ผบช.สอท. บุกจับผู้หมวดไซเบอร์ ผลิตปืนยาวอัดลมแรงดันสูง ขายออนไลน์

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. นำกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจค้นบ้านพัก ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บางรักน้อย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี หลังสืบทราบว่าบ้านดังกล่าว ถูกใช้เป็นสถานที่ในการจำหน่ายอาวุธปืนผ่านทางออนไลน์

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์สองชั้น เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจค้น พบ ร.ต.ท.ปัณณทัต อายุ 35 ปี ตำแหน่ง รอง สว.ฝ่ายกิจการต่างประเทศ บก.อก.สอท. กำลังแพ็กอาวุธปืนเพื่อจัดส่งทางไปรษณีย์ให้กับลูกค้า ซึ่งทันทีที่ ร.ต.ท.ปัณณทัต เห็นเจ้าหน้าที่ ก็มีสีหน้าตกใจ ก่อนรับเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว และยินยอมให้ตรวจสอบ

จากการตรวจค้น พบอาวุธปืนยาวอัดลม 3 กระบอก พานท้ายปืน 100 ชิ้น , ลำกล้องปืนสไนเปอร์ 150 ชิ้น , ที่สูบลมปืนแบบมือ 20 ตัว , ที่สูบลมไฟฟ้า 2 ตัว , กริปมือ 120 ชิ้น ชุดยิง 47 ตัว , กระสุนหัวร่มกว่า 200 นัด และอุปกรณ์อื่นๆจำนวนมาก

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีการนำเสนอขายอาวุธปืนยาวอัดลมแรงดันสูง ผ่านทางแอปฯยูทูป ก่อนที่จะให้ผู้ที่สนใจติดต่อผ่านไอดีไลน์ เพื่อทำการติดต่อซื้อขาย ซึ่งไลน์ดังกล่าวมีสมาชิก 6,238 ผู้ติดตาม 2,552 คน จึงได้ทำการสั่งซื้อ จนพบข้อมูลว่ามีการส่งอาวุธปืนอัดลมผ่านทางบริษัทขนส่งเอกชน โดยใช้บ้านดังกล่าวเป็นสถานที่ในการจัดส่ง จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทำการเข้าตรวจค้น  

สอบสวน ร.ต.ท.ปัณณทัต ให้การรับสารภาพว่า มีความชื่นชอบในเรื่องของอาวุธปืน จึงได้ศึกษาและทดลองสั่งอุปกรณ์ต่างๆ อาทิ อุปกรณ์ส่วนควบ เกลียวลำกล้อง และชุดลั่นไก มาจากทางออนไลน์ ก่อนขายให้กับกลุ่มลูกค้า ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบอาวุธปืน และกลุ่มชาวสวนที่จะนำปืนไปยิงสัตว์ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานเป็นหลัก ทำมาแล้วกว่า 3 ปี มีลูกค้าสนใจสั่งซื้อเฉลี่ยเดือนละ 20-30 กระบอก ขายกระบอกละ 15,000 บาท กำไรหลังจากหักต้นทุนแล้ว ตกเฉลี่ยกระบอกละ 3,000 -4,000 บาท ทำให้ต่อเดือนจะมีรายได้กว่า 3 แสนบาท  

อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.นาวิน เส็งสมวงษ์ ผบก.อก.สอท ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของนายตำรวจนายนี้ ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมให้รายงานผลให้ทราบโดยเร็ว เพื่อดำเนินการในส่วนของวินัยและอาญาตามขั้นตอน นอกจากนี้ได้เน้นย้ำในที่ประชุมว่าให้ดำเนินการตามกฎหมาย หากพบมีตำรวจในสังกัดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการกระทำผิด

พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า อาวุธปืนอัดลมที่ตรวจยึดนั้น แม้ไม่ใช่อาวุธปืนจริง แต่หากมีการนำมาใช้งานก็เป็นอันตรายแก่ชีวิต ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่พบข้อมูลว่าในห้วงตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.-13 ก.พ. ที่ผ่านมา มีการส่งพัสดุทั้งหมด 104 ครั้ง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวสอบสวนและขยายผล พร้อมแจ้งข้อหาข้อหาจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต , ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต และครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป