เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 14 พ.ย.66 แจงดรามาตำรวจจีน-นักเรียนอาลัยครูเจี๊ยบ-แฉ อ.เอก ฝ่ามือพลังจิต

1.ตร.มั่นใจเสี่ยแป้ง ยังกบดานบนเขาบรรทัด

2.สยบดรามาปม ตร.จีน ร่วมลาดตระเวน

3.ผบ.ตร.มองคนก่อเหตุเป็นองค์กรอาชญากรรมไม่ใช่ นศ.

4.ครู-นร.-ผู้ปกครอง ร่วมวางดอกไม้อาลัยครูเจี๊ยบ

5.พ่อ-แม่ เข้ารับศพลูกชาย – ตร.หิ้ว 2 โจ๋เค้นสอบ

6.ดรามา อ.เอก ฝ่ามือพลังจิต ใช้วิธีถีบคนไข้

7.วิกฤตสัตว์น้ำในแม่น้ำบางปะกงลอยคอเกลื่อน



เรื่องเล่าการเมือง

-นายกฯ มั่นใจพ.ร.บ.กู้เงิน แจกเงินดิจิทัล ผ่านสภา ลั่นหาเงินได้..ใช้เงินเป็น

ประเด็นร้อนการเมือง ยังเป็นเรื่องการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท เมื่อวานนี้ ท่านนายกฯ มั่นใจว่า 320 เสียงของพรรคร่วมรัฐบาล จะสนับสนุน พ.ร.บ.กู้เงิน ผ่านสภาฯ ได้ ก็ย้ำว่า เป็นนายกฯจากพรรคเพื่อไทย "หาเงินได้…ใช้เงินเป็น"

เมื่อวานนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางเข้าร่วมการประชุมเอเปค ณ นครซานฟานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 10,000 บาท ที่สังคมมีทั้งคนเห็นด้วย เห็นต่าง และสนับสนุน ว่า ไม่อยากให้มีธง และรับฟังความคิดเห็นถึงข้อดีข้อเสีย แล้วหยิบยกมาพูดคุยกัน

ส่วนกรณีที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุโครงการดังกล่าวอาจไม่เกิดขึ้นจริง และอาจไม่ผ่านสภา ประชาชนจะไม่มีโอกาสได้รับเงินจริง ท่านนายกฯ ระบุว่า "ผมมั่นใจว่าเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล 320 เสียง ทำงานเป็นทีม จึงเชื่อว่าจะผ่าน และคนไทยจะได้ใช้เงิน 10,000 บาท”

ก็ยืนยัน ว่ารัฐบาล ทำนโยบายนี้ถูกต้องทั้งหมด และมองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศขณะนี้อยู่ในวิกฤตที่ต้องการ การกระตุ้น

ขณะที่เรื่องเกณฑ์เงินในบัญชี 5 แสนบาท ซึ่งมีการถามกันว่าจะเริ่มต้นนับเมื่อไหร่ เพราะบางคนก็เตรียมไปยักย้ายเงินออกจากบัญชี ท่านนายกฯนายกฯ บอกว่า เริ่มนับแล้วตั้งแต่เดือนกันยายน ที่ผ่านมา

ประเด็นเรื่องการออกพ.ร.บ.กู้เงิน ที่ถูกวิจารณ์นั้น ท่านนายกฯ ระบุว่า "ผมเป็นนายกฯที่มาจากพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าหาเงินได้...ใช้เงินเป็น"

นอกจากนี้ นายกฯ ยังเปิดเผยด้วยว่า ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้เสนอให้ออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน เอง ก็บอกว่า หากยกระดับจีดีพีขึ้นไป สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีจะลดตามไป แม้หนี้จะเพิ่มแต่ถ้าจีดีพีมากกว่าหนี้จะลดลง



-จุลพันธ์ ยืดอกรับแจกเงินดิจิทัล “ไม่ตรงปก..เพราะรับฟัง”

ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ให้สัมภาษณ์สรยุทธ เคลียร์ประเด็นที่เป็นข้อสงสัย ตั้งแต่เรื่องเกณฑ์เงินเดือน 7 หมื่น ไปจนถึงประเด็นอื่น ๆ ที่ถูกโจมตีว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต "ไม่ตรงปก" ตามที่หาเสียงไว้

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ กับสรยุทธ สุทัศนะจินดา เมื่อวาน ชี้แจงประเด็นต่างๆ ที่เป็นคำถามเกี่ยวกับเรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

โดยเฉพาะเรื่องเกณฑ์เงินเดือน 7 หมื่นว่าคิดอย่างไร ก็เคลียร์ให้แล้ว ว่าหมายถึงฐานรายได้ที่แจ้งต่อกรมสรรพากร ซึ่งจะรวมไปถึงรายได้อื่น ๆ รวมถึงโบนัสด้วย

ส่วนที่ถูกโจมตี ว่าโครงการไม่ตรงปก ตามที่รัฐบาลหาเสียงไว้ ตั้งแต่ไม่ได้แจกทุกคน แจกล่าช้าออกไป จนถึงเรื่องกู้เงินที่เคยบอกว่าจะไม่กู้ นายจุลพันธ์ ก็ยืดอกรับแบบแมน ๆ โดยยอมรับว่า มีกลไกที่รัฐบาลจำเป็นต้องทำตาม แต่ยืนยันรัฐบาลคิดมาถี่ถ้วนแล้ว

ส่วนเมื่อถามว่า หากสุดท้ายเกิดอุบัติเหตุไม่สามารถออก พ.ร.บ.กู้เงินได้ (ไม่ว่าจะด้วยขั้นตอนไหน เช่น กฤษฎีกาเห็นว่าทำไม่ได้ / ไม่ผ่านขั้นตอนสภา / หรือ ศาลรัฐธรรมนูญตีตก) นายจุลพันธ์ ระบุว่า รัฐบาลก็จะหากลไกอื่นในการหาเงินเพื่อดำเนินโครงการให้ได้ ยังไม่ปิดประตู แต่ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่โครงการจะดีเลย์ออกไปจากล่าสุดที่นายกฯ ประกาศว่าจะเริ่มเดือนพฤษภาคมปีหน้า หากเกิดสะดุดในขั้นตอนต่าง ๆ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้มีแนวคิดจะยืมมือศาลรัฐธรรมนูญมาล้มโครงการ



-กรณ์ โพสต์ติงรัฐบาล ออก พ.ร.บ.กู้มาแจก ส่อขัดกฎหมาย

ขณะที่ อดีตรัฐมนตรีคลัง นายกรณ์ จาติวณิช เมื่อวานนี้ ออกมาโพสต์ ถึงการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5แสนล้านบาท ว่าไม่ควรทำอย่างยิ่ง

โดยนายกรณ์ บอกว่า พรรคเพื่อไทยพูดชัดมากว่า จะไม่กู้ ถึงวันนี้ชัดเจนแล้วว่า เงินงบประมาณมีไม่พอ ถ้าผ่านด่านกฎหมายแล้วกู้ได้ แจกได้ ก็จะเกิดปัญหาเศรษฐกิจ

มีคนเพื่อไทยเชียร์ว่า กู้มาแจก ไม่เห็นเป็นอะไร ถ้ากระตุ้นเศรษฐกิจไม่สำเร็จ เงินนี้ก็ไม่ได้ไปไหน หมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจอยู่ดี จุดนี้อันตรายครับ พูดเหมือนว่า ’หนี้’ คือ ’รายได้’ ที่ไม่ต้องคืน และพูดเหมือนไม่รู้ว่า มันมีต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงมาก!

สำคัญที่สุด การออก "พ.ร.บ.กู้มาแจก" เป็นวิธีการที่ขัดต่อหลักวินัยการคลังอย่างให้อภัยไม่ได้จริงๆ และผมเชื่อว่าส่อขัดหลักกฎหมายด้วย

นายกรณ์ ยกตัวอย่าง สมัยรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ ตอนนั้นเจอวิกฤติเศรษฐกิจระดับโลก ต้องกู้เงินนอกงบประมาณมาเติม ตนจึงเสนอคุณอภิสิทธิ์ให้ออก พ.ร.ก.เร่งด่วนกู้แบบเผื่อเหลือเผื่อขาดที่ 8 แสนล้านบาท แต่นายกฯอภิสิทธิ์ ให้ออก พ.ร.ก.กู้เพียง 4แสนล้าน ตามจำนวนที่ต้องใช้จริงอย่างเร่งด่วน

นายกรณ์ บอกว่า ทั้งหมดเพราะ พ.ร.ก. มีไว้ในกรณีฉุกเฉินจำเป็นจริงๆ และการกู้จาก พ.ร.บ.ยิ่งไม่ควรทำ เพราะอาจขัดต่อหลักกฎหมายหนี้สาธารณะที่มีกติกาชัดเจน ส่วนการออกเป็น พ.ร.ก. ก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ด้วยว่า "ด่วนจริง จำเป็นจริง"

ซึ่งกรณีนี้ รัฐบาลจะออกเป็น พ.ร.บ.กู้มาแจก จึงไม่เคยมีใครทำ และไม่ควรทำได้ พรรคเพื่อไทยรู้ดีเพราะเป็นรัฐบาลที่สอง ที่คิดจะออก พ.ร.บ.กู้เงิน จากกรณีกู้เงิน 2 ล้านล้าน สมัยรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ สุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญก็ตีกฎหมายนี้ตกไป เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญหมวดวินัยการคลัง

เช่นเดียวกับ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ออกมาเทียบกรณี ออก พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้าน ของรัฐบาล นายเศรษฐา กับ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่ศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าผิดกฎหมาย

ว่าเรื่องเป็นเหตุผลรัฐบาลปัจจุบันไม่สามารถอ้างว่าไม่รู้ ว่าเข้าข่ายขัดกฎหมาย เพราะคำวินิจฉัยของศาลปี 2557 ก็เป็นกรณีแบบเดียวกัน อีกทั้งการที่นายกรัฐมนตรีพูดว่าจะชดใช้เงินกู้ให้หมดภายใน 4 ปี แต่ปีแรกก็แสนกว่าล้านบาท ดอกเบี้ยอีกหมื่นล้าน เป็นการใช้คืนหนี้สูงมาก ภาษีที่รัฐบาลจัดเก็บได้ 20% ก็ต้องไปใช้หนี้ ทำให้จัดงบประมาณปี 2568 ได้ยากลำบากแน่นอน

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/EYklmT9DqZg