บุกช่วย! ลูก 1 ขวบ ถูกพ่อแท้ๆ บีบคอ-เท้าเหยียบ ถ่ายคลิปส่งประชดเมีย ขู่ให้กลับไปคืนดี

กัน จอมพลัง ขอกำลังตำรวจ สน.หัวหมาก และ เจ้าหน้าที่ พม. รีบเข้าช่วยเหลือเด็กอายุ 1 ขวบโดยด่วน หลังแม่แท้ ๆ แจ้งขอความช่วยเหลือ ว่าลูกชายวัย 1 ขวบของตนเองถูกพ่อแท้ๆ ทำร้ายร่างกายปางตายพร้อมถ่ายคลิปส่งมาขู่เมียให้กลับไปคืนดีด้วย

คลิปเหตุการณ์ขณะที่พ่อทำร้ายลูกชายแท้ๆวัยหนึ่งขวบ ถูกทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง จนเด็กเกือบขาดอากาศหายใจ ร้องไห้ไม่หยุด พร้อมถ่ายคลิปส่งให้เมียตัวเองดูเพื่อกดดันขอคืนดี ขณะเดียวกันในเฟสบุ๊คของพ่อกลับทำตัวเป็นคนดี ดูแลลูก รักลูก

โดยเรื่องนี้ มีคุณแม่รายหนึ่งร้องเรียนมายัง คุณกัน จอมพลัง และวันนี้คุณกัน เป็นตัวแทนของแม่เด็กวัย 30 ปี เดินทางเข้าพบ พันตำรวจโท ณรงค์ แป้นปลื้ม รองผู้กำกับการ สน.หัวหมาก เพื่อให้ความช่วยเหลือเด็ก 1 ขวบ ซึ่งการเข้าไปช่วยเหลือครั้งนี้ ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากพ่อของเด็กมีอาวุธด้วย ส่วนแม่ของเด็กตอนนี้อยู่ต่างจังหวัดไม่กล้ามาเพราะยังอยู่ในความหวาดกลัว

โดยกัน จอมพลัง บอกว่า พ่อเด็กมีพฤติกรรมจะชอบถ่ายคลิปเวลาทำร้ายร่างกายเด็ก อย่างรุนแรง ตนเองเห็นคลิปแล้วรู้สึกโกรธเป็นอย่างมากต้องช่วยเหลือให้ได้โดยเร็ว ตนอยากรู้ว่าเพราะเหตุใด สิ่งที่ทำไปนั้นต้องการเพียงให้แม่กลับมาคืนดีด้วย มิหนำซ้ำในเฟซบุ๊กของพ่อเด็ก ยังลงรูปลงคลิป เหมือนรักเด็ก รักลูกเป็นอย่างมาก เหมือนทำให้เห็นว่าเป็นคนดี

แต่ในทางกลับกัน พ่อเด็กเองนั้นมักจะชอบส่งคลิปวิดีโอทำร้ายร่างกายเด็ก ให้กับแม่เด็กดูในลักษณะเชิงข่มขู่ เพื่อต้องการให้แม่เด็กกลับมาคืนดีด้วย

หลังจากที่ตนเห็นคลิป ตนจึงได้ประสานหัวหน้าบ้านพักเด็ก พม. และ ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก เพื่อช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก ประมาณ 10 นายพร้อมเจ้าหน้าที่ พม. กัน จอมพลัง และ สื่อฯ บุกไปที่แคมป์คนงานย่านถนนศรีนครินทร์ ซึ่งพ่อของเด็กเป็นหัวหน้าคนงานก่อสร้างอยู่ที่แคมป์คนงานแห่งนี้ โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปถึงได้พูดคุยกับทางผู้ดูแลไซด์งานเพื่อขอพบตัวพ่อเด็กและเด็กวัย 1 ขวบ

ซึ่งทางผู้ดูแลไซต์งาน บอกว่าตัวพ่อเด็กไม่อยู่แล้วมีการล็อคห้องโดยแจ้งเจ้าของไซต์งานว่าจะพาลูกไปหาหมอ แต่จากการตรวจสอบพบว่าพ่อไม่ได้พาเด็กออกจากไซต์งานตามประตูเข้า-ออกปกติ คาดว่าน่าจะปีนออกจากห้องพัก ไปทางป่าหญ้าด้านหลัง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตามหาตัวพ่อและเด็ก โดยต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากพ่อของเด็กมีอาวุธปืนติดตัวด้วย

ต่อมาเวลา 11.40 น. ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ลงตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้ง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที พบว่าพ่อของเด็กไม่ได้หนีออกทางกำแพงด้านหลังแคมป์คนงาน แต่นำลูกชายไปหลบซ่อนอยู่ในห้องของคนงานคนอื่น เจ้าหน้าที่ พม.ตำรวจจึงแยกตัวเด็กออกมาเพื่อความปลอดภัย จากนั้นตำรวจได้เชิญตัวพ่อของเด็กไปสอบปากคำเพิ่มเติม

ทั้งนี้ พ่อของเด็กคือ นายวิชิต (สงวนนามสกุล) ระหว่างที่ตำรวจนำตัวนายวิชิตออกมา ผู้สื่อข่าวได้พยายามถามนายวิชิตว่าทำไมถึงทำรุนแรงกับเด็ก นายวิชิตบอกว่าตนไม่ได้ทำร้ายเด็กและไม่ได้ลงมือรุนแรง ภาพที่เห็นเป็นเพียงแค่การแสดงเท่านั้น ที่ทำไปเพราะต้องการประชดอดีตภรรยา อยากให้กลับมาอยู่ด้วยกัน มานั่งคุยกัน ซึ่งยอมรับว่าตนกับภรรยามีปัญหาระหองระแหงกันมาตลอด และทุกครั้งที่มีปัญหาอดีตภรรยาก็จะอุ้มลูกหนีไป ตนก็ไปตามกลับมาทุกครั้ง จึงอยากถามกลับว่าตนเองทำอะไรผิด ทั้งที่ตัวเองเป็นคนหาเงินและเลี้ยงดูทุกอย่างและให้ทุกอย่าง