เปิดใจพี่แจ๋มฮีโรช่วยแรงงานไทยพ้นอิสราเอล 32 ชีวิต ลั่นเกิดและตายชาติเดียวขอทำเพื่อช่วยคนไทย

เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 66 เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ท่าอากาศยานนานาชาติขอนแก่น นางแจ๋ม หรือ วิภาวดี วรรณชัย อายุ 40 ปี ชาวบ้านหนองแวง ต.กุดดู่ อ.โนนสังข์ จ.หนองบัวลำภู ผู้ที่ได้กลายเป็นฮีโรของแรงงานไทย หลังจากไลฟ์สดขณะเข้าไปช่วยเหลือแรงงานไทยที่ประเทศอิสราเอล ในช่วงเกิดเหตุการณ์รุนแรง ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว

พี่แจ๋ม เปิดเผยว่า ตนแต่งงานกับสามีชาวอิสราเอล ซึ่งมีอาชีพเป็นทนายความ และเปิดสำนักงานทนายความ เพื่อรับปรึกษา และว่าความในอิสราเอล รวมทั้งรับเรื่องร้องเรียนจากแรงงานไทยในอิสราเอล มากว่า 15 ปีแล้ว มีบุตรด้วยกัน 3 คน แต่ปัจจุบันตนได้เลิกกับสามีแล้ว และในช่วงเกิดเหตุรุนแรง ตนได้ไปอาศัยอยู่กับแม่น้อง คนไทยอีกคน ที่ร่วมกันตระเวนช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล

ในช่วงเกิดเหตุรุนแรงที่กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลนั้น มีแรงงานไทยที่เคยติดต่อกับสำนักงานทนายความ โทรศัพท์เข้ามาหา แชตข้อความขอความช่วยเหลือ จึงจับมือคุยกับแม่น้อง ว่า เกิดมาชาติเดียว ตายครั้งเดียว เราจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยคนไทย จากนั้นก็พากันขับรถออกไปพบกับแรงงานที่ขอความช่วยเหลือมา แรงงานบางคน แคมป์ที่พักถูกเผาไม่เหลือเอกสารสำคัญติดตัว เมื่อเกิดเหตุรุนแรง ได้รับบาดเจ็บ ต้องการกลับบ้าน ก็ต้องดำเนินการจัดการติดต่อกับทุกฝ่าย เพื่อให้คนไทยได้กลับบ้าน โดยเฉพาะโอโน่กับชาตรี แรงงานไทยที่ถูกยิง ไม่มีเอกสารติดตัว แต่ลงทะเบียนเดินทางกลับประเทศไทย ในขณะเดียวกันก็มีแรงงานไทยที่ทราบเรื่อง เดินทางมาหาที่สนามบิน จึงได้ติดต่อกับทุกฝ่ายจนทุกคนได้พาสปอร์ตขาว จากนั้นก็เดินทางกลับมาที่ประเทศไทยได้พร้อมกันทุกคน

ทั้งนี้ การช่วยเหลือแรงงานไทย ที่ร้องขอความช่วยเหลือมานั้น ไม่ง่ายเลย เพราะอันตรายทุกจุด บางจุดทหารก็ไม่ให้เข้า แต่จำเป็นต้องเข้าไปเพื่อช่วยเหลือคนไทยออกมา ทหารก็เข้าใจ และรักษาความปลอดภัยให้ จนช่วยเหลือแรรงานไทยได้ ทุกครั้งที่เดินทางเข้าไปช่วยเหลือแรงงานไทยนั้น ไม่มีเครื่องลางของขลังหรือสิ่งศักดิ์ใด มีเพียงบอกกล่าวพระเจ้าให้เปิดทาง คุ้มครองให้ทุกอย่างที่ตั้งใจทำ ราบรื่นและปลอดภัย

“พี่ขอให้คนไทยที่ทำงานในอิสราเอล มีสติ และมีความปลอดภัย เชื่อฟังเจ้าหน้าที่ อย่าออกนอกพื้นที่ เพราะหากเกิดเหตุร้ายไม่มีใครช่วยเหลือเราได้ ยอมรับว่าทุกคนลำบาก แต่ถ้ามีสติ ตั้งใจ ทุกอย่างก็จะผ่านไปได้ ส่วนสถานการณ์ในอิสราเอลนั้น ทุกวันนี้ยังไม่มีความคลี่คลายลงเลย ขอให้ทุกคนระวัง รักษาตัวเองให้ดี และดีใจกับคนไทยที่ปลอดภัยและได้กลับบ้าน แต่ก็เสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกรายด้วยค่ะ” พี่แจ๋ม กล่าวให้ฟัง

อย่างไรก็ตาม พี่แจ๋ม ยังกล่าวอีกว่า การกลับมาที่บ้านในครั้งนี้ เพราะแม่ของตนเสียชีวิต ในวันศุกร์ที่ 13 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา จึงเดินทางกลับมาเคารพศพแม่ และร่วมพิธีฌาปนกิจศพ ตั้งใจว่าจะอยู่ที่บ้านจนถึงเดือนธันวาคม 66 จึงจะเดินทางกลับประเทศอิสราเอล แต่ในช่วงที่กลับมาที่บ้าน แรงงานไทยและคนไทยที่อิสราเอล ยังคงติดต่อสื่อสารกับตนได้ตามปกติ และในพื้นที่ก็ยังมีแม่น้อง อีกคนคอยให้ความช่วยเหลือคนไทยอย่างต่อเนื่อง