สั่งฟ้อง 'กำนันนก' จ้างวานฆ่า 'สารวัตรศิว' - อดีตผกก.พญาไท รอด

อัยการสั่งฟ้องนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ผู้ต้องหาจ้างวานฆ่าสารวัตรศิว แต่สั่งไม่ฟ้องอดีตผู้กำกับสน.พญาไทกับ ตำรวจ อีก 4 นาย เพราะมีหลักฐานช่วยสารวัตรศิวหลังถูกยิง



ความคืบหน้าคดีนายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง มือปืนที่ก่อเหตุยิง พันตำรวจตรีศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรแบงค์ สารวัตรทางหลวง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ขณะร่วมงานเลี้ยงของนาย ประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก วันนี้ครบ 84 วัน ที่เกิดเหตุ และอัยการสูงสุดมีคำสั่ง "กำนันนก" ทั้ง 2 สำนวน



นาย ประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า คดีของกำนันนก แบ่งเป็น 2 สำนวน ได้แก่ คดีฆาตกรรม สารวัตรศิว ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและจ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา คดีนี้มีผู้ต้องหาอีกคน คือ นายหน่อง หรือธนันชัย แต่ถูกตตำรวจวิสามัญไปแล้ว ซึ่งคดีนี้อัยการสำนักงานคดีอาญามีความเห็นสั่งฟ้องกำนันนก ตามที่พนักงานสอบสวนเสนอมา ส่วนนายหน่อง เนื่องจากถูกวิสามัญจึงมีคำสั่งยุติคดี



ส่วนสำนวนที่ 2 เป็นสำนวนกล่าวหา ตำรวจและพลเรือน รวม 28 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ ขณะที่มีการยิงสารวัตรศิวกร ในความความผิดเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต มีความเห็นสั่งฟ้องตำรวจ ได้แก่ พันตำรวจตรี เกียรติศักดิ์ สมสุข กับพวก และพลเรือน รวม 23 คน ในข้อหาแตกต่างกันไป ซึ่งรวม 6 คนแรกที่ถูกจับดำเนินคดี เป็นกลุ่มที่ขับรถพากำนันนกหลบหนี และมีการทำลายพยานหลักฐาน ส่วนพลเรือน ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานในการกระทำความผิดรวมถึงกำนันนกด้วย



เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพนักงานอัยการนำตัวตำรวจและพลเรือนรวม 23 คน ส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางแล้ว โดยกำนันนกถูกฟ้องทั้ง 2 ศาล คือ ศาลอาญาและศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยอัยการจะเสนอศาลให้นับโทษทั้ง 2 สำนวนต่อกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับที่ศาลใดจะตัดสินคดีใดก่อน



ตำรวจ 5 นาย ที่พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้อง ได้แก่ พันตำรวจเอก กฤษฎาพร จงอักษร อดีต ผกก.สน.พญาไท / พันตำรวจโท ภทร วรญาวิสุทธิ์ / พันตำรวจเอก ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล / ร้อยตำรวจเอก ณัฏฐพล นาคกร / และร้อยตำรวจโท มนัต จันทร์มีทรัพย์ เนื่องจากอัยการเห็นว่าจัดอยู่ในกลุ่ม ที่มีการเคลื่อนไหวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น พาผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลหรือสนับสนุนช่วยเหลือในด้านต่างๆ ไม่ได้นิ่งเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น