สังคม

ผูกแขนเรียกขวัญ หนุ่มสุรินทร์ถูกยิงไหล่ขวา ขอลาแล้วอิสราเอล จากนี้ไม่กลับไปอีก

โดย thichaphat_d

13 ต.ค. 2566

361 views

แรงงานหนุ่มชาวสุรินทร์ ถูกยิงที่ไหล่ขวาบาดเจ็บ เดินทางกลับถึงบ้านแล้ว ญาติๆร่วมทำพิธีเรียกขวัญ เจ้าตัวเล่าการสู้รบสุดระทึก เกิดขึ้นรอบที่พักตลอดทั้งวันทั้งคืน โชคดีที่รอดมาได้ จากนี้ไม่ขอกลับไปอีก

วันนี้ (13ต.ค.2566) เวลา 07.00 น.ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้เดินทางไปยังบ้านพักอาศัยของนายจิรายุ สุกใส อายุ 24 ปี ใน ต.พรมเทพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางไปทำงานรับจ้าง ที่บริเวณทิศใต้ฉนวนกาซ่า ประเทศอิสราเอล โดยไปรับจ้างในการจัดเลี้ยงไก่ในฟาร์ม โครงการจัดหางานของกรมแรงงาน เมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา


จนกระทั่งเกิดการสู้รบกันของกลุ่มฮามาส กับทหารอิสราเอล และถูกทหารกลุ่มฮามาส บุกข้ามแดน เข้ามายิงในแคมป์คนงาน เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ขณะพักผ่อนในแคมป์ จนกระทั่งพากันหนีตาย ก่อนมีทหารอิสราเอลเข้ามาช่วยเหลือไว้ได้ทันเวลา โดยได้รับบาดเจ็บถูกยิงเข้าไหล่ขวา 1 นัด นายจ้างได้นำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล กระทั่งแพทย์ได้ช่วยทำแผลจนอาการปลอดภัย ก่อนได้รับการประสานจากทางการไทยช่วยอพยพกลับไทย

โดยนายจิรายุเดินทางกลับถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 ต.ค.2566 เวลา 10.30 น.ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ผ่านการตรวจทางการแพทย์ ญาติได้พานั่งรถกลับบ้านเกิดที่บ้านโพธิ์ ต.พรหมเทพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมา



ซึ่งในเช้าวันนี้ (13 ต.ค.2566) นายกำจร สุกใส พร้อมด้วยนางจำรัส สุกใส พ่อกับแม่ของนายจิรายุ พร้อมด้วยบรรดาญาติๆ ซึ่งเป็นผู้อาวุโสทั้งตา ยาย ปู่ ย่า พี่ป้า น้าอา กว่า 20 คน ได้รวมกับประกอบพิธีเรียกขวัญให้กับนายจิรายุ โดยนำเอารูปคุณตา ตั้งบูชาด้วยเครื่องอาหารคาว และอาหาร พร้อมทั้งน้ำหวาน เครื่องดื่ม ด้ายสายสิญจน์สีเหลือง มาประกอบเรียกพิธีเรียกขวัญ ผูกแขนให้กับนายจิรายุ เพื่อให้มีขวัญกำลังใจ ในการดำเนินชีวิตต่อไป เพราะเป็นวัยที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างครอบครัวที่เข้มแข็ง ขอให้หายจากอาการขวัญผวา กลับมาสร้างอนาคตที่ดีต่อไป จากนั้น ผู้ที่มาร่วมงาน ได้ร่วมกันรับประทานอาหารเป็นเป็นขวัญกำลังใจร่วมกันอย่างอบอุ่น


นายจิรายุ สุกใส กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ดีใจมากที่เจ้าหน้าที่ของไทย ประสานงานให้ตนได้เดินทางกลับบ้านพร้อมคนงานคนอื่นๆอีกหลายคน ตนเองถูกยิงเมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 ต.ค.2566 ที่ผ่านมา ในช่วงเวลา 7 โมงเช้า พวกตนกับคนงานไทยและชาวต่างประเทศ อีก 5 คน พากันอยู่ในห้องพัก ได้ยินเสียงปืนดังเข้ามาในบริเวณที่พัก พวกตนไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิง ไม่นานก็มีรถถังวิ่งออกมาและยิงต่อสู้กับกลุ่มที่เข้ามาในที่พักพวกตน

พวกตนต้องพากันอยู่ในห้องแบบให้เงียบที่สุด และเมื่อสิ้นเสียงปืนเงียบลง ก็เห็นคนตายนอกที่พัก 4 คน ซึ่งเป็นพวกที่เข้ามาในที่พักของตนช่วงเช้า ส่วนตนเองถูกยิงเข้าที่ไหล่ขวาได้รับบาดเจ็บ พอช่วงสาย วันที่ 8 ต.ค.66 ก็ประสานกับนายจ้าง นำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล และประสานกับญาติเพื่อขอกลับประเทศ ส่วนเพื่อนคนไทยที่หลบในที่พัก ด้วยกันหายตัวไปตั้งแต่วันปะทะวันแรกคนหนึ่ง ทิ้งแต่โทรศัพท์ไว้ ไม่ทราบว่าหนีไปไหน


ช่วงที่ตนเองถูกยิงและหลบในที่พัก ก็ได้แต่คิดถึงพ่อกับแม่ให้ช่วยชีวิตให้ปลอดภัย และนำพระที่ห้อยคอ มาพนมมือไหว้ขอให้คุ้มครองชีวิต ซึ่งเป็นพระที่ตนเองเคารพนับถือ ท่านชื่อว่าหลวงตาพงษ์ พรหมสโร วัดโพธิ์ศรีสว่าง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ จนกระทั่งปลอดภัยกลับถึงบ้านในวันนี้ ส่วนจะกลับไปทำงานที่อิสราเอลหรือไม่ ตนขอไม่ไปอีก และหางานทำที่ไทยดีกว่า

ด้านนายกำจร สุกใส อายุ 48 ปี ผู้เป็นพ่อ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ดีใจมาก ที่ลูกปลอดภัย แม้จะถูกยิงเข้าที่ไหล่ขวา แต่ก็ไม่สาหัสมาก ได้รับการรักษาจนปลอดภัยแล้วในเบื้องต้น หลังจากประกอบพิธีเรียกขวัญแล้วก็จะพาไปหาหมอตรวจอย่างละเอียด ตนต้องขอบคุณหน่วยงานราชการทุกหน่วย ที่ช่วยพาลูกกลับมาถึงบ้านจนปลอดภัย


ขณะที่ผู้เป็นแม่ นางจำรัส สุกใส อายุ 42 ปี กล่าวว่า ดีใจมากที่ลูกเดินทางกลับถึงบ้านแล้ว ได้ทำพิธีเรียกขวัญให้ลูกเพื่อได้มีกำลังใจ มีญาติมาร่วมงานหลายคน พร้อมขอบคุณหน่วยงานราชการต่างๆ ที่ให้ความช่วยเหลือให้ลูกได้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย แม้จะได้รับบาดเจ็บบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่อันตรายถึงชีวิต

คุณอาจสนใจ

Related News