สังคม

ทูตอิสราเอลร่ำไห้ วางพวงหรีด ร่วมรับศพ 8 แรงงานไทยกลับบ้าน

โดย panwilai_c

20 ต.ค. 2566

96 views

เจ้าหน้าที่ทางการไทยและทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ทำพิธีไว้อาลัยขณะรับร่างแรงงานไทย 8 ราย ที่เสียชีวิตที่อิสราเอล ซึ่งมาถึงไทยเมื่อช่วงสายวันนี้ โดยเสร็จพิธีได้เคลื่อนย้ายร่างทั้ง 8 ไปทำพิธีทางศาสนาตามภูมิลำเนา



นี่เป็นวินาทีที่ นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย ถึงกับปาดน้ำตา ขณะทำพิธีรับร่าง 8 แรงงานไทย ที่เสียชีวิตจากหตุกาณ์กลุ่มฮามาส บุกโจมตี ที่อิสราเอล



โดยร่างของแรงงานไทย ได้มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงประมาณ เมื่อเวลาประมาณ 9.30 นาที โดยสายการบิน อิสราเอล แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ LY 083



โดยแรงงานไทยทั้ง 8 คนประกอบด้วย

1. นายพงษธร ขุนศรี ชาวจังหวัดนครราชสีมา

2. นายพิชิต นาจันทร์ ชาวจังหวัดขอนแก่น

3. นายชัยรัตน์ สานุสันต์ ชาวจังหวัดอุดรธานี

4. นายอานันต์ เพชรแก้ว ชาวจังหวัดชัยภูมิ

5. นายพงษ์พัฒน์ สุชาติ ชาวจังหวัดศรีสะเกษ

6. นายอนุชา โสภากุล ชาวจังหวัดอุดรธานี

7. นายพงษ์เทพ กุสะรัมย์ ชาวจังหวัดขอนแก่น

8. นายธนกฤจฒ์ ปรากฎวงษ์ ชาวจังหวัดสุโขทัย



ซึ่งในพิธีไว้อาลัย นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นตัวแทนทางการไทยในการทำพิธี



โดยหลังจากวางพวงหรีดแล้ว ได้ยืนสงบนิ่งเพื่อเป็นการไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตประมาณ 1 นาที สำหรับร่างของแรงงานไทย ถูกบรรจุในกล่องไม้ และมีกล่องกระดาษคลุมอีกชั้น มีรายชื่อผู้เสียชีวิตแปะอยู่ที่หน้ากล่อง ส่วนผู้ที่จะเปิดกล่องไม้ จะเป็นญาติและครอบครัวของผุ้เสียชีวิต ที่นำศพกลับไปทำพิธีทางศาสนาที่ภูมิลำเนา



ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญ นางสาววงเดือน ล้ำเลิศ น้าของนายอานันต์ เพชรแก้ว หนึ่งในแรงงานไทยที่เสียชีวิต เป็นตัวแทนแม่และภรรยามารับศพ เข้าร่วมพิธีด้วย



โดยพิธีการใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นจึงได้นำร่างแรงงานไทยทั้ง 8 ขั้นรถ ในเวลาประมาณ 11.15 นาที และได้เคลื่อนออกจากอาคารคลังสินค้า ทางช่องทางที่ 4 ของสถานีตรวจสอบสินค้า เพื่อไปยังภูมิลำเนา



นางสาววงเดือน เปิดเผยว่าหลานของตนคือนายอานันต์ ได้ไปทำงานอยู่ที่ฟาร์มเลี้ยงวัวในประเทศอิสราเอลได้ 2 ปี 5 เดือน โดยแคมป์งานที่หลานอยู่เป็นแคมป์แรกๆ ที่ถูกกลุ่มฮามาสบุกยิง



ตนได้คุยโทรศัพท์กับภรรยาของหลานครั้งสุดท้ายคือวันที่ 7 ตุลาคม แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อหลานได้อีก ซึ่งตนได้พยายามเข้าไปหาเฟซบุ๊กของเพื่อนหลาน จนเห็นว่ามีภาพหลานกำลังนั่งกินข้าวอยู่กับเพื่อนภายในแคมป์คนงาน ซึ่งก็ยังดูปกติ หลังจากนั้นผ่านไป 8 ชั่วโมงปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อหลานชายได้



ญาติจึงพยามหาเฟซบุ๊กของเพื่อนหลานอีก เป็นเวลานานกว่า 10 วันแต่ก็ไม่มีเบาะแสอะไร จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาบอกว่าหลานของตนเสียชีวิต ส่วนแม่ของหลานเมื่อรู้ข่าวก็ถึงกับเป็นลม



ทั้งนี้หลานของตนเป็นคนขยัน ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ มีลูกสาวอายุ 12 ปี จำนวน 1 คน โดยก่อนหน้านี้หลานเปิดโรงกลึงอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ แต่ต้องปิดโรงงานเพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจในช่วงโควิด และไปทำงานที่อิสราเอล เพื่อต้องการหาเงินมาใช้หนี้



นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงานบอกว่า หลังจากนำร่างแรงงานไทยส่งไปถึงที่ภูมิลำเนา กระทรวงแรงงาน จะนำเงินช่วยเหลือไปมอบให้ฐาติ 40,000 บาท



ซึ่งญาติจะต้องเตรียมเอกสารต่างๆ เพื่อยื่นต่อทางการของประเทศอิสราเอล เพราะประเทศอิสราเอลจะมีเงินจากกองทุน ที่จะให้ภรรยาผู้เสียชีวิต โดยจะได้รับเงินเดือนละ 40,000 บาท ต่อเดือน จนกว่าจะมีครอบครัวใหม่ และลูกของผู้เสียชีวิตจะได้เงิน 8,000-12,000 บาทต่อเดือนจนอายุ 18 ปี



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/VT2bHQbj5Lo

คุณอาจสนใจ