เลือกตั้งและการเมือง

'ศิริกัญญา' ปัดดิสเครดิต 'แจกเงินดิจิทัล' แนะปรับวิธี ด้านโฆษกรบ.ย้ำรับฟังทุกคำติ

โดย panwilai_c

28 ต.ค. 2566

47 views

เรื่องการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท กลายเป็นเป้าใหญ่ที่ถูกวิจารณ์จากสังคม และฝ่ายค้าน โดยคุณศิริกัญญา ตันสกุล 1 ในคนที่ออกมาพูดถึงเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าไม่มีเจตนาดิสเครดิต เพียงแค่อยากให้รัฐบาลพูดความจริงกับประชาชน ก็แนะนำให้ปรับวิธีการ อย่ามุ่งแต่การแจกเงิน



คุณศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล พูดถึงกรณีคุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ขอพรรคก้าวไกลอย่าดิสเครดิตโครงการเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ก็ย้ำถึงเจตนาที่ออกมาพูดเรื่องนี้ เพื่อต้องการให้รัฐบาลนำข้อมูลข้อเท็จจริงมาชี้แจงประชาชน พร้อมขออภัย หากถูกมองเป็นการด้อยค่า ดิสเครดิต



ก็แนะนำว่า "ถ้าปรับเปลี่ยนวิธีการและเกิดผลลัพธ์แบบเดียวกัน เชื่อว่าประชาชนจะสามารถรับฟังได้ อย่ายึดติดว่าต้องแจกเงินอย่างเดียว เพราะอาจทำให้สูญเสียเป้าหมายใหญ่"



ด้าน คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ และรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นกรณี 3 ทางเลือกของกระทรวงการคลัง พิจารณากลุ่มเป้าหมายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ก็บอกว่า ปัญหาทั้งหมดเกิดจากการหาเสียงแบบประชานิยม ทำได้หรือไม่ได้ค่อยไปตายเอาดาบหน้า มาถึงวันนี้จึงมีสภาพเหมือนลิงแก้แห



เพราะนอกจากจะมีปัญหา 2 ข้อเดิมที่ต้องแก้แล้ว คือ "จะทำอย่างไร" และ "จะเอาเงินมาจากไหน" ยังมีปัญหา 2 ข้อใหม่เพิ่มเข้ามาอีก คือ "จะทำได้เมื่อไหร่" และ "จะเปลี่ยนเป้าหมายจากกระตุ้นเศรษฐกิจ มาเป็นสงเคราะห์คนจนหรือไม่" ซึ่งทุกข้อยังไม่มีคำตอบ



ขณะที่ คุณชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พูดถึงกรณีคณะอนุกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต เสนอ 3 แนวทางเลือกในการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท จากทางเลือกเดิมที่กำหนดให้แจกแบบถ้วนหน้าทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ว่ายังต้องรอข้อสรุปจากคณะกรรมการชุดใหญ่ ว่าจะเห็นด้วยกับทางเลือกข้อใดข้อหนึ่งหรือไม่ หรืออาจจะยืนยันทางเลือกเดิม คือ การแจกแบบถ้วนหน้า



ทั้งนี้ย้ำว่ารัฐบาล พร้อมรับฟังเสียงวิจารณ์จากผู้เห็นต่าง พร้อมพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ อย่างรอบคอบ



พูดถึงกรณีโครงการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ยังมีความเห็นจาก คุณเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ระบุว่า ธปท.ประเมินเศรษฐกิจไทย หรือ GDP ปี 2567 ขยายตัว 4.4% ซึ่งได้รวมผลจากมาตรการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตไปแล้ว และต้องรอ ความชัดเจนจากภาครัฐว่าจะกำหนดกลุ่มเป้าหมายการแจกเงินอย่างไร หากลดกลุ่มเป้าหมายและเม็ดเงินที่แจกน้อยลง ไม่ถึง 5.6 แสนล้านบาท ก็ต้องปรับลดประมาณการ GDP ปีหน้าลง



ส่วน GDP ปีนี้ น่าจะใกล้เคียงกับที่แบงก์ชาติคาดว่าจะโต 2.8% แม้ในภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้แต่อย่าชะล่าใจกับเสถียรภาพของเศรษฐกิจ กับความเสี่ยงจากสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ที่อยู่ในระดับสูง 90.7% , สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 61.7%



https://youtu.be/pkwTBBz_4S4

คุณอาจสนใจ

Related News