ต่างประเทศ

รบ.อิสราเอลจับมือฝ่ายค้าน ตั้ง ครม.สงคราม-เปิดภาพนักรบฮามาส บุกนิคมคิบบุตซ์ สังหารหมู่นับร้อยศพ

โดย petchpawee_k

12 ต.ค. 2566

39 views

นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล และ เบนนี แกนต์ซ ผู้นำฝ่ายค้าน ได้บรรลุข้อตกลงกันที่จะจัดตั้งรัฐบาลเอกภาพฉุกเฉินขึ้น เพื่อรับมือกับการสู้รบ และกวาดล้างกลุ่มฮามาส

ในถ้อยแถลงร่วมจากพรรคเอกภาพแห่งชาติของแกนต์ซ ระบุว่า เนทันยาฮู และแกนต์ซ อดีตรัฐมนตรีกลาโหม และเสนาธิการทหาร ตกลงที่จะจัดตั้งคณะรัฐมนตรีสงคราม ที่ประกอบไปด้วย เนทันยาฮู แกนต์ซ และ รัฐมนตรีกลาโหม ยูอาฟ กัลลันต์

ถ้อยแถลงดังกล่าว ยังระบุว่า รัฐบาลเอกภาพจะไม่ส่งเสริมนโยบายหรือกฎหมายใด ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง ยกเว้นที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้กับกลุ่มฮามาส ในฉนวนกาซาที่กำลังดำเนินอยู่เท่านั้น

ส่วนสถานการณ์ปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ก็ดำเนินไปอย่างดุเดือด เป็นวันที่ 5 แล้ว หลังจากที่กลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลอย่างดุเดือดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทำให้ล่าสุด มีผู้เสียชีวิตของทั้งสองฝ่าย ซึ่งเป็นทั้งทหาร พลเรือน (ที่รวมถึง สตรี เด็ก และคนชรา) รวมกันมากกว่า 2,200 คน


ขณะที่มีภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิด ช่วงเวลาขณะที่กลุ่มฮามาส ได้บุกเข้ามายังนิคมการเกษตร คิบบุตซ์ และก่อการสังหารหมู่ ซึ่งเป็นจุดที่เลวร้ายที่สุดแห่งหนึ่ง มีภาพกลุ่มนักรบฮามาสได้บุกมายังเมือง โดยใช้ทั้งมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ บุกเข้าโจมตีอย่างรวดเร็ว

มีภาพการสู้รบระหว่างกลุ่มฮามาส และฝ่ายอิสราเอล ซึ่งรายงานระบุว่า การสู้รบที่คิบบุตซ์ กินเวลานานถึง 48 ชั่วโมง ก่อนที่จะฝ่ายอิสราเอลจะสามารถยึดกลับเอาไว้ได้

มีภาพศพที่ถูกนำมารวมกันเรียงราย โดยฝ่ายอิสราเอลระบุว่า เป็นศพของนักรบฮามาสที่ถูกสังหารมีภาพสภาพของนิคมคิบบุตซ์ ซึ่งจะเห็นว่ามีศพนอนอยู่ตามจุดต่าง ๆ อย่างน่าสลด

ทั้งนี้ ทหารอิสราเอล ระบุว่า กลุ่มฮามาสได้ก่อเหตุสังหารหมู่ที่นิคมแห่งนี้ กลุ่มฮามาสได้บุกเข้าไป และสังหารอย่างไม่เลือกหน้า ยิงเหยื่อเสียชีวิตคาที่นอนตายยกครัว สังหารเด็ก และทารกหลายสิบคน เป็นจุดที่เลวร้ายมากที่สุดครั้งหนึ่งในวิกฤติครั้งนี้


โจเซป บอร์เรลล์ ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศและนโยบายด้านความมั่นคง ได้ออกมาประณามรัฐบาลอิสราเอล ว่า กำลัง 'ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ' ด้วยการปิดล้อมฉนวนกาซาอย่างเบ็ดเสร็จ ซึ่งรวมถึงการตัดน้ำ ไฟฟ้า และอาหาร สำหรับพลเรือนกว่า 2 ล้านคน เพื่อแก้แค้นปฏิบัติการโจมตีของกลุ่มฮามาส

ถ้อยแถลงของ บอร์เรลล์ มีขึ้นหลังจากที่อียูได้เรียกประชุมฉุกเฉิน เพื่อหารือผลกระทบของสงครามอิสราเอล-ฮามาส เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา โดย เขายืนยันว่า รัฐมนตรีต่างประเทศอียูส่วนใหญ่ ยังคงสนับสนุนให้มีการจ่ายเงินช่วยเหลือแก่องค์การบริหารแห่งชาติปาเลสไตน์ (Palestinian Authority) ซึ่งควบคุมดูแลเขตเวสต์แบงก์ต่อไป

แม้ว่า บอเรลล์ จะย้ำถึงการประณามต่อการกระทำของกลุ่มฮามาส แต่กระนั้น เขาก็เตือนว่า มาตรการตอบโต้ของอิสราเอล ซึ่งสังหารพลเรือนปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาไปแล้วอย่างน้อย 770 คน จำเป็นจะต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และการที่อิสราเอลใช้วิธีปิดล้อมฉนวนกาซาอย่างสมบูรณ์ ก็ถือว่าผิดหลักสากลอย่างมาก

บอเรลล์ กล่าวว่า “อิสราเอลมีสิทธิป้องกันตนเอง แต่จะต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายมนุษยธรรม ซึ่งการตัดสินใจบางอย่างของพวกเขา ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ”  

---------------------------

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการไต่สวนอิสระนานาชาติ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ (UN commission of inquiry) ได้แถลงว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการก่ออาชญากรรมสงคราม จากทั้ง 2 ฝ่าย โดยมี หลักฐานชัดเจน เกี่ยวกับการกระทำผิดร้ายแรงจากทั้ง ฝ่ายฮามาส และ อิสราเอล และเรียกร้องให้ทั้ง 2 ยึดมั่นในกฎหมายสิทธิมนุษยชนสากล

คณะกรรมการแสดงความกังวลใหญ่หลวงต่อการตอบโต้ของอิสราเอลเช่นกันว่า การที่อิสราเอลโจมตีฉนวนกาซา และปิดล้อมฉนวนกาซาโดยสิ้นเชิง เข้าองค์ประกอบของการทำโทษแบบเหมารวม หรือ คอลเลคทีฟ พันนิชเม้นท์ (collective punishment) ที่ไม่แบ่งแยกคู่ขัดแย้ง หรือพลเรือนออกจากกัน

ก่อนหน้านั้น คณะกรรมการฯ ก็ได้ ประณามการเปิดฉากโจมตีอิสราเอลของฮามาสเมื่อวันเสาร์ พร้อมเน้นว่า การเข่นฆ่าพลเรือนที่ไม่มีอาวุธโดยไม่เลือกหน้า และการจับตัวประกัน เป็นสิ่งที่ไม่อาจทนได้ และเทียบเท่ากับเป็นการก่ออาชญากรรมสงครามอิสราเอลใช้เครื่องบินขับไล่หลายสิบลำ โจมตีเป้าหมายมากกว่า 200 จุด ในฉนวนกาซา นอกจากนั้น ยังมีการเรียกทหารกองหนุน 300,000 คน อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน  

ขณะที่ ฝ่ายฮามาส ก็พยายามตอบโต้ ด้วยการระดมยิงจรวดใส่อิสราเอลอย่างต่อเนื่อง แต่ส่วนมากก็ถูกสกัดเอาไว้ด้วยระบบป้องกัน ไอรอน โดม

มีภาพที่ กองทัพอิสราเอล เปิดเผยออกมา เป็นภาพการล็อกเป้า และยิงถล่มเป้าหมายต่าง ๆ ในฉนวนกาซา เป็นจำนวนมาก

มีภาพของพื้นที่ในฉนวนกาซา ที่ถูกถล่มอย่างเละเทะจนเหลือแต่ซาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็พยายามลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

มีภาพศพผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซา ที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่ที่สุเหร่า เพื่อทำพิธีศพ ซึ่งแต่ละวัน มีศพเพิ่มเข้ามาจำนวนมาก

มีภาพระบบ ไอรอน โดม ของอิสราเอล ที่สกัดจรวดจากฝั่งฮามาส ที่ยิงเข้ามาเป็นระยะ ๆ

มีภาพวินาทีที่จรวดของฮามาส ตกลงใส่พื้นที่ชุมชนในเมือง อัชดอด ของอิสราเอล


ขณะเดียวกันมีภาพเหตุการณ์ขณะที่ เจมส์ คลีฟลี รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ต้องรีบวิ่งหนีเข้าที่หลบภัย หลังจากที่ไซเรนเตือนดังขึ้น ทั้งนี้ คลีฟลี อยู่ระหว่างการเดินทางเยือนอิสราเอล เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับอิสราเอล
------------------------------------------------

ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ออกโรงอัดสหรัฐฯ ว่า กำลังโหมไฟสถานการณ์ในตะวันออกกลาง จากการที่ส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบิน เข้าประชิดชายฝั่งอิสราเอล และสหรัฐฯ พยายามที่จะทำให้เรื่องนี้เป็นปัญหาของสหรัฐฯ โดยไม่สนใจกับต้นตอของปัญหานี้เลย


ปูติน กล่าวว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในอิสราเอลนั้นเลวร้ายที่สุด และวิกฤติความขัดแย้งนี้ จะไม่สามารถแก้ไขได้เลย หากไม่มีการแก้ไปที่ต้นตอของปัญหา ซึ่งก็คือการที่จะต้องจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ขึ้น

การสู้รบครั้งรุนแรงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส สะท้อนให้เห็นว่า นโยบายที่สหรัฐฯ มีต่อภูมิภาคตะวันออกกลางนั้นล้มเหลว อีกทั้ง อเมริกาก็ไม่เคยใส่ใจความต้องการของชาวปาเลสไตน์

ปูติน ยังกล่าวด้วยว่า สถานการณ์ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงในตะวันออกกลาง เกิดจากนโยบายของสหรัฐฯ เป็นต้นเหตุ และสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวของนโยบายที่สหรัฐฯ มีต่อตะวันออกกลาง”

ผู้นำรัสเซีย ยังกล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ พยายามผูกขาดกลไกสันติภาพ และไม่แสวงหาแนวทางประนีประนอมที่ปฏิบัติได้จริง

นอกจากนี้ ยังมองข้ามผลประโยชน์ และความปรารถนาอันแรงกล้า ของชาวปาเลสไตน์ ที่ต้องการมีรัฐอิสระของตนเอง

คุณอาจสนใจ

Related News