เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 20 ต.ค.66 สอบหมออ๋องปมหมูกระทะ-ไว้อาลัย 8 แรงงานไทย-ตายายถูกลูกวางยาฮุบสมบัติ

1.รวบเพิ่มอีก 3 แก๊งหลอกนักเรียน ม.6 ผ่อนโทรศัพท์มือถือ-ฝากขังดอกแก้ว

2.เหยื่อมิจฉาชีพหลอกผ่อนมือถือโผล่เพียบ พบใช้กลโกงแบบเดียวกัน

3.สุดรันทด สองตายาย ร้องถูกลูกวางยา ฮุบสมบัติกว่า 300 ล้าน

4.ผลชันสูตรเด็กชายวัย 2 เดือน พบเสียชีวิตจากกะโหลกร้าว

5.กต.เผยแพร่ภาพพิธีไว้อาลัย 8 แรงงานไทยที่เสียชีวิตในอิสราเอล



เรื่องเล่าการเมือง

-หมออ๋อง เผยองค์กรอิสระ เรียกสอบผู้เกี่ยวข้อง เลี้ยงหมูกระทะแม่บ้านสภา

เป็นเรื่องร้อนขึ้นมาอีกแล้ว กรณี หมออ๋อง เลี้ยงหมูกระทะแม่บ้านสภา ล่าสุดเจ้าตัวเปิดเผยว่า องค์กรอิสระได้เรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเจ้าตัวมองว่ามีพิรุธ บอกไม่กังวล แต่ประเทศไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้

เมื่อวาน หมออ๋อง-นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 ได้โพสต์ข้อความผ่าน x (หรือทวิตเตอร์) เปิดประเด็นเรื่องนี้ โดยบอกว่า "มีการเรียกสอบบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงหมูกระทะแม่บ้านสภาของผมอยู่ครับ แค่อยากบอกว่า ผมพร้อมให้ความร่วมมือในการให้ปากคำทุกประการครับ"

ทีมข่าวการเมืองของเราได้โทรศัพท์ไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หมออ๋อง เปิดเผยว่า มีหนังสือลับจาก "องค์กรอิสระ" ซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่าหน่วยงานไหน เพราะเป็นเอกสารลับ เรียกเจ้าหน้าที่สภา และเจ้าหน้าที่การคลัง และทราบว่ามีการตรวจสอบไปที่เจ้าของร้านหมูกระทะที่จัดเลี้ยงแม่บ้านด้วย ซึ่งมองว่าเป็นการตั้งใจสอบแบบเอาจริงเอาจังเกินไปหรือเปล่า

หมออ๋อง ยืนยันว่า ไม่กังวลกับการที่ถูกตรวจสอบในเรื่องนี้ แต่ก็บอกว่า "ประเทศไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้" และมองว่ามีพิรุธ เพราะทำไมไม่คุยกับตนตรง ๆ ที่สำคัญตนก็ไม่ได้เบิกเงินออกมาด้วย แต่จ่ายเงินตัวเอง เพราะสำรองไปก่อน และเมื่อเกิดเรื่องเจ้าหน้าที่กังวลว่าอาจจะถูกเอาผิดได้ จึงไม่ได้เบิกเงินออกมา

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้นายศรีสุวรรณ จรรยา เคยไปร้องต่อ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบกรณีนายปดิพัทธ์ นำเงินค่ารับรองในตำแหน่งไปจัดเลี้ยงหมูกระทะให้แม่บ้านสภา ว่าเป็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ ซึ่งหาก ป.ป.ช.ชี้ว่าผิด และส่งให้ศาลฎีกา และศาลฯเห็นว่าผิด โทษสำคัญคือ ถูกตัดสิทธิห้ามสมัคร สส. และห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต



-เศรษฐา โชว์ปึ้กนายกฯจีน ให้เบอร์ตรง - รับปากเคลียร์ปมเรือดำน้ำ

ส่วนนายกฯ เศรษฐา ตอนนี้ท่านเดินทางไปภารกิจที่ซาอุดิอาระเบีย เป็นการเดินทางต่อจากที่ท่านไปจีน ซึ่งเมื่อวานท่าน นายกฯ ก็ได้โชว์ความเหนียวแน่นกับทางการจีน ว่า นายกฯ จีน ได้ให้เบอร์โทรสายตรงกับท่าน และเรื่องเรือดำน้ำที่ติดปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ นายกฯจีนรับปากจะแก้ไขให้

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือทวิภาคีกับนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงเย็นวันพุธที่ผ่านมา ว่า นายกฯจีนให้ความสำคัญกับไทยอย่างมาก รู้สึกถึงความผูกพันที่ดีมาก ๆ และนายกฯจีน ได้ให้เบอร์มือถือไว้ หากมีอะไรก็สามารถโทรพูดคุยได้ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี โดยสองประเทศต้องพึ่งพากัน โดยเราต้องพึ่งจีนในฐานะที่เป็นพี่ใหญ่

นอกจากนี้ในงานเลี้ยงอาหารค่ำ ในการแสดงดนตรีร้องเพลงไทย คือ เพลงลอยกระทง ซึ่งมีการฝึกกันนานมาก แสดงให้เห็นว่าจีนให้ความสำคัญกับเรา ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยดีมาก

นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยถึงการหารือกับนายกฯ จีน ถึงการแก้ปัญหาการจัดซื้อเรือดำน้ำ ที่ยังติดปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ว่า ทั้งสองฝ่ายจะมีการแก้ปัญหาอย่างบูรณาการ ซึ่งนายกฯ จีนรับปากว่าจะไปช่วยดูให้

และช่วงเย็นเมื่อวาน นายเศรษฐา ได้หารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ก่อนที่ช่วงค่ำจะเดินทางต่อไปยังซาอุดิอาระเบีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ



-ไม่ได้คำตอบ! กมธ. เรียก คลัง- ธปท. แจงที่มาเงินดิจิทัล 1หมื่นบาท

ยังคงถูกทวงถามถึงความชัดเจน อย่างต่อเนื่อง สำหรับนโยบาย เงินดิจิทัล 10,000 บาท ล่าสุดคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลแล้ว

การประชุมคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร เมื่องานนี้ ที่ประชุมเชิญกระทรวงการคลัง / ธนาคารแห่งประเทศไทย / ป.ป.ช. มาให้ข้อมูลต่อนโยบายดังกล่าว ตามที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการฯ เป็นผู้เสนอ

นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ กล่าวว่า ขณะนี้ยังรอความชัดเจนของนโนบาย เนื่องจากกระทรวงการคลังที่มาให้ข้อมูลวันนี้ ยังไม่สามารถให้รายละเอียดที่ชัดเจนได้

ซึ่งคณะกรรมาธิการต้องการพิจารณาข้อมูลให้รอบด้าน ทั้งข้อทักท้วงและข้อเสนอแนะ เพื่อให้รัฐบาลนำไปออกแบบนโยบายให้ชัดเจนที่สุด และคำนึงถึงผลกระทบอย่างรอบด้าน ทั้งข้อดีข้อเสีย แหล่งที่มาของงบประมาณ เพราะผู้ที่มาชี้แจงวันนี้บอกแต่เพียงว่า กรอบงบประมาณที่จะใช้ จะคำนึงถึงวินัยการเงินการคลัง

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ย้ำว่า นโยบายนี้เป็นเรื่องที่หลายฝ่ายตั้งคำถาม เมื่อทำแล้วรัฐบาลต้องมีความรับผิดชอบ ถ้าเกิดความเสียหายขึ้นกับประเทศและส่วนรวม โดยส่วนตัวจะตั้งคำถามแทนประชาชนอย่างน้อย 2 เรื่อง คือ รัฐบาลจะดำเนินนโยบายเงินดิจิทัลอย่างไร จะเอาเงินจากไหน และจะทำอย่างไร โดยไม่กู้ เป็นคำถามที่เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศอยากได้คำตอบ แต่จนวันนี้ยังไม่มีคำตอบจากรัฐบาล

ส่วน น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา เมื่อวานนี้ก็ไปที่ สำนักงาน กกต. ยื่นหนังสือถึงประธาน กกต. เพื่อขอให้ กกต. ดำเนินการศึกษาเกี่ยวกับโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาทของรัฐบาล ว่าเป็นนโยบายที่อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านงบประมาณและวินัยการเงินการคลัง หรือไม่ และหากพบว่าผิด กกต. / ป.ป.ช. และ สตง. ควรเสนอให้รัฐบาลล้มเลิกโครงการนี้ด้วย


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/d8jzcIV3DdA