สังคม

เปิดใจผู้โดยสารหญิงร้องโดนแท็กซี่ข่มขู่ ขึงขังทำตาโตใส่ฉุนลูกค้าบอกให้เปิดแผนที่

โดย taweelap_b

29 พ.ย. 2566

1.3K views

กรณีเพจสายไหมต้องรอด โพสต์คลิปวิดีโอผู้โดยสารหญิงคนหนึ่ง เรียกรถแท็กซี่แต่ปรากฎว่าเมื่อถามเส้นทางที่จะไป กลับถูกโชเฟอร์แท็กซี่พูดตะคอกใส่ ทำท่าทางขึงขัง ตาโต ใช้คำหยาบคาย ท้าทายว่าจะไปแจ้งความที่โรงพัก จากนั้นผู้โดยสารพยายามจะลงจากรถ คนขับก็ตามลงมาโต้เถียง และมีปากเสียงกันต่อที่ริมถนน


หลังจากนั้น ผู้โดยสารได้นำคลิปมาโพสต์ขอความช่วยเหลือผ่านเพจสายไหมต้องรอด พร้อมระบุข้อความว่า ฝากท่านอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และผกก.สน.บางยี่ขัน ตรวจสอบข้อเท็จจริง ช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนด้วย


ล่าสุดวันที่ 29 พ.ย. 66 ทีมข่าวช่อง 3 เดินทางลงพื้นที่สอบถามผู้โดยสารคนดังกล่าว เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 66 เวลา 10.30 น. ที่ผ่านมา ตนได้เรียกรถแท็กซี่บริเวณถนนบรมราชชนนี ใกล้กับห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เพื่อที่จะให้ไปส่งที่ซอยตากสินซอย 19 เมื่อขึ้นรถตนได้สอบถามคนขับแท็กซี่ว่าจะใช้เส้นทางไหน เพราะจะได้ช่วยดูเส้นทางว่าไปทางไหนแล้วจะเร็วที่สุด ตอนแรกคนขับไม่ตอบ ตนก็ถามซ้ำ คนขับก็ตอบกลับมาว่า จะไปทางศิริราช ซึ่งไม่ใช่ทางที่ตนคุ้นเคย ตนจึงบอกว่า เดี๋ยวลองเปิดแผนที่ดู ทันใดนั้นคนขับก็มีอาการไม่พอใจ หันมา ทำตาโตใส่ พร้อมกับตะคอกเสียงดังว่า รู้จักเส้นทางดี ขับรถในกรุงเทพฯ มา 20 ปีแล้ว ไม่ต้องดูแผนที่ และก็เริ่มพูดเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ ตนจึงพูดไปว่า ทำไมถึงทำกิริยาแบบนี้กับผู้โดยสาร คนขับก็ยิ่งโมโหหนักมากยิ่งขึ้น และพูดจาตะคอกต่อว่าตนไปเรื่อย ๆ


"ตอนนั้นตกใจและกลัว แต่พยายามตั้งสติ คิดว่าต้องเอาตัวเองออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด จึงบอกกับคนขับว่าจะขอลง ไม่ไปแล้ว แต่คนขับกลับขับชิดไปทางเลนขวาไม่ให้ลงจากรถ พร้อมกับบอกว่าจะไลฟ์ ก็เลยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปไว้ด้วย ระหว่างนั้นคนขับจับพวงมาลัย 1 มือ อีกมือจับโทรศัพท์มือถือ ทำให้ไม่สะดวก จึงนำรถเข้าข้างเลนซ้าย ตอนนั้นจึงรีบฉวยโอกาสรีบลงจากรถทันที ระยะทางห่างจากจุดที่ขึ้นรถมาเพียงประมาณ 200 เมตร และคนขับก็จอดรถตามลงมาโต้เถียง บอกว่าถ้าไม่จ่ายจะพาไปแจ้งความที่โรงพัก ให้นั่งรถไปด้วยกัน" ผู้โดยสารรายนี้ กล่าว


นอกจากนี้ ในขณะนั้นมีรถแท็กซี่อีกคันขับผ่านมาพอดี ตนจึงเรียกไปส่งที่ สน.บางยี่ขัน ซึ่งคนขับแท็กซี่คู่กรณีก็ขับรถตามมา และเมื่อมาถึงโรงพักก็ยังพูดจาโวยวายใส่ตำรวจ แต่ระหว่างที่รอตำรวจเรียกเข้าคุยประมาณ 5 นาที จู่ ๆ คนขับแท็กซี่ ก็เดินออกไปข้างนอก แล้วก็ขับรถหนีหายไปเลย ตนจึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้ พร้อมกับประสานไปยังกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรมแท็กซี่คันดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รับตอบกลับ


อย่างไรก็ดี ตนตั้งข้อสังเกตว่า คนขับแท็กซี่ใช้สารเสพติดด้วยหรือไม่ ทำให้มีอาการดังกล่าว ซึ่งตนก็ไม่เคยเจอคนเมายา แต่ท่าทางคนขับแท็กซี่ไม่ปกติ ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ทำตาโต ขึงขัง และพูดจาไม่ได้ใจความ วนไปวนมา เหมือนอาการลอย ๆ ดังนั้น ตนจึงอยากให้กรมขนส่งฯ เรียกตัวเข้ามาตรวจสอบ เพราะตนมองว่าพฤติกรรมเป็นอันตรายต่อสังคม หากเด็กผู้หญิง หรือคนชรา เดินทางคนเดียว ก็ไม่ควรที่จะเดินทางกับคนขับที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ เพราะไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตนต้องการให้ตรวจสอบด้วยว่าคนขับแท็กซี่ขึ้นทะเบียนถูกต้องหรือไม่ ตรวจสอบการใช้สารเสพติด และการควบคุมพฤติกรรมต่อผู้โดยสารด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News