ก๋วยเตี๋ยวรถเข็นรวยน้ำใจยืนหยัดแจกฟรี 23 ปี เจ้าของเผยเคยลำบากขอตอบแทนคืนสังคม

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหน้าสถานีรถไฟ จ.พิษณุโลก ผู้ที่ชื่นชอบรับประทานก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสุโขทัย และก๋วยเตี๋ยวน้ำตก ที่มีความอร่อย คุ้มค่า คุ้มราคา จะพากันมารับประทานก๋วยเตี๋ยวจากร้านแก้วเย็นตาโฟ สูตรเจ้มาลัยทอง ของนายปิงโก โพธิ์ทอง อายุ 64 ปี ที่เปิดขายอยู่บนรถเข็นบริเวณนี้มายาวนานตั้งแต่ ปีพ.ศ.2539 หรือ 27 ปี และยังเป็นขวัญใจผู้คน เพราะที่นี่เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป และเด็กอายุไม่เกิน 5 ขวบ และยังรวมถึงคนที่ยากจน หรือไม่มีเงินหาซื้อรับประทานอาหาร ก็สามารถมารับประทานก๋วยเตี๋ยวที่ร้านฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

นางปิงโก กล่าวว่า ตนเริ่มให้กินฟรีมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 หรือ 23 ปีที่ผ่านมา บรรยากาศการมารับประทานก๋วยเตี๋ยวที่นี่ทุกค่ำคืน จะมีลูกค้ามาอุดหนุนกันทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา คนวัยทำงาน รวมถึงผู้สูงอายุ เนื่องจากที่นี่ยังมีความพิเศษที่แตกต่างจากร้านก๋วยเตี๋ยวที่อื่น คือ ทุกคนได้รับของแถม คือ แป้งคลุกหมูทอด และปลาระเบิดทอด 1 ชามเต็ม ๆ เอาไว้ใส่ในก๋วยเตี๋ยว เพื่อเพิ่มความอิ่มโดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม เพราะให้ทุกคนฟรี 

ปัจจุบันตนมีอายุเพิ่มมากขึ้น ตอนนี้หูเริ่มตึง เวลาลูกค้าจะมาพูดคุยด้วยก็ต้องมาพูดใกล้ ๆ และจากความตั้งใจช่วยเหลือ ผู้สูงอายุ และเด็กรวมถึงผู้ตกทุกข์ได้ยากตามความตั้งใจ เมื่อช่วงเกิดโรคโควิด ขณะนั้นนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เดินทางมามอบรางวัล ผู้เสียสละเพื่อสังคม เพื่อเป็นเกียรติประวัติด้วย

นายปิงโก เปิดเผยอีกว่า ร้านของตนเปิดให้กินฟรี ทุกวันมา 20 กว่าปีแล้ว ในแต่ละวันจะมีผู้อายุมารับประทานก๋วยเตี๋ยว ประมาณ 60 คน และอย่างน้อยที่สุดคือ 40 คน ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี พ่อแม่ก็จะพาบุตรหลานมากินก๋วยเตี๋ยว ตนก็ยินดีช่วยเหลือไม่ค่อยได้ดูเรื่องอายุแล้ว เพราะอยากช่วยเหลือ ต้องการทำบุญกับเพื่อนมนุษย์ ลดความหิวโหยของผู้คน เนื่องจากตนเคยประสบกับสภาวะ ความอดอยาก ไม่มีจะกินมาก่อน จึงมีความเข้าใจถึงหัวอกและจิตใจของพวกเขาเหล่านี้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ยังถือเป็นการทำบุญเพื่อทดแทนบุญคุณ แก่ อาแปะ ลูกค้าประจำเมื่อครั้งสมัย ตอนที่ตนขี่รถรถตุ๊กตุ๊กรับจ้าง ประมาณ 20 กว่าปีที่ผ่านมา ตนได้รับความช่วยเหลือจากอาแปะ ให้ยืมเงินซื้อรถขายก๋วยเตี๋ยว จำนวน 30,000 บาท โดยไม่มีสัญญา เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่กับอาชีพขายก๋วยเตี๋ยว และเมื่อตนเปิดขายก๋วยเตี๋ยว ทยอยนำเงินไปใช้ให้อาแปะจนครบแล้ว จากนั้นประมาณ 6 ปี อาแปะก็เสียชีวิต โดยที่ตนยังไม่มีโอกาสได้ตอบแทนบุญคุณอาแปะแต่อย่างใด และหลังจากเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว จึงมีแนวความคิดว่า อยากทำบุญทำความดี ช่วยเหลือผู้อื่น ด้วยการแบ่งปันก๋วยเตี๋ยวบางส่วนให้ผู้อดอยาก ยากไร้ ผู้สูงอายุและเด็ก เพราะตนเคยเป็นเด็กกำพร้ามาก่อน แต่มีข้อแม้ว่า ผู้ที่มารับประทานก๋วยเตี๋ยวฟรี จะต้องรับประทานที่ร้านเท่านั้น และไม่ดื่มสุรา หรือมีอาการเมาขณะมารับประทานก๋วยเตี๋ยว

อย่างไรก็ตาม ด้วยความใจดี และอุปนิสัยที่ยิ้มแย้มแจ่มใจ ทำให้มีลูกค้าขาประจำและผู้ที่เคยมารับประทานก๋วยเตี๋ยวฟรี ที่นี่ แวะเวียนมาช่วยกันอุดหนุน จนหนาแน่นเกือบทุกวัน สำหรับผู้สนใจสามารถไปร่วมอุดหนุนกันได้ทุกวันที่บริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟพิษณุโลก เปิดขายทุกวันตั้งแต่หัวค่ำจนถึงเวลาประมาณ 03.30 น.