ครูสาวเครียด เด็ก ม.2 ลักเงิน 7 แสน ให้แฟน-ซื้อไอโฟนแจกเพื่อน หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางสาวรุ่งรัตน์ โชคชัย อายุ 42 ปี เป็นครูสอนชั้น ป.5 อยู่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอำเภอห้วยคต จ.อุทัยธานี เปิดเผยว่า ตนเองและนางวัฒนา โชคชัย อายุ 59 ปี มีบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ อยู่ริมถนนบ้านหินโหง่น ต.ห้วยคต


เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา มีนักเรียนหญิงชั้น ม.2 อายุ 14 ปี เรียนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอห้วยคต ซึ่งมีบ้านติดกับบ้านตน ฉวยโอกาสตอนที่ตนเลี้ยงลูกอยู่หน้าบ้าน เดินเข้ามาทางหลังบ้าน แล้วเข้าไปลักเงินในห้องนอน ที่เก็บไว้ในโต๊ะจำนวน 7 แสนบาทไป โดยเงินจำนวนนี้ เป็นเงินที่ตนกู้มาจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครู 5 แสนบาท และเงินของแม่อีก 2 แสนบาท โดยนำเงินใส่ไว้ในกระเป๋าห่อด้วยผ้าขาวอีกชั้น และใส่ไว้ในตู้ชั้นล่าง โดยเด็กคนนี้นำเงินของตนไปแบ่งกับเพื่อนนักเรียนด้วยกัน จนเมื่อตนไปแจ้งความที่ สภ.ห้วยคต เด็กก็ยอมรับสารภาพว่า ขโมยเงินไปจริง ๆ โดยเอาเงินไปแบ่งให้เพื่อน และนำไปซื้อโทรศัทพ์ไอโฟนให้เพื่อนหลายเครื่อง จนเงินหมดเกลี้ยง


ครูรุ่งรัตน์ บอกว่า ก่อนหน้านี้ เด็กหญิงคนนี้ก็เคยก่อเหตุลักเงินในบ้านตนมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา น้องเดินเข้ามาในร้าน ทำทีเหมือนจะมาซื้อของ ซึ่งตอนนั้นแม่ของตนเฝ้าร้านอยู่คนเดียวและต้องเลี้ยงหลานด้วย น้องฉวยโอกาสที่ไม่มีคนเห็น แอบหยิบเงินที่ใส่ไว้ในกระติกเก็บเงิน เอาไป 2,000 บาท แต่แม่ของตนจับได้ น้องจึงยอมคืนเงิน ซึ่งตนไม่เอาเรื่อง เพราะเห็นว่าเป็นเด็ก จึงได้ตักเตือนไป จนกระทั่งครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ก็มาก่อเหตุอีก  


ครูบอกว่า ตอนแรกตนไม่รู้ว่าถูกขโมยเงิน จนกระทั่งมีชาวบ้านมาเล่าให้ฟัง และมีเพื่อนของน้องที่เรียนโรงเรียนเดียวกัน ส่งภาพมาให้ครูดู ว่าน้องใช้เงินฟุ่มเฟือยอย่างผิดปกติ ครูเอะใจจึงรีบเข้าไปตรวจสอบเงินและทรัพย์สินในบ้าน จนพบว่าเงิน 7 แสนหายไป จึงไปถามกับตัวน้องเองว่า เอาเงินครูไปหรือไม่ น้องก็ยอมรับว่าเอาเงินไปจริง ๆ ครูจึงไปแจ้งความที่ สภ.ห้วยคต  


ครูบอกว่า หลังจากเจ้าหน้าที่นำตัวเด็กหญิงผู้ก่อเหตุมาสอบถาม ให้การรับสารภาพว่า เข้าไปขโมยเงินในบ้านครูจริง โดยนำเงินไปให้นายนิว ซึ่งเป็นแฟนหนุ่ม แต่นายนิวให้การว่า ได้เงินมาแค่ 3 แสนบาท ส่วนเงินอีก 3 แสน เด็กหญิงเอาไปให้นายบอล ซึ่งเป็นเพื่อนในกลุ่ม จากนั้นก็พากันไปซื้อโทรศัพท์ไอโฟน 11 เครื่อง ที่ห้างสรรพสินค้า โดยตำรวจได้ติดตามเอาโทรศัพท์คืนมาแล้วทั้ง 11 เครื่อง โดยให้เจ้าของร้านมาซื้อคืนไป เพื่อนำเงินคืนให้กับครู โดยได้เงินคืนมา 120,000 บาท ส่วนเงินอีก 58,000 บาท ยังไม่ได้คืน ครูพยายามสอบถามไปทางพนักงานสอบสวน ได้คำตอบว่า ในส่วนที่จะไกล่เกลี่ยกับผู้ปกครองนั้น ต้องให้ครูไปจ้างทนายความมาฟ้องร้องเอา  


ครูบอกว่า ตอนนี้ตนและครอบครัวได้รับความเดือดร้อนมาก เนื่องจากเงินจำนวนดังกล่าว ตนไปกู้สหกรณ์ และไปกู้ชาวบ้านมาส่วนหนึ่ง เพื่อนำเงินไปชำระหนี้สิน และไถ่ถอนที่ดิน ครูกลัวว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม กลัวไม่ได้เงินคืน เพราะเด็กที่ก่อเหตุอายุแค่ 14 ปี ยังเป็นเยาวชน จึงต้องร้องผ่านสื่อเพื่อขอความเป็นธรรมด้วย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/hc4OQgPzxk8