"กิ้งกือมังกรสีชมพู" โผล่อวดโฉม เจอตัวได้แห่งเดียวในโลกที่ป่าดึกดำบรรพ์"หุบป่าตาด"

ที่จังหวัดอุทัยธานี ตั้งแต่ช่วงปลายฝนและเข้าสู่ฤดูหนาวเป็นต้นไป ที่บริเวณหุบป่าตาด บ้านชายเขา หมู่ที่ 3 ตำบลทุ่งนางาม อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งอยู่ภายในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดอุทัยธานี เป็นป่าดึกดำบรรพ์คล้ายยุคในโดเสาร์ และมีสัตว์น้อยใหญ่หลากสายพันธุ์ที่เป็นที่อาศัยอยู่ภายในสถานที่แห่งนี้ โดยเฉพาะ “กิ้งกือมังกรสีชมพู” ที่รออวดโฉมมาตั้งแต่ปลายฝนต้นหนาว เป็นอีกหนึ่งสุดยอดสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นที่ประเทศไทย ณ หุบป่าตาดป่าดึกดำบรรพ์แห่งนี้


ซึ่งมหาวิทยาลัยรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา ประกาศให้ กิ้งกือมังกรสีชมพู เป็นสุดยอดการค้นพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ เป็นอันดับที่ 3 ของโลก ซึ่งถือว่าการค้นพบกิ้งกือมังกรสีชมพู ณ หุบป่าตาดแห่งเดียวในประเทศไทย ได้สร้างชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือให้กับประเทศไทย เนื่องจากแสดงให้เห็นว่าประเทศไทย ยังคงมีทรัพยากรที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์อีกมากมาย และเหตุที่ได้ชื่อว่ากิ้งกือมังกรสีชมพูนั้น เพราะอยู่ในวงศ์กิ้งกือมังกร หรือ พาราดอกโอโซมาติเดีย และมีสีชมพูสดใสแบบช็อกกิงพิงค์


อีกทั้งยังมีลักษณะโดดเด่นด้วยลวดลาย และปุ่มหนาคล้ายกับมังกร และ เมื่อโตเต็มวัย กิ้งกือมังกรสีชมพู จะมีลำตัวยาวประมาณ 7 เซนติเมตรมีปล้องราว 20-40 ปล้อง และสามารถขับสารพิษประเภทไซยาไนด์ เพื่อป้องกันตัวได้อีกด้วย กิ้งกือมังกรสีชมพูจะพบได้ในช่วงปลายฝนต้นหนาว ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน


ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีฝนตกชุกทำให้สภาพป่ามีความชุ่มชื้น เหมาะแก่การขยายพันธุ์ของกิ้งกือมังกรสีชมพูที่มีความสวยงาม และรอที่จะอวดโฉมกับนักท่องเที่ยวที่จะมาท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติ ซึ่งก่อนที่จะเข้าไปภายในหุบป่าตาดป่าดึกดำบรรพ์แห่งนี้ จะมีเจ้าหน้าที่ ภายในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน คอยประจำการในการให้ข้อมูลข่าวสารความรู้ต่างๆ พร้อมกับ เป็นไกด์นำพานักท่องเที่ยวเข้าไปศึกษาธรรมชาติภายในหุบป่าตาด และหากเป็นในช่วงวันหยุด ที่นอกจากจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการแล้วยังมีมัคคุเทศก์น้อยจิตอาสา


ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนในพื้นที่ชุมชนบริเวณโดยรอบ เข้ามาเป็นมัคคุเทศก์น้อยในการให้บริการและให้ข้อมูลตลอดเส้นทางการเดินทางของการชมภายในหุบป่าตาด สำหรับการเดินเที่ยวชมภายในหุบป่าตาดจะมีระยะทางเดินไปกลับอยู่ที่ประมาณ700- 800 เมตร ตลอดเส้นทางเดินนั้นจะมีจุดที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง


โดยจุดแรกที่เดินเข้าไป จะพบกับถ้ำที่มีความมืด หรือที่เรียกว่า อุโมงค์แห่งกาลเวลา ซึ่งมีความยาวประมาณ 50 เมตร ภายในถ้ำจะมีความมืดสนิท เป็นที่อาศัยของค้างคาว


จุดที่ 2 เมื่อเดินทะลุจากถ้ำอุโมงค์แห่งกาลเวลาแล้ว ตลอดระยะเวลาเดินทางภายในหุบป่าตาด จะได้พบกับพืชพันธุ์ไม้หายากนาๆ ชนิด โดยเฉพาะป่าตาดพันธุ์พืชที่อยู่ในยุคดึกดำบรรพ์หรือยุคไดโนเสาร์ ซึ่งเป็นพืชตระกูลเดียวกับปาล์ม เติบโตขึ้นได้อย่างอุดมสมบูรณ์ และจะพบหินงอกหินย้อยทีจะมีความสวยงามอย่างลงตัวภายในหุบป่าตาดแห่งนี้ ซึ่งจะสามารถจินตนาการเป็นรูปต่างๆ นานา นอกจากนี้ภายในหุบป่าตาดยังมีสัตว์ป่าน้อยใหญ่อีกหลายสายพันธุ์ที่มีถิ่นที่อยู่อาศัย หากใครได้เข้าไปท่องเที่ยวและสัมผัสธรรมชาติ ณ หุบป่าตาดจะต้องมนต์ขลังและประทับใจ อย่างไม่รู้ลืม