ศาลจังหวัดมุกดาหาร เลื่อนอ่านคำพิพากษา ลุงพล-ป้าแต๋น "คดีน้องชมพู่" เหตุอยู่ระหว่างตรวจร่างคำพิพากษา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร นัดฟังคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล และ นางสาวสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น สองสามีภรรยา เป็นจำเลยที่ 1-2 กรณีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ในวันพรุ่งนี้ 31 ตุลาคม เวลา 10 นาฬิกา



ล่าสุดศาลจังหวัดมุกดาหาร ได้แจ้งกับสื่อมวลชนขอเรียกคืนบัตรขออนุญาตมาทำข่าวคืน เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจร่างคำพิพากษา จึงขอให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไป แต่เจ้าหน้าที่ศาลระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ทั้งโจทก์ และจำเลย ยังจะต้องเดินทางมาที่ศาลตามเดิม เวลา 10.00 น. เพื่อฟังว่าศาลจะเลื่อนอ่านคำพิพากษาไปเป็นวันที่เท่าไหร่



คดีนี้ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 น้องชมพู่ ชาวบ้านกกกอก จังหวัดมุกดาหาร หายตัวไปจากบ้านอย่างปริศนา ซึ่งขณะที่เกิดเหตุ น้องชมพู่ อยู่บ้านกับสะดิ้ง พี่สาวอายุ 13 ปี ซึ่งสะดิ้ง อ้างว่า ตัวเองเผลหลับไป 10 นาที ซึ่งตอนนั้นชมพู่ ดูคลิปในแอปฯ TikTok อยู่



ในตอนนั้น ชาวบ้านกกกอกและเจ้าหน้ากว่า 200 ชีวิต ระดมกันออกตามหาทั้งวันทั้งคืน กระทั่งไวันที่ 14 พฤษภาคม ถึงพบศพในภาพเปลือยกอยในป่าภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านประมาณ 3-4 กิโลเมตร ซึ่งทุกคนไม่เชื่อว่าน้องจะเดินขึ้นเขาเองได้



ขณะที่ผลชันสูตรศพอย่างละเอียด ระบุว่า ไม่พบร่องรอยข่มขืน, ฆาตกรรม และทำร้ายร่างกาย กระเพาะไม่มีอาหารหลงเหลืออยู่ มีเพียงของเหลวเหลืออยู่ 10 มิลลิลิตร ขณะที่ สมอง และปิดไม่พบความผิดปกติที่เกิดจากการถูกทำร้าย กะโหลกศีรษะไม่พบการแตกร้าว คอไม่หัก ไม่มีรอยฟกช้ำ สาเหตุที่น้องชมพู่เสียชีวิตคือ ขาดอาหารและน้ำ จนเสียชีวิต



ซึ่งเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นไว้ 2 แนวทาง คือ 1. มีคนพาน้องชมพู่ มาปล่อยไว้กลางป่า ก่อนจะเสียชีวิตด้วยการขาดอาหารและน้ำ 2. น้องวิ่งเล่นพร้อมด้วยสุนัขตัวโปรด ชื่อปลาส้ม เข้ามาในป่าเอง ก่อนจะพลัดหลง แล้วสุดท้ายเสียชีวิตเองโดยไม่มีใครทำร้าย



อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังขาว่า เด็กวัยเพียง 3 ขวบ จะวิ่งขึ้นเขาที่อยู่ห่างจากบ้าน 3-4 กิโลเมตร โดยไม่มีใครพบเห็นได้อย่างไร ทำให้ในช่วงนั้นตำรวจต้องสอบปากคำชาวบ้านหลายหมู่บ้าน หลายร้อยกว่าปาก แต่ก็ปรากฎว่าไม่มีใครเกี่ยวข้องกับช่วงเวลาที่น้องชมพู่ หายไปเลย



ต่อมามีรายงานว่า ตำรวจค้นพบเส้นขนจำนวน 3 เส้น อยู่ในจุดที่เกิดเหตุ โดยหลังจากตรวจดีเอ็นเอแล้ว สามารถชี้ชัดได้ว่าใครที่อยู่ใกล้ชิดกับน้องชมพู่ในวันนั้น



ต่อมา 1 มิถุนายน 2564 ตำรวจออกหมายจับ ลุงพล มีความเกี่ยวพันกับคดีนี้จริง โดยแจ้ง 3 ข้อหา ได้แก่ พรากเด้กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจาเหตุอันควร /ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย /และกระทำการใดๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ./