WHO ยัน โรคปอดอักเสบระบาดในจีน ไม่สูงเท่าการแพร่ระบาดโควิด-19 พร้อมย้ำไม่พบเชื้อโรคใหม่

องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ออกมายืนยันว่า จำนวนของผู้ป่วยโรคปอดอักเสบที่กำลังเพิ่มขึ้นในประเทศจีนไม่สูงเท่ากับ ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมย้ำไม่พบเชื้อโรคใหม่ หรือ เชื้อโรคที่ผิดปกติตามที่หลายฝ่ายกังวล


รักษาการผู้อำนวยการแผนกการเตรียมความพร้อมและป้องกันโรคระบาดของ WHO ระบุว่า การที่ผู้ติดเชื้อมีจำนวนสูงขึ้นเป็นผลจากมีเด็กจำนวนมากล้มป่วยเพิ่มขึ้นจากการติดเชื้อโรคชนิดต่าง ๆ

หากเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 นางเคิร์คโฮฟย้ำว่า คลื่นการแพร่ระบาดในปัจจุบัน ยังไม่เทียบเท่ากับจุดสูงสุดที่เคยพบในช่วง 2561-2562 ดังนั้น จึงไม่มีข้อบ่งชี้ว่า เชื้อโรคที่แพร่ระบาดอยู่เป็นเชื้อโรคใหม่


ด้านนายมี่ เฟิง โฆษกคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน หรือ NHC เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลันเพิ่มสูงขึ้นจากการแพร่ระบาดพร้อมกันของเชื้อโรคหลายชนิด โดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่


อย่างไรก็ดี ตอนนี้ การแพร่ระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจ ทำให้ผู้ป่วยในหลายพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขต้องหน่วยงานท้องถิ่นเพิ่มคลินิกรักษาไข้หวัด รองรับผู้ป่วย โดยเฉพาะที่กรุงปักกิ่งและมณฑลเหลียวหนิง


ขณะเดียวัน โรงพยาบาลหลายแห่งแทบจะรับผู้ป่วยไม่ไหว ยกตัวอย่างเช่น โรงพยาบาลเด็กในกรุงปักกิ่ง พ่อแม่และผู้ปกครองจำนวนมากต่างนำลูกหลานมาพบแพทย์ ผู้ป่วยต้องยืนรอแพทย์ในห้องโถงขนาดใหญ่ จนแทบจะไม่มีพื้นที่ว่าง


ทั้งนี้ จีนต้องต่อสู้และรับมือกับโรคระบบทางเดินหายใจที่แพร่ระบาดอย่างหนักในช่วงฤดูหนาวเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด นายน์ทีน


กระทวงสาธารณสุขจีน ได้กำชับให้สถาบันทางการแพทย์อัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยเด็กที่เข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้เตรียมพร้อม ทั้งคลินิกทางการแพทย์และเพิ่มเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในพื้นที่ที่ผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีคำสั่งให้โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก และบ้านพักคนชรา ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคระบาดอย่างเคร่งครัดด้วย


ขณะที่แพทย์แนะนำผู้ปกครองให้นำลูกหลานมาพบแพทย์โดยเร็วเมื่อมีอาการ โดยเฉพาะเด็กทารกที่มีอายุต่ำกว่า 3 เดือน


ทั้งนี้ การแพร่ระบาดโรคระบบทางเดินทางหายใจในประเทศจีน กลายเป็นประเด็นที่ทั่วโลก ให้ความสนใจหลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อน WHO ออกมาร้องขอให้ทางการจีนชี้แจงข้อมูล หลังมีรายงานคลัสเตอร์โรคปอดอักเสบปริศนาในเด็ก ซึ่งทางการจีนก็ออกมาชี้แจง และยืนยันว่าไม่พบเชื้อโรคใหม่หรือเชื้อโรคที่ผิดปกติ


สื่อท้องถิ่นยังรายงานคำพูดของหัวหน้าแพทย์ประจำแผนกโรคติดเชื้อของโรงพยาบาลโหยวอัน ในกรุงปักกิ่งว่า ผู้ติดเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจจะพุ่งสูงขึ้นจนถึงจุดสุดยอดในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า จากการแพร่เชื้อของคนหนุ่มสาวในที่ทำงาน และเด็กนักเรียนในโรงเรียน


นอกจากนี้ ยังเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหญ่ ในช่วงวันหยุดปีใหม่ และผู้สูงอายุอาจเสี่ยงที่จะติดเชื้อมากขึ้น เพราะคนในครอบครัวกลับมาพบปะสังสรรค์และเฉลิมฉลองปีใหม่ร่วมกัน


ขณะที่นายอู๋ จือเว่ย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยสาธารณสุขแห่งวิทยาลัยการแพทย์ ของมหาวิทยาลัยหนานจิง กล่าวว่า โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในจีนอาจเกิดขึ้นจากประชาชนมีภูมิคุ้มกันในการป้องกันไวรัสบางชนิดต่ำลงหลังการแพร่ระบาดของโควิด นายน์ทีน


เขากล่าวว่า การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ที่พบบ่อยในช่วงฤดูหนาว ไม่ได้แพร่ระบาดหนักเหมือนกับโควิด นาย์นทีน ซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว จะมีประชาชนติดเชื้อไวรัสชนิดต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น ไวรัส RSV, ไวรัสไข้หวัดใหญ่, หรือโรคปอดอักเสบจากเชื้อไมโคพลาสมา แต่ช่วงที่ผ่านมา มีคนเป็นโควิด นายน์ทีนเยอะ จึงทำให้ภูมิคุ้มกันต่อไวรัสเหล่านี้ลดลง