สังคม

'ทนายตั้ม' คัมแบ็ก แฉ 'บิ๊กรัฐวิสาหกิจ' แก้สูติบัตร-บัตรปชช. ยืดอายุเกษียณ พร้อมชี้ข้อพิรุธ 3 จุด

โดย parichat_p

18 ธ.ค. 2566

96 views

ทนายตั้ม โชว์เอกสารใบสูติบัตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่รัฐวิสาหกิจโทรคมนาคมแห่งหนึ่ง เปลี่ยน พ.ศ.เกิด หวังยืดอายุเกษียณหรือไม่ ขอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พร้อมตั้งคำถาม เจ้าหน้าที่มหาดไทย มีส่วนรู้เห็นหรือไม่


นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้นำเอกสาร ซึ่งเป็นใบสูติบัตรของผู้บริหารระดับสูงหญิงท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านโทรคมนาคมมาเปิดเผย โดยอ้างว่า ตนเองได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มชมรมคนรักองค์กรของรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง ขอให้ตรวจสอบผู้บริหารหญิงรายนี้ ซึ่งเป็น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หลังพบข้อพิรุธว่ามีการเปลี่ยนแปลงปี พ.ศ. เกิด จากปี 2506 เป็น 2507 โดยตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีการยืดอายุเกษียณราชการหรือไม่


โดยในรายละเอียดใบสูติบัตร ทนายตั้มนำมาแสดงให้สื่อมวลชน ชี้ให้ดูข้อพิรุธ 3 จุด


-จุดแรก เป็นจุดที่ทนายตั้มเชื่อว่ามีการแก้ไขตัวเลขปีจากปี พ.ศ. 2506 เป็นปี 2507


-จุดที่ 2 คือ วันเกิดในใบสูติบัตร ที่ระบุว่า เกิดวันที่ 30 ธันวาคม ปี พ.ศ.2507 และระบุว่าตรงกับ "วันจันทร์"


-แต่ทนายตั้ม บอกว่าหากย้อนไปดูปฏิทินร้อยปี วันที่ 30 ธันวาคม 2507 จะตรงกับ "วันพุธ" ไม่ใช่วันจันทร์


-ในทางกลับกัน หากเป็นวันที่ 30 ธันวาคม 2506 ตามปฏิทินร้อยปี จะตรงกับ "วันจันทร์"


-และข้อพิรุธที่ 3 ในใบสูติบัตรลงวันที่ 31 มกราคม 2507 ซึ่งทนายตั้มจึงตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมมีการแจ้งเกิดล่วงหน้า คือ 31 มกราคม 07 แต่วันเกิดในใบสูติบัตรคือ 30 ธันวาคม 07 ซึ่งแจ้งก่อนวันเกิดจริง 1 ปี


สำหรับเอกสารหลักฐานนี้ ทนายตั้มบอกว่า ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ไม่น่าเกิดขึ้นจากความผิดพลาด เนื่องจากการจะขอเปลี่ยนแปลงข้อมูล จะต้องมีเอกสารยืนยัน เพื่อให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ทะเบียนราษฎร์ แต่ยังไม่ยืนยันว่าข้าราชการมหาดไทยทุจริตหรือไม่ ส่วนนี้ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป


ส่วนการขยายเวลาไปอีกหนึ่งปี จากเดิมหากเกิดปี 2506 จะเกษียณในเดือนกันยายน 2567 แต่การเกิดปี 2507 จะเกษียณอายุในเดือนกันยายน 2568


ซึ่งทางกลุ่มชมรมคนรักองค์กรของรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง ได้เข้ามาร้องเรียนขอให้ตรวจสอบ ทั้งในส่วนของข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ที่เป็นเจ้าหน้าที่ทะเบียนราษฎร์ จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นผู้แก้ไขปีเกิดในใบสูติบัตร และบัตรประชาชน รวมถึงตัวรองกรรมการผู้จัดการใหญ่


โดยทางผู้ร้องเรียน กล่าวอ้างว่ารองกรรมการผู้จัดการใหญ่รายนี้ เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลายอย่าง ทั้งเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และอำนาจในการจัดซื้อจัดจ้าง เนื่องจากมีอำนาจในการเซ็นอนุมัติโครงการ ตั้งแต่ 40 - 100 ล้านบาท


อีกทั้งยังพบข้อสงสัยว่า ช่วงที่มีการแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลปีเกิด ทางรองกรรมการผู้จัดการใหญ่คนนี้อายุ 58 ปีแล้ว แต่เหตุใดจึงเพิ่งมาทราบว่าแจ้งเกิดผิด โดยการเปลี่ยนแปลงนั้น เกิดขึ้นภายหลังจากรัฐวิสาหกิจหน่วยงานนี้ มีการควบรวมองค์กร และมีการให้ยื่นเอกสารใหม่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ สำเนาบัตรประชาชน ทำให้ทราบว่ามีการเปลี่ยนแปลงปี พ.ศ.บัตรประชาชน จึงสอบถามไปที่กระทรวงมหาดไทย และได้สูติบัตรดังกล่าวมา


ที่ผ่านมา ทางกลุ่มชมรมคนรักรัฐวิสาหกิจ ได้เคยทำหนังสือร้องเรียนไปยังบอร์ดบริหารของหน่วยงานต้นสังกัดแล้วเมื่อปี 2565 แต่ก็ไม่เป็นผล จึงนำเรื่องมาร้องเรียนกับตัวเอง


เบื้องต้นหากพบว่ามีการแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ ก็จะมีโทษทางอาญา จำคุกตั้งแต่ 6 เดือนไม่เกิน 3 ปี ส่วนทางเจ้าพนักงานทะเบียนราษฎร์ ก็อาจจะเข้าข่ายผิดมาตรา 157 จำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/VYt-54Xt2DA

คุณอาจสนใจ

Related News