สะเทือนใจ! ทวดป่วยทางจิต ทำร้าย-ล่ามโซ่หลาน 8 ขวบ อ้างอยากให้ตั้งใจเรียน ไม่ไปเที่ยวเล่น

สะเทือนใจ! ทวดป่วยจิตเวชนานนับ 10 ปี ทำร้าย-ล่ามโซ่หลาน 8 ขวบ จนมีอาการหวาดระแวง พูดจาไม่รู้เรื่อง อ้างอยากให้ตั้งใจเรียน ไม่ออกไปเที่ยวเล่น



จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก 'เป็นหนึ่ง' ได้โพสต์คลิป ทวดล่ามโซ่เด็กพร้อมกับทำร้ายร่างกายตลอดทาง จากนั้นก็ได้มีพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือเด็กให้ออกมาจากทวด ซึ่งทวดจะชอบใช้แรงงานเด็กเพื่อเก็บขวดขาย ส่วนพ่อแม่ของเด็กก็ติดยาเช่นเดียวกัน จึงไม่สามารถเลี้ยงดูเด็กได้ ทำให้เด็กมีอาการหวาดระแวงและพูดจาไม่รู้เรื่อง



วันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณอู่ตั้มโต้นซิ่ง บ้านเลขที่ 77 ตำบลบ้านโต้น อำเภอพระยืน จังหวัดขอนแก่น เพื่อสอบถามรายละเอียดของเหตุการณ์ดังกล่าว โดยวันนี้นายอำเภอพร้อมกับเจ้าหน้าที่พม.ได้ลงพื้นที่เพื่อเข้าช่วยเหลือเด็กหลังคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้นพบว่าผู้ก่อเหตุมีศักดิ์เป็นทวด เนื่องจากทวดของเด็กนั้นเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนเด็กวัย 8 ขวบมีศักดิ์เป็นเหลน ส่วนแม่ของเป็กนั้นติดคุก ส่วนพ่อนั้นแยกทางกับแม่ตั้งแต่ยังเด็ก



ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 408 ม.1 ตำบลบ้านโต้น อำเภอพระยืน จังหวัดขอนแก่น เพื่อพูดคุยกับทวดของเด็ก ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ทวดก็ได้มีปากเสียงกับลูกค้าของอู่ที่ช่วยเหลือเด็กเมื่อช่วงเช้า พร้อมกับไม่ยอมให้เอาหลานไปเพราะหวงหลาน



นายอาดัม ปาทาน อายุ 27 ปี ลูกค้าอู่ซ่อมรถ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงเช้าตนเองเดินทางมาที่อู่ก็เห็นทวดคนดังกล่าวด่าเด็กมาตามทาง จากนั้นก็ได้สังเกตุเห็นที่บริเวณข้อมือเด็กนั้นมีโซ่ล่ามอยู่ จนเดินมาถึงหลังรถกระบะของตน ทวดก็ได้ตีเด็กโดยใช้ทั้งไม้ ทั้งโซ่จนเด็กฉี่แตก ก็ได้เดินเข้าไปช่วยดึงเด็กมาเพื่อตัดโซ่ออก ก็พบว่าแขนของเด็กนั้นช้ำไปหมด จากนั้นทวดก็ได้เดินกลับมา ก็ได้ขู่ว่าจะแจ้งตำรวจจับตนเองก็บอกแจ้งได้เลยตามสบาย จากนั้นก็ได้ด่าทุกคนที่อยู่ตรงนั้นเพื่อที่จะพาหลานออกไป ตนเองจึงได้ถามเด็กว่าอยากไปกับทวดไหม เด็กก็บอกไม่ จึงได้กันตัวเด็กเอาไว้ เมื่อเช้าก็ได้โทรหาตำรวจมาช่วยเหลือ แต่ตำรวจก็ให้คำตอบคือต้องพาเด็กไปตรวจร่างกายก่อนค่อยแจ้งความได้ ตนเองเลยสวนกลับไปว่าต้องให้เด็กตายก็หรือถึงจะช่วยได้



ส่วนนางจูมทอง พรมพา อายุ 69 ปี ทวดเด็กชายวัย 8 ปี เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ถ้าไม่ล่ามไว้ หลานจะวิ่งหนีทันที จะชอบไปเที่ยวเล่น และชอบเล่นคนเดียว ไม่มีเพื่อน โดยยายจะล่ามโซ่ล็อคกุญแจเอาไว้ ทำหลวม ๆ ไว้เพื่อไม่ให้หลานเจ็บ โดยจะใส่ถุงเท้ากั้นไว้ด้วย ซึ่งล่ามหลานมาตั้งแต่ ป.3 เพราะว่าหนีไปเล่นเกมส์อยู่บ้านลูกพี่ลูกน้อง อยากจะให้ตั้งใจเรียน ไม่อยากให้ไปเที่ยวเล่นดึก ๆ ดื่น ๆ ถ้าไม่ไปตามก็จะกลับมาเอง 3-4 ทุ่ม แล้วแอบมานอนกับยาย และจะล่ามเพื่อให้หลานตั้งใจทำงาน เขียนหนังสือให้เสร็จ ไม่ได้ล่ามตลอดเวลา และยายก็เป็นคนสอนการบ้าน สอนงานหลานเองทั้งหมด เพราะพ่อแม่ก็ไม่อยู่ด้วย ยายก็ต้องทำหน้าที่นี้ทั้งหมด ปัญหาที่เกิดขึ้นครูรู้ทั้งหมด แต่ก็ไม่มีใครช่วยแก้ปัญหาเรื่องหลานไม่ตั้งใจเรียนได้ จึงเริ่มล่ามโซ่หลานให้ตั้งใจเรียนเขียนหนังสือ และเพิ่งจะล่ามโซ่ช่วงปิดเทอมนี้เอง และอีกเรื่องถ้าไม่ล่ามก็กลัวจะเกิดอันตรายกับหลานหากไปเที่ยวเล่นลำพัง อีกทั้งยังเคยโดนรถชนจนหน้าพังด้วย



ทวดบอกอีกว่า ตนเองอยู่กับหลานมีอาชีพเก็บของเก่าขาย และที่กล่าวหาว่าติดยาบ้าเลี้ยงหลาน บังคับหลานไปเก็บขวดมาซื้อยาบ้า ขอยกมือสาบานเลยว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จะเอาฉี่ไปตรวจเลยก็ได้ และมีครั้งหนึ่งหลานไปเล่นกับเพื่อน ซึ่งเพื่อนติดยา มีชาวบ้านมาถามว่าทำไมให้หลานไปเล่นไม่รู้เหรอเพื่อนติดยา ก็สงสัย ว่าเด็กอายุแค่นี้จะติดยาได้ยังไง แค่ ป.3 เอง สังเกตดูก็ไม่มีอาการอะไร แต่ก็อยากให้ดูว่าหลานติดจริงไหม แต่ยืนยันว่าทวดและหลานไม่มีใครติดยาเสพติดแน่นอน ในเรื่องหลานทวดนั้น ทวดไม่ให้ใครเอาไปไหนทั้งนั้น ทวดเป็นห่วง นอนไม่หลับ หลานจะต้องนอนกับทวด และทวดป่วยจิตเวชด้วย มันกังวลและกลัวถ้าไม่ได้อยู่กับหลาน



ด้านนางชลิดา พะละมาตย์ ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง เผยกับผู้สื่อข่าวว่า เบื้องต้นได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กขอนแก่นประสานเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งที่เรารับเรื่องมานั้นคือน้องนั้นถูกล่ามโซ่จากทวดซึ่งมีอาการป่วยทางจิต ซึ่งตอนนี้ทางทวดเองก็ต้องได้รับการรักษา ซึ่งเท่าที่ทราบมาคือทวดก็รักษามาเป็น 10 ปี แล้วแต่อาจจะมีอาการเครียดเนื่องจากทวดเลี้ยงเด็กคนเดียว



ซึ่งจากการที่ลงพื้นที่ตรวจสอบก็พบว่าเด็กนั้นมีอาการซูบผอม ตอบคำถามช้าและไม่ตรงคำถาม ซึ่งไม่ใช่อาการที่ปกติซึ่งอาจจะเกิดปัญหาจากสุขภาพจิตแน่นอน อีกทั้งยังมีรอบแผลช้ำจากการล่ามโซ่ แต่ด้วยคำให้การจากทวด คือน้องชอบหนีออกจากบ้าน ซึ่งไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ แต่ด้วยหลักการแล้วก็ไม่ควรจะทำร้ายเด็กแบบนี้ และในวันนี้บ้านพักเด็กก็จะเอาตัวน้องเข้าไปอยู่ในการดูแลของบ้านพักเด็กก่อน เพื่อที่จะพาเด็กไปตรวจร่างกายและตรวจสุขภาพจิต เนื่องจากน้องมีอาการซูบผอม ส่วนเรื่องการเรียน ทางบ้านพักเด็กจะเป็นผู้จัดการให้ ส่วนทวดนั้น จะมีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าไว้คืนนี้ หลังจากเอาหลานไป โดยจะมีการประสานทางโรงพยาบาลไว้ หากทวดเกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นมา หลังรู้ว่าหลานถูกเอาตัวไป