สังคม

บุกห้องเย็นสมุทรสาคร ยึดหมูแช่แข็ง 120 ตัน ลอบนำเข้าจากบราซิล

โดย panwilai_c

2 พ.ย. 2566

190 views

นับจากที่กรมปศุสัตว์ เปิดปฏิบัติการ ตรวจค้นห้องเย็นทั่วประเทศ ตามนโยบายกวาดล้างสินค้าเกษตรเถื่อน ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม เป็นต้นมา ปรากฏว่าพบชิ้นส่วนปศุสัตว์ทั้งโค กระบือ หมู และสัตว์ปีก มากกว่า 1 ล้าน 8 แสนกิโลกรัม ที่อายัดไว้ตรวจสอบ ประเมินราคาที่ห้องเย็นราว 204 ล้านบาท และวันนี้กรมปศุสัตว์ก็ยึดหมูแช่เย็นอีกกว่า 1 แสน 2 หมื่น กิโลกรัม ในห้องเย็นที่สมุทรสาคร เบื้องต้นพบว่านำเข้าจากบราซิล ซึ่งประเทศไทยไม่อนุญาตให้นำเข้าจากประเทศนี้อยู่แล้ว



ห้องเย็นของบริษัทศิริชัยการเกษตรและอุตสาหกรรม จ.สมุทรคร เป็นเป้าหมายที่เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ ร่วมกับฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบเมื่อคืนนี้ และพบว่าเนื้อสัตว์ชำแหละแล้วเก็บอยู่ที่นี่จำนวนมาก



กระทั่งเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังไปตรวจนับอย่างละเอียดพร้อมกับตรวจสอบเอกสารหลักฐานจากห้องเย็น



ชิ้นส่วนหมูชำแหละแล้ว ที่บรรจุในกล่องสีขาว วางซ้อนกันอยู่ในชั้นของห้องเย็น คือผลิตภัณฑ์หลักๆที่พบในห้องเย็นนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ทะยอยแกะออกตรวจสอบก็พบว่าชิ้นส่วนต่างๆของหมู ไม่ว่าจะเป็นเนื้อ /หนัง/เครื่องใน/ ขาหมู หรือส่วนหัว รวมประมาณ 126,600 กิโลกรัม ชิ้นส่วนหมูชำแหล่ะชิ้นที่อยู่ในกล่อง ระบุวันหมดอายุในเดือนหน้า



นอกจากชิ้นส่วนหมูชำแหละแล้ว ยังพบปีกไก่แช่เย็นอีก 420 กิโลกรัม เฉพาะซากสัตว์ที่เก็บไว้ที่นี่หากนำไปขายในท้องตลาดจะมีมูลค่าราว 1 ล้าน 3 แสน บาท



ปศุสัตว์จังหวัดสมุทรสาคร ระบุว่าให้เวลา 15 วัน เพื่อให้เจ้าของห้องเย็นแสดงหลักฐานที่อ้างว่ารับฝากไว้ และผู้ครอบครองที่นำมาฝากก็ต้องมีหลักฐานการนำเข้า หรือเคลื่อนย้าย ตามระเบียบด้วยมาแสดงด้วย



ข่าว 3 มิติตั้งข้อสังเกตว่าแม้จะเปิดโอกาสให้แสดงหลักฐานการได้มา แต่ต้นทางของซากสุกรชำแหละ ระบุชัดเจนว่ามาจากบราซิล ซึ่งบราซิล ไม่ใช่ประเทศที่ไทยอนุญาตให้นำเข้าเนื้อหมูชำแหละ เหมือนกับที่พบหลายตู้จากจำนวน 161 ตู้ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นคดีพิเศษไปแล้ว



นอกจากนี้ การนำเข้าเนื้อสัตว์จากประเทศที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่เพียงฝ่าฝืนการนำเข้าเท่านั้น แต่มีความเสี่ยงเรื่องสุขภาพ เนื่องจากหมูอาจมีสารเร่งเนื้อแดง หรือใช้สารต้องห้ามในระหว่างการเลี้ยงที่ประเทศต้นทาง เมื่อลักลอบนำเข้าก็ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยเช่นกัน



ข้อมูลกรมปศุสัตว์ รายงานคืบหน้าการตรวสอบห้องเย็นทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 12

ตุลาคม เป็นต้นมาถึง 1 พฤศจิกายน นับจากที่เริ่มตรวจสอบที่จังหวัดนครปฐม สระแก้ว เพชรบูรณ์ สมุทรปราการ เรื่อยมาถึง ในกรุงเทพฯ และล่าสุดคือสมุทรสาคร

ซึ่งความคืบหน้าการตรวจสอบพบว่าบางบางรายถูกเปรียบเทียบปรับไปแล้ว แต่ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า หรือเคลื่อนย้าย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่กำกับดูแลกรมปศุสัตว์ยอมรับว่า อาจมีบางส่วนเกี่ยวข้องกับบุคลากรภาครัฐด้วย ซึ่งต้องใช้เวลาตรวสอบ



ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม เป็นต้นมา ถึง 1 พฤศจิกายน กรมปศุสัตว์เปิดปฏิบัติการตรวจค้นห้องเย็นทั่วประเทศ 1770 แห่ง และมีสินค้าปศุสัตว์ที่บังคับใช้กฎหมาย หรืออายัดไว้ตรวจสอบ 62 ครั้ง จำนวนรวม 1,828,335 กิโลกรัม แยกเป็นซากโคกระบือ ราว 2 แสน 8 หมื่นกิโลกรัม ซากหมู ราว 3 แสน 6 หมูกิโลกรัม และซากสัตว์ปีก กว่า 1 ล้าน 1 แสนกิโลกรัม มูลค่ารวมประมาณ 204,758,863 บาท จำนวนกว่า 204 ล้านดังกล่าว คำนวณมูลค่า ขณะเก้บในห้องเย็น หากออกสู่ตลาดจะขายได้มากกว่านั้น แต่เนื่องจากเป็นสินค้านำเข้าผิดกฎหมาย จำนวนดังกล่าวก็เท่ากับความเสียหายทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเกษตรกรในประเทศที่ควรจะเป็นผู้ได้ประโยชน์ แต่จะตกไปอยู่ในมือกลุ่มคนที่นำเข้าสินค้าเผิดกฎหมายแทน

คุณอาจสนใจ

Related News