นายกฯ เดินตรวจสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ชี้ต้องเร่งเปลี่ยนผ่านใช้รถ EV มากขึ้น

เวลา 11.00 น. หลังเสร็จสิ้นการ เสวนาหัวข้อ “คนไทยถาม นายกฯ เศรษฐาตอบ” ในงาน เดลินิวส์ ทอล์ก 2023 (Dailynews Talk 2023) ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง , นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินมาจากโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล มายังบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เพื่อดูสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 หลังหลายพื้นที่ของไทยมีค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน

นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า หลายภาคส่วนอย่างภาคธุรกิจในการก่อสร้างตึก ตนเองบอกแล้วว่าที่ไหนฉีดน้ำได้ให้ฉีด รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กำชับ ขอร้อง เรื่องของการเผาซากพืชผลเกษตร ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นพอดี เชื่อว่าเรื่องนี้มีความสำคัญอยู่แล้ว ทุกคนขานรับนโยบาย และไม่นิ่งนอนใจเรื่องนี้ เพราะปัญหานี้กระทบกับทุกภาคส่วน ทั้งการท่องเที่ยว และสุขภาพ


หลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร มีสถานการณ์ PM 2.5 เข้าขั้นวิกฤต ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากควันดำจากรถยนต์จะแก้ปัญหาได้อย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องก็ต้องดูแลและจัดการ รวมถึงมีการตรวจสอบสภาพควันดำ ทั้งนี้ตนมองว่าไม่ได้เกิดจากสถานการณ์ควันดำเพียงอย่างเดียว ฉะนั้น การที่เราจะเปลี่ยนถ่ายไปสู่รถ EV จึงเป็นสิ่งสำคัญ พร้อมย้ำว่ารถที่ไม่ได้มีควันดำ ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ปล่อยมลพิษ

เมื่อถามว่าวันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มาดูสภาพจริงแล้ว ประชาชนจึงหวังว่าอยากให้มาแก้ปัญหา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ต้องช่วยทุกเรื่องทั้งการเผาป่า เรื่องการเผาอ้อย ซึ่งจะต้องดูแลทั้งหมด

เมื่อถามว่าเหตุการณ์นี้เป็นในช่วงฤดูกาลใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าไม่อยากให้ใช้คำว่าเป็นฤดูกาล เพราะใช้คำว่าเป็นฤดูกาลแสดงว่าเรายอมรับปัญหา แต่มันเป็นช่วงที่เราต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และอย่ายอมรับปัญหามัน ซึ่งเรื่องนี้เราต้องช่วยกันทุกคน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ก็ดูแลอย่างเต็มที่และมีความเป็นห่วงเป็นใย และไม่เคยอ้างว่าเป็นฤดูกาล ซึ่งเรื่องนี้มันเป็นสิ่งที่เราต้องเอาใจใส่ เพราะมันเป็นเรื่องสุขภาพของประชาชน พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่ ส่วนการแก้ไขปัญหารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมก็ทำอย่างเต็มที่อยู่แล้วในการกำกับดูแล