อาชญากรรม

ผู้เสียหาย ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกอดีตทหารเรือ เปิดบริษัทประมูลที่พักทิพย์ สูญเงินกว่า 3 ล้าน

โดย nutda_t

29 พ.ย. 2566

150 views

ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาผู้เสียหายกว่า 20 คน เดินทางไปยื่นหนังสือ ถึงผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ให้ช่วยรับทำคดี หลังถูกเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง มีผู้ติดตามกว่า 1.3 แสนคน ซึ่งเป็นบริษัทมีการจดทะเบียนถูกต้อง โดยเจ้าของบริษัทเป็นอดีตทหารเรือ หลอกให้ประมูลห้องพักโรงแรมหรู 5 ดาว ชื่อดังหลายแห่ง ราคาถูกกว่าปกติ จากคืนละ 10,000 บาท เหลือ 2,000 บาท สุดท้ายไม่ได้เข้าพัก ไม่ตรงปก สูญเงินรวม 3 ล้านบาท ผู้เสียหายติดต่อขอเงินคืนแล้วไม่ได้คืน โดยถูกอ้างว่า กำลังหาเงินจากขายขนมถ้วยมาใช้คืน

คุณเอ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนรู้จักเพจเฟซบุ๊กนี้จากน้องสาวที่รู้จักกัน จึงมีการติดต่อขอจองที่พักผ่านเพจ แต่ทางเพจได้ตอบกลับมาว่าถูกแฮ็กข้อมูล ได้มีการเชิญเข้ากลุ่มไลน์แทน ในกลุ่มจะมีคนอยู่เยอะ มีทั้งลูกค้าเก่าและตนที่เป็นลูกค้าใหม่ โดยการประมูลนั้นจะเกิดขึ้นหลังจากที่แอดมินผู้ดูแลกลุ่มจะส่งภาพสถานที่ห้องพักหรู หรือโรงแรม 5 ดาว สวยๆที่ราคาถูกกว่าปกติเกินครึ่ง ซึ่งทำให้คนเห็นห้องสวยๆและราคาถูกๆ อยากทำการประมูลแข่งกัน โดยมีการเปิดประมูลเริ่มต้นที่หลักร้อย ทั้งที่ราคาห้องหลักหมื่น ทุกคนในกลุ่มไลน์ก็จะเคาะราคาสู้กัน หลังจากได้ผู้ชนะ ทางแอดมินจะส่งข้อมูลมาทางไลน์ส่วนตัวพร้อมเลขบัญชีให้โอนเงิน ก็คือจองสำเร็จ

ซึ่งการจองที่พักจะต้องจองล่วงหน้าก่อนประมาน 3-6 เดือน บางคนที่ถูกโกง จะมีกรณีช่วงโปรโมชันพักฟรี มีค่าประกันห้อง 6,000 บาท หลังจากพักแล้วรีวิวให้เพื่อนในกลุ่มว่าที่พักดีสวยจริง ไม่โกง หลังจากนั้นก็จะคืนเงินค่าประกันให้ เท่ากับว่าได้มาพักฟรี แต่ก็ไม่ได้จริงอย่างที่พูด เพราะว่าไม่โอนเงินให้กับลูกค้า เวลาจะคืนเงินอ้างว่าเป็นระบบช้า อ้างไปเรื่อย ซึ่งตนและผู้เสียหายคนอื่นหลงเชื่อ เพราะว่าทางบริษัทอ้างว่าที่ราคาถูก ได้เงินสนับสนุนจากองค์กรณ์การกุศลช่วยความสุขให้ลูกค้าได้ที่พักดีๆ

โดย คุณเอ สูญเงินไปกว่า 280,000 บาท เพราะเห็นว่าราคาถูก ซึ่งจะจองไว้ไปพักเที่ยวกับครอบครัว โดยการซื้อเก็บไว้ก่อน เพราะบริษัทบอกไม่มีหมดอายุ ในไลน์ตนก็เห็นมีประมูลทุกวัน ราคาก็ถูกลงเรื่อยๆ จึงทำให้ตนเกิดความอยาก พอประมูลแล้วมันก็สนุกด้วย เลยเสียเงินเยอะขนาดนี้ ตนเคยไปพักมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรกเป็นการไปพักแบบโปรโมชันรีวิวที่พัก ครั้งที่ 2 ไปโปรโมชันพักพร้อมครอบครัวที่มีการซื้อคูปองลดราคาช่วงวันหยุด เสียเงินเพิ่มเองเรื่องเตียงนอน ส่วนครั้งที่ 3 จองโรงแรมหรูไว้แล้ว แต่พอถึงวันไปพัก กลับถูกเลื่อนให้ไปโรงแรมที่มีราคาถูกกว่า แถมยังถูกเรียกเก็บเงินค่ามัดจำจำนวน 4,500 บาท หากไม่จ่าย ตนและครอบครัวคงไม่มีที่นอน หลังจากจ่ายค่ามัดจำไป สุดท้ายก็ไม่ได้เงินคืน วันนี้จึงเดินทางมาร้องเรียนกับทนายรณรงค์ให้ช่วยเหลือ ตอนนี้ผู้เสียหายมีหลายคนแล้ว อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยติดตามนำเงินมาคืนตนและผู้เสียหายทั้งหมด

ด้าน น.ส.ดารารัตน์ อายุ 46 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนรู้จักเพจนี้ในเฟซบุ๊กของเพื่อน ซึ่งเห็นว่ามีการแจ้งเตือนเด้งประมูลที่พักตั้งแต่ ปี 2564 ตนจึงสนใจทักเพจไปประมูลที่พักผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งราคาจะถูกกว่าปกติ เพราะว่าเป็นการจองล่วงหน้าใน 2 เดือนแรก ตนได้ทำการประมูลไปแล้วกว่า 40,000 บาท ส่วนมากจะเป็นโรงแรมที่หัวหิน หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือนต่อมา ตนได้ทักแอดมินไปว่าขอเข้าพักด่วน เพื่อที่จะขอเข้าไปเช็กเครดิต ก็พบว่ามีเอเจนท์อยู่จริง มีตัวตน หลังจากนั้นทางเพจก็ส่งโปรโมชันหาตนหลายอย่าง ตนก็ทำการซื้อทุกอย่างตามโปรโมชัน มีการสั่งจองล่วงหน้าประมูลกับเพื่อนไปประมาณ 10,000 บาท แต่พอถึงเวลา ถูกอ้างว่าข้อมูลหายทั้งหมด ต้องจองใหม่ มีการขอเงินประมูลคืน อ้างต้องหมุนเงินคืนลูกค้าคนอื่น สุดท้ายเรื่องนี้ก็จบไป เพราะทางแอดมินได้ให้ห้องพักเพื่อนตนในราคาถูก

หลังจากนั้นตนก็ทำการประมูลเรื่อยมามียอดกับทางบริษัทอยู่ตลอด ยอดโอนต่อเดือน 50,000-70,000 บาท จนกระทั่งปลายปี 2564 ทางบริษัทได้เห็นว่าตนมีแอคเคาท์ อโกด้า ซึ่งในการจองโรงแรมจะมีราคาถูกลง ทีนี้ทางบริษัทก็ให้ตนเป็นคนจองโรงแรมแทนลูกค้า โดยอ้างว่าทางบริษัทเป็นองค์กรการกุศลของคริตจักร ตนก็คิดว่าทำบุญไปจึงมีการโอนจองให้ตลอด แต่ช่วงหลังมาทางบริษัทไม่จ่ายช้า ไม่คืนเงินตน จนกระทั่งยอดประมูลที่พัทยากับหัวหินก็ประมาณ 800,000 บาท ซึ่งต่อมาตนได้พยายามติดตามเพื่อเอาเงินคืน แต่ก็ถูกอ้างว่าต้องขายขนมถ้วยเพื่อหาเงินมาคืนจ่ายค่าห้อง ซึ่งรวมยอดที่จ่ายไปประมาณ 1,000,000 บาท โดยตนเป็นคนชอบไปเที่ยวกับเพื่อนเป็นประจำอยู่แล้ว ตอนนี้เสียหายมากจึงร้องทนายรณณงค์ให้ช่วยเหลือให้ทางบริษัทชดใช้เงินกับผู้เสียหาย

ขณะที่ ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า วันนี้ทางผู้เสียหายได้รวมตัวเดินทางเข้ามาร้องเรียน เนื่องจากมีการสั่งจองห้องพัก หรือโรงแรมหรูล่วงหน้า ปรากฏพอถึงเวลาไม่ได้เข้าพัก โรงแรมทิพย์ หรือเข้าพักแล้วต้องสำรองเงินจ่ายเอง ซึ่งบางคนก็เสียเงินเป็นหลักล้าน บางคนก็หลักแสน ซึ่งกรณีนี้น่าสนใจตรงที่ว่า เจ้าของบริษัทเป็นอดีตทหารเรือซึ่งจะต้องถามไปที่กองทัพเรือด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้น พรุ่งนี้ก็จะพาผู้เสียหายรวบรวมพยานหลักฐานไปแจ้งความที่กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ซึ่งดูแลโดยตรง ในข้อหาที่จะไปแจ้งคือ ฉ้อโกงประชาชน และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำข้อมูลอันเป็นเท็จ หลักๆตอนนี้ทางผู้บริโภคอยากได้เงินคืน หากทางบริษัทอยากชี้แจงก็สามารถชี้แจงได้ อย่างไรก็ตามก็อยากให้พิสูจน์ด้วยว่า ที่มีการพูดอ้างกับผู้เสียหายว่าได้เงินสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ หากไม่มีจริงก็จะเข้าองค์ประกอบทางกฎหมายตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าทหารเรือจะเป็นแบบนี้ ส่วนการที่อ้างผู้เสียหายว่าจะขายขนมถ้วยนำเงินมาใช้ มันเป็นเรื่องของอนาคต

คุณอาจสนใจ