เจาะเบื้องหลัง คำสั่งย้ายอธิบดี DSI ตามเหมาะสม หรือปม 'หมูเถื่อน' ?

การนำหมายศาลเข้าตรวจค้นเอกสารที่บริษัทสยามแม็คโคร สำนักงานใหญ่ เมื่อวานนี้ อาจเป็นการทำหน้าที่สุดท้ายของพันตำรวจตรีสุริยา ในฐานะอธิบดีดีเอสไอ ต่อการแก้ปัญหาหมูเถื่อน และอาจทำให้ถูกมองว่าเป็นปมของคำสั่งย้ายอธิบดีดีเอสไอในวันนี้



แต่ที่จริงสัญญาณการโยกย้าย อาจสังเกตเห็นมาก่อน จากท่าทีของนายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งประชุมด่วนที่สนามบินสุวรรณภูมิ และการประชุม ครม.เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่กำชับให้อธิบดีดีเอสไอ เดินหน้าสางคดีหมูเถื่อน รวมถึงกรณีหุ้นสตาร์ค และหุ้นมอร์ ซึ่งดีเอสไอ ก็แถลงความคืบหน้าทั้ง 3 คดีอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี่เอง แต่นั่นก็อาจจะไม่เพียงพอที่จะรักษาตำแหน่งนี้ไว้ได้



เอกสารข่าวกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงเหตุผลย้ายพันตำรวจตรีสุริยา จากตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ สู่ตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม โดยระบุเหตุผลว่าเป็นตำแหน่งสำคัญที่ต้องขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงในภาพรวมและประสานงานต่างกระทรวงฯซึ่งพันตำรวจตรีสุริยา ผ่านงานสำคัญมามาก จึงมีความรู้ ความสามารถ เหมาะสมกับตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรมที่ยังว่างจากการแต่งตั้งครั้งนี้



เอกสารข่าวยังย้ำว่าการย้ายอธิบดีดีเอสไอ จะไม่กระทบการดำเนินคดีสำคัญของดีเอสไอโดยเฉพาะกรณีหมูเถื่อน ที่ต้องตรงไปตรงมา ครอบคลุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยยึดกฎหมายเป็นสำคัญ



อย่างไรก็ตาม แม้มีคำยืนยันจากเอกสารข่าวของกระทรวงยุติธรรมในฐานะต้นสังกัด แต่สังคมยังเคลือบแคลงว่าเป็นปัญหาการปฎิบัติงานหรือไม่



โดยเฉพาะเมื่อนายกรัฐมนตรีเรียกประชุมด่วนที่สนามบินสุวรรณภูมิ และอีกครั้งคือการประชุมครม.เมื่อ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กำชับให้ดีเอสไอสางคดีหมูเถื่อน รวมถึงคดีหุ้นสตาร์ค คดีหุ้นมอร์ ให้เร็วกว่านี้



ที่จริงแล้วคดีพันตำรวจตรีสุริยา ลงพื้นที่แหลมฉบังทันที เมื่อราวเดือนมิถุนายน นับจากที่รับคดีหมูเถื่อนเป็นคดีพิเศษที่ 59/2566 เพื่อเปิดตู้คอนเทนเนอร์บางส่วนจากทั้งหมด 161 ตู้ จากนั้นคณะพนักงานสอบสวนก็แกะรอยบริษัทที่เกี่ยวข้อง จนได้เบาะแส 17 สายเรือ ที่นำเข้าคอนเทนเนอร์ เมื่อสอบสวน พบว่ามีบริษัทชิปปิ้ง 10 ราย เกี่ยวข้องกับการนำเข้า 161 ตู้



ดีเอสไอสอบสวน 10 บริษัทนี้ และมีอย่างน้อย 2 บริษัท สารภาพว่าผู้สั่งให้นำเข้าคือบ.เวลท์ธี่แอนด์เฮลที่ฟูด ย่านดอนเมือง ดีเอสไอจึงออกหมายจับและค้น จนได้หลักฐานอีกมาก โดยเฉพาะสถานที่เก็บหมูในห้องเย็นและหลักฐานว่าส่งหมูที่นำเข้าให้ใครบ้าง



เมื่อดีเอสไอ สอบสวนมาถึงขั้นตอนนี้เอง ก็เป็นช่วงที่นายรักฐมนตรี ตำหนิการทำงานของดีเอสไอว่าล่าช้า ทั้งที่สั่งการไปแล้วและต้องการให้หาตัวการใหญ่ได้ให้ได้โดยเร็วไม่ใช่ปลาซิวปลาสร้อย และหลังจากนั้น ดีอสไอก็ ขอหมายค้นห้องเย็นที่สมุทรสาคร กระทั่งล่าสุดคือเมื่อวานี้ ที่นำหมายค้นเข้าค้นเอกสาร ที่บ.สยามแม้คโคร สำนักงานใหญ่ เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริง หลังจากดีเอสไอพบว่า แม้คโครซื้อหมูและตับหมูแช่แข็ง จาก 2 บริษัท ที่ดีเอสไอดำเนินคดีอยู่ เป็นมูลค่าเกือบ 800 ล้านบาท



อธิบดีดีเอสไอเพิ่งตอบตอบคำถามเมื่อวานนี้ว่าทุกขั้นตอนของการทำผิดกฎหมายกรณีหมูเถื่อนมีข้าราชการและนักการเมืองเกี่ยวข้อง



ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะกำกับดูแลกรมปศุสัตว์ ที่ทั้งเป็นเจ้าทุกข์กรณีหมูเถื่อนลักลอบนำเข้าผิดพรบ.โรคระบาดสัตว์ และทั้งที่มีเจ้าหน้าที่ในกรมปศุสัตว์บางคน ถูกฟ้อง และยื่นปปช.โดยร้อยเอกธรรนัสเชื่อว่าปมการย้ายเป็นเพียงการบริหารงานบุคคลของกระทรวงยุติธรรม และไม่น่ามาจากปมการแก้ปัญหาหมูเถื่อนที่ทำงานด้วยกันอย่างดี



อย่างไรก็ตามไม่ว่าปมการย้ายอธิบดีดีเอสไอ จะเป็นเพราะความเหมาะสมในตำแหน่งรองปลัดยุติธรรมมากกว่า หรือเพราะการแก้ปัญหาหมูเถื่อน หุ้นสตารค์ และหุ้นมอร์ล่าช้า แต่ข้อความที่สื่อสารออกมา ก็ดูเหมือนว่าพันตำรวจตรีสุริยา จะไม่เสียใจ โดยใช้คำว่า ทำเต็มที่แล้ว