อาชญากรรม

รวบเจ้าหนี้พังร้านส้มตำลูกหนี้ เหตุไม่พอใจไปลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ ตร.แจ้งข้อหาอ่วม

โดย paweena_c

7 ธ.ค. 2566

141 views

รวบทันควันเจ้าหนี้พร้อมสมุน 2 คน พังร้านลูกหนี้ ไม่พอใจที่ไปลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ เพื่อขอจ่ายเงินต้น โดนแจ้งข้อหาอ่วม ปลัดจังหวัดเผย ร่วมตำรวจจับคนทำผิดต่อเนื่อง พร้อมให้ความเป็นธรรมเจ้าหนี้ที่ถูกเบี้ยว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณส้ม (นามสมมติ) ผู้เสียหาย นำกล้องวงจรปิดภายในร้านส้มตำ ซึ่งอยู่ที่ ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท มาให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมกล่าวว่า เหตุเกิดช่วงเวลา 4.30 น. เมื่อวานนี้ (6 ธ.ค. 2566) เห็นชาย 2 คน ขีมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน มาจอดข้างร้าน ก่อนเดินอ้อมไปหลังร้าน ถอดปลั๊กกล้องวงจรปิดออก

จากนั้นประมาณ 7.00 น.ที่ผ่านมา มีคนโทรศัพท์มาแจ้งว่า ร้านส้มตำถูกคนมารื้อทำลายข้าวของ ตอนแรกคิดว่าเป็นโจร เมื่อมาตรวจที่ดูกลับไม่พบว่า มีของสูญหาย แต่อุปกรณ์ทำมาหากินพังเสียหายหมด อุปกรณ์ทำเหล้าปั่น ถูกโยนทิ้งลงแม่น้ำด้านหน้าร้าน จึงเชื่อว่าเป็นฝีมือของเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ คงไม่พอใจที่ไปบอกกับเจ้าหนี้ว่า “ไปลงทะเบียนแก้หนี้มานะ ทำไมเจ้าหน้าที่ที่อำเภอโทรหาไม่รับสาย ยังไงก็จะคืนเงินต้นให้นะ ไม่ใช่ไม่คืน ก็ขอให้ไปไกล่เกลี่ยกันที่อำเภอแล้วกัน” พอเช้าอีกวันก็พบว่า ข้าวของในร้านถูกทำลาย พังเสียหายหมด

ยอดเงินที่ไปกู้ มีเงินต้นประมาณ 30,000 บาท ปัจจุบันได้ทยอยส่งไปแล้ว เหลือเงินต้น 20,000 กว่าบาท หลังเกิดเหตุได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.สรรคบุรี พร้อมฝากถึงเจ้าหนี้ว่า เงินที่ไปกู้มา ตั้งใจที่จะคืนให้ เพราะตอนที่ไปกู้ ขายของไม่ค่อยดี ลำบากจริงๆ จึงจำเป็นต้องกู้ อยากให้มาคุยกันดีๆ ไม่ควรมาทำลายสิ่งของแบบนี้

ล่าสุด เช้าวันนี้ (7 ธ.ค. 2566) พลตำรวจโท จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงพื้นที่แถลงข่าวที่ สภ.สรรคบุรี โดยเปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจชัยนาทสามารถตามจับตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไม่ถึง 1 วัน เริ่มจากจับกุม 2 คน ที่ไปพังร้านส้มตำ คือ นายไตรภพ อายุ 28 ปี และนายนิรุต อายุ 24 ปี ทั้งคู่รับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง จึงถูกแจ้ง 3 ข้อหา ร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน, ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์

จากนั้นได้สอบสวนต่อทราบว่า นายทุนเงินกู้ คือ นายธีระศักดิ์ อายุ 37 ปี จึงตามไปจับกุมตัวมาสอบสวน โดยถูกแจ้งข้อหา ปล่อยเงินกู้คิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และประกอบกิจการเงินกู้โดยไม่ได้รับอนุญาต

หลังจากนี้ได้สั่งการตำรวจไปลงพื้นที่หาข่าวเชิงลึก เพื่อขยายผลว่า มีใครอยู่เบื้องหลังอีกหรือไม่ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ลูกหนี้มาลงทะเบียนแก้ปัญหาร่วมกัน เชื่อว่าเมื่อพูดคุยกันได้ ลูกหนี้จะไม่ถูกคุกคาม ตำรวจจะให้ความดูแลเต็มที่

ด้านนายวิทยา ชพานนท์ ปลัดจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า จังหวัดชัยนาท มีผู้มาลงทะเบียนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ 394 ราย มูลค่าหนี้กว่า 13 ล้านบาท กรณีที่เกิดเหตุมาลงทะเบียนในวันที่ 1 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันแรกของการลงทะเบียน โดยขอให้ทางอำเภอช่วยเจรจาแก้ปัญหาหนี้ ซึ่งมีเจ้าหนี้อยู่ 3 ราย สามารถตกลงกันได้ 2 ราย ส่วนรายนี้เจ้าหน้าที่โทรศัพท์ไปหาแต่ไม่รับสาย ไม่ยอมเข้ามาไกล่เกลี่ย ส่วนกรณีที่เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเจ้าหนี้ด้วย หากตกลงกันแล้ว แต่ลูกหนี้ตีมึน ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เจ้าหน้าที่รับปากว่า จะช่วยโทรตามทวงหนี้ให้ ป้องกันการเกิดมีปากเสียงหรือปะทะกัน


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/sF13rI7Kcl0

คุณอาจสนใจ

Related News