ลุ้นศาลพิพากษา ‘ลุงพล-ป้าแต๋น’ คดีน้องชมพู่ ‘ปู่มุนี’ หอบพวงหรีดให้กำลังใจ หวิดวางมวยเอฟซี

ลุ้นศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษา “ลุงพล – ป้าแต๋น” ตกเป็นจำเลยในคดีการเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” หลานสาววัย 3 ขวบ ด้าน  “ปู่มหามุนี” หอบพวงหรีด มาให้กำลังใจ ขณะที่ฝั่งเอฟซีลุงพลป้าแต๋น เดินมาดึงป้ายออก ก่อนปะทะคารมหวิดวางมวย

ในเวลา 10 โมงวันนี้ ศาลจังหวัดมุกดาหาร นัดอ่านคำพิพากษา คดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และ นางสาว สมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น 2 สามีภรรยา เป็นจำเลยคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ หลานสาววัย 3 ขวบ หลังหายออกจากบ้าน ที่บ้านกกกอก ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ไป 2-3 วัน ก่อนพบเป็นศพอยู่บนเขาภูเหล็กไฟ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 3-4 กิโลเมตร

โดยนายไชย์พล เป็นจำเลยที่ 1 ในฐานความผิดฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา, พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง, ทอดทิ้งเด็กอายุยังไม่เกิน 9 ปี เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย, ร่วมกันกระทำการใด ๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น

ส่วนนางสาวสมพร (ป้าแต๋น) เป็นจำเลยที่ 2 มีความผิดฐานร่วมกันกระทำการใด ๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น

ด้าน อุ๊บ วิริยะ นั่งปั้นชื่อดัง ก็มาที่ศาลด้วย เพื่อให้กำลังใจพ่อแม่น้องชมพู่ พร้อมเผยว่า เชื่อมั่นในตำรวจไทย เชื่อมั่นในศาล ว่ามีข้อมูลหลักฐานชัดเจน สามารถจับคนร้ายมาลงโทษได้ โดยไม่จับแพะชนแกะ เชื่อมั่นว่าความยุติธรรมต้องมีจริง วันนี้มาเพื่อพิสูจน์ความจริงใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ มาให้กำลังใจความถูกต้อง หลังจากนี้จะกลับไปถ่ายงานต่อที่ศรีสะเกษ

สำหรับความเคลื่อนไหวของทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนมีคำพิพากษา เมื่อวานนี้ นายไชย์พล และนางสาวสมพร เดินทางมาแวะพักที่บ้านกกกอก พร้อมกับไปไหว้พระขอพรพระพุทธชินราช ที่วัดกกกอก เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนฟังศาลตัดสิน

จากนั้นในช่วงหัวค่ำ ยังได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมทนายความ ที่โรงแรมในตัวอำเภอเมืองมุกดาหาร พร้อมแสดงความมั่นใจในการต่อสู้คดี มีล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือ ทำอะไรให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น แม้จะมีพยานอ้างว่า เห็นตนในพื้นที่ที่สามารถไปจุดเกิดเหตุได้ ก็ไม่หนักใจ เพราะเป็นแค่เรื่องบอกเล่า หลักฐานที่จะทำให้ตนชนะคดี ไม่มีอะไรพิเศษ แค่สู้ และนำสืบไปตามความจริงที่เกิดขึ้น / แต่หากศาลตัดสินว่าผิด ก็จะต่อสู้ไปตามกระบวนการกฎหมาย ซึ่งได้ปรึกษาทนายความ และบริษัทประกัน เตรียมพร้อมประกันตัวสู้คดี ที่ผ่านมาก็นอนหลับดี ไม่ได้กังวลอะไร

ด้านนางสาวิตรี และนายอนามัย วงศ์ศรีชา แม่และพ่อของน้องชมพู่ เมื่อวานนี้ ได้พากันไปทำความสะอาดบริเวณเจดีย์ หรือธาตุเก็บกระดูก ของน้องชมพู่ ที่วัดป่าภูผาแอก พร้อมจุดธูปบอกกล่าวดวงวิญญาณลูกสาว ว่า พรุ่งนี้ศาลจะตัดสินแล้ว ถ้าเขาเป็นคนทำ ลูกและทุกคนก็จะได้รู้ จะได้เห็นความจริง ลูกจะได้ไปสบาย มีความสุข ใครทำก็ขอให้ได้รับกรรม ขอให้ลูกได้ไปสวรรค์

แม่ไม่รู้สึกกังวล เพราะไม่ว่าศาลจะตัดสินออกมายังไง เราก็เคารพ เราเชื่อตามหลักฐาน เชื่อที่ตำรวจ และระบบยุติธรรมทำงาน หากศาลยกฟ้อง ก็จะอุทธรณ์ ฎีกา ตามขั้นตอนเหมือนทุกคดี หากศาลพิพากษาเอาผิดจำเลย ก็จะปรึกษาทนายความและอัยการเพื่อคัดค้านการประกันตัว

โดยเมื่อช่วงช่วงเช้าที่ผ่านมา พ่อแม่น้องชมพู่ นั่งคุยกับสื่อพร้อมทนายความ โดยแม่ชมพู่ บอกว่า รู้สึกตื่นเต้น และลุ้น ที่จะได้เดินทางไปฟังการอ่านคำพิพากษาของศาล เพราะเป็นคดีที่รอคอยมานานกว่า 3 ปี เมื่อคืนนี้นอนหลับสบายไม่ได้มีความกังวลอะไรมาก ซึ่งพร้อม และน้อมรับคำตัดสินของศาลทุกประการ

ขณะที่ทนายความของพ่อและแม่น้องชมพู่ บอกว่า ไม่กังวล เพราะมั่นใจในพยานหลักฐาน ที่มีการสืบพยานกันมานาน และหลักฐานที่นำขึ้นสู่ศาลมีความสอดคล้องต้องกัน หลังจากนี้ไม่ว่าผลคำพิพากษาจะออกมาในรูปไหน ทางทีมทนายความได้มีการเตรียมแผนรับมือไว้หมดแล้ว

โดยบรรยากาศที่บริเวณหน้าศาลจังหวัดมุกดาหาร ขณะที่ยังไม่ได้ทันอ่านคำพิพากษาปรากฏว่าเมื่อช่วงเวลาประมาณ 10:00 น. พบว่าที่หน้าศาลจังหวัดมุกดาหารนั้น นายชัยรัตน์ ยอดพรหม หรือ ปู่มหามุนีซึ่งเป็นยูทูบเบอร์ได้นำพวงหรีด โดยเจ้าตัวอ้างว่าเป็นดอกไม้ทรงกลมที่ติดป้ายให้กำลังใจลุงพลป้าแต๋นมาเตรียมวางไว้หน้าศาล เพื่อจะมอบให้กับลุงพลป้าแต๋นซึ่งทำให้กลุ่มแฟนคลับ หรือเอฟซีของลุงพลป้าแต๋นเกิดความไม่พอใจเดินมาดึงป้ายออก ทำให้ปู่มหามุนีเกิดอาการไม่พอใจและตำหนิการกระทำว่าหากไม่พอใจดอกไม้ทรงกลมนี้ ก็ให้ไปแจ้งตำรวจไม่ใช่มาทำลายข้าวของ

และขณะที่ปู่มหามุนีกำลังให้ข้อมูลอยู่กับผู้สื่อข่าวอยู่นั้น ปรากฏว่ามีแฟนคลับของลุงพลเข้ามาตำหนิต่อว่าว่าไม่สมควรในการนำพวงหรีดมาให้แบบนี้หากเป็นคนอื่นนำมามอบให้คุณจะรู้สึกเช่นไรจากนั้นก็โต้เถียงกัน

โดยเหตุการณ์ปะทะกันสองฝ่ายใช้เวลา 5นาที ก็สงบลง โดยผู้สื่อข่าวได้เรียกตำรวจให้มาช่วยนำตัวทั้งสองฝ่ายแยกออกจากกันเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/j1Ql4ItsK_g