดไหน รวมถึงการรักษาตัวดังกล่าวเป็นไปตามหลักสากลหรือไม่ เนื่องจากเกือบ 120 วันยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวออกมาชี้แจง



นายสมชาย แสวงการ ชี้แจงว่า กรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ ได้ตรวจสอบเรื่องนี้มาอย่างน้อย 2 ครั้งแล้ว ซึ่งยังมีบางประเด็นที่ชี้แจงไม่ได้ และยังอยู่ในข้อสงสัยเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็นการออกระเบียบล่าสุด ซึ่งในวันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม เวลา13.30 น. จะมีการเรียก กรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ มาชี้แจงเพิ่มเติม ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรหลังจากการรักษาตัวครบ 120 วันแล้ว



ขณะนายแพทย์เจตน์ กล่าวว่า จากที่ทางกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจได้เคยมาชี้แจงในกรรมาธิการ สรุปได้ว่า ข้อมูลที่เจ็บป่วยมีอยู่ 4 โรค แต่เรื่องอาการหนักยังไม่มีความชัดเจน เพราะมีการอ้างถึงสิทธิของผู้ป่วย ซึ่งเราก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น คิดว่าหลักฐานที่สำคัญที่สุดคือเวชระเบียนผู้ป่วยใน แต่ก็ไม่สามารถขอมาได้ เพราะต้องเป็นคำสั่งของศาล