"สส.ปูอัด" ปาดน้ำตาเปิดใจ ขอน้อมรับมติก้าวไกล ขับพ้นพรรค ยังไม่คิดลาออก สส.

นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ ปูอัด สส.กทม. แถลงข่าว ระบุว่า ได้ทราบมติที่ทางพรรคได้ขับตนเองแล้ว ก็ขอน้อม และยอมรับว่า ตนเองได้ทำให้พรรคเสียหายมากจริงๆ ก็ขอน้อมรับในมติอย่างสุดหัวใจ และขอให้ประชาชน อยากให้ทุกท่านเชื่อมั่นในพรรคก้าวไกล เชื่อมั่นในตัว สส. ที่อยู่ในพรรค และให้เชื่อมั่นว่าในอนาคตได้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นที่ตัวบุคคล ไม่ใช่พรรค เพราะฉะนั้นอย่าถือโทษกับพรรค ขอให้ถือโทษที่ตนเองแต่เพียงผู้เดียว และยังอยากให้ทุกคนที่เชื่อมั่นในพรรคก้าวไกล ผลักดันและด้านหลังพรรคก้าวไกลตลอด  

ส่วนวันนี้ที่ลงพื้นที่เขตจอมทอง เพราะอยากให้เห็นปัญหาว่าประชาชนอย่างมีความเดือดร้อน ซึ่งในจังหวะนี้ นายไชยามพวาน ได้พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ก่อนกล่าวว่า ยังอยากให้ทุกคนเชื่อว่าการสร้างนโยบายสวัสดิการถ้วนหน้า ใครกำลังบันทึกเป็นนโยบายที่พรรคก้าวไกลกำลังดันอยู่ สร้างให้คนทั้งประเทศเท่ากันได้

จากนั้น นายไชยามพวาน ได้หันไปปาดน้ำตา และตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้พรรคก้าวไกล หมดความเชื่อมั่นและศรัทธาจากประชาชน ตนเองขอยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ไม่ใช่ของพรรค เพราะพรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ และยังมีคนเก่งอีกเยอะ ย้ำว่าเรื่องนี้ไปที่ตัวบุคคล ไม่อยากให้ไปล่าแม่มด พรรคก้าวไกลยังคงยืนหยัดทำงานเพื่อทุกคนทั้งในและนอกสภา ยืนยันว่าตนเองไม่ได้อยากออกจากพรรคก้าวไกล แต่อยากให้มองว่าเรื่องนี้เป็นที่ตนเองไม่ใช่พรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดอย่างไรกับสิ่งที่ถูกกระทำ นายไชยามพวาน ตอบว่า รอคำวินิจฉัยของ ป.ป.ช.

จากนั้น นายไชยามพวาน กล่าวด้วย น้ำเสียงสั่นเครืออีกว่า ตนเองเคยพูดไว้ตั้งแต่วันแรกที่ได้เป็น สส. ว่าจะทำงานตั้งแต่วันแรก จนวันสุดท้ายที่เดินออกจากสภา แต่ต้องขอโทษ 47,650 คะแนนทุกคน ที่ทำให้ที่ทำให้หลายคนลำบากใจ รวมถึงพรรคก้าวไกลและสังคม ก่อนหันไปปาดน้ำตาอืกรอบ

ส่วนที่ผู้ช่วยของตนเองออกมาแสดงความเห็นและตัดป้ายโลโก้พรรคก้าวไกล อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ซึ่งพรรคก้าวไกลก็มีความคิดเห็นที่หลากหลาย แต่ท้ายที่สุดแต่ท้ายที่สุดสิ่งที่ผิดก็คือตนเอง ที่ทำใหพรรคเจ็บถึงขนาดนี้ มันเป็นรอยร้าวที่มากมาย แล้วเหมาะสมแล้วที่ตนเองจะถูกพรรคขับออก และขอประชาชนอย่าถือโทษโกรธพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อ นายไชยามพวาน ถอนหายใจ ก่อนบอกว่ายังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ ที่จะต้องแก้ไขก่อน ส่วนการหาพรรคที่จะไปอยู่ ก็ต้องถามประชาชนว่า อยากให้ตนเองยืนในจุดไหน ส่วนจะลาออกหรือไม่ ยังยืนยันว่าไม่ลาออกจากการเป็น สส. จนกว่ากระบวนการสืบสวนในชั้นยุติธรรมจะเสร็จสิ้นลง ถ้าบอกว่าตนเองผิดก็จะลาออก

เมื่อผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่ามีอะไรอยากจะสื่อสารหรือพูดกับเหยื่อผู้เสียหายหรือไม่  นายไชยามพวาน ได้ยืนนิ่งไปช่วงหนึ่ง พร้อมยืนคิด และถอนหายใจ ก่อนกล่าวว่ามันลำบากใจ และกระอักกระอ่วนใจที่จะพูด เพราะอยากให้กระบวนการนี้ ไปสู่การชี้แจง เพราะทราบแล้วว่า ป.ป.ช. ได้รับคำร้องไปตรวจสอบ อีกทั้ง 3 คน ก็เป็นทีมงาน ที่เคยทำงานด้วยกันมา พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีการฟ้องกลับเหยื่อทั้ง 3 คน

นอกจากนี้ นายไชยามพวาน ยังชี้แจง ประเด็นที่ในโซเชียล เอาเรื่องการโค้งต่ำไปล้อ ยืนยันว่า เป็นการแสดงความจริงใจของตนเองที่ทำแบบนี้มานานแล้ว ทุกครั้งที่ลงพื้นที่ก็จะโค้งคำนับ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าทุกคนเท่าเทียมกัน สส.แตะต้องได้ และไม่คิดว่าหลังจากที่ตนเองทำไปแบบนี้ จะกลายเป็นกระแสจนคนเอาไปวิพากษ์วิจารณ์

ผู้สื่อข่าวบอกว่าวันนี้จะโค้งก็ได้นะ นายไชยามพวาน บอกว่าไม่เอาดีกว่า เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นประเด็น นี่ขนาดพูดอยู่ตอนนี้ก็เกือบเผลอลืมตัวโค้งแล้ว