เลือกตั้งและการเมือง

"จุลพันธ์" เผยยังไม่ได้ข้อสรุป ขยายขอบเขตใช้เงินดิจิทัล รอคกก. พิจารณาอีกครั้ง

โดย nutda_t

10 ต.ค. 2566

149 views

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ย้ำถึงแนวทางการลงทะเบียนโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต ถือเป็นกลไกในการยืนยันตัวตน ซึ่งที่ผ่านมารัฐเคยมีการใช้ระบบนี้ในการยืนยันตัวตนมาแล้ว ดังนั้น ประชาชนที่มีฐานข้อมูลอยู่ราว 40 ล้านคน ได้ผ่านกระบวนการยืนยันตัวตนมาแล้ว แต่เมื่อเข้าสู่โครงการนี้จะมีลักษณะให้กดปุ่มยืนยัน เพื่อให้เข้าสู่โครงการอีกครั้ง ส่วนคนที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการของรัฐที่ผ่านมา มีราว 10 ล้านคน ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนยืนยันตัวตน ดังนั้นภายใต้กฎหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย กระบวนการยืนยันตัวตนจึงจำเป็นต้องมี เรื่องนี้จึงมีความจำเป็นโดยเฉพาะในระบบเงิน จะต้องรอบคอบและรัดกุมเป็นไปตามกฎหมาย ไม่เกี่ยวกันว่าการลงทะเบียนจะทำให้ มีคนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการน้อยลง เนื่องจากคนที่จะลงทะเบียนหรือไม่ลงทะเบียน จะรู้ข้อมูลที่หลังอยู่แล้ว ซึ่งป้องกันวงเงินไว้ให้เพียงพอกับโครงการ


พร้อมย้ำว่า โครงการนี้ไม่ได้มีความแตกต่างกับโครงการที่ผ่านมา รวมถึง โครงการของรัฐก็ไม่ได้มีประชาชนลงทะเบียน มาใช้สิทธิ์ครบทั้ง 70 ล้านคน ครั้งนี้ก็ไม่ได้แตกต่างกัน เชื่อว่าถ้าดำเนินโครงการไปแล้ว ตัวเลขผู้ลงทะเบียนก็อาจจะมีลดลงไปบ้าง ส่วนจำนวนเท่าไหร่ก็ต้องดูความชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ตก็ต้องเข้าร่วมด้วย โดยกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ ก็จะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนของร้านค้าก่อน และเป็นแอปพลิเคชันใหม่ที่ยังไม่มีชื่อ


ส่วนกรณีที่สำนักวิจัยเศรษฐกิจการคลัง ได้ระบุว่า ทางเลือกหนึ่งของการใช้เงินโครงการนี้คือการขายหุ้น ที่เป็นรัฐวิสาหกิจบางส่วนออกไป นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน ไม่มีในความคิด และไม่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้


ส่วนที่มาของเงินยังไม่มีความชัดเจน แต่ว่าวางเป้าหมายไว้ว่าจะใช้งบประมาณเป็นหลัก ซึ่งจะต้องมีการดูรายละเอียด เพราะมีตัวเลือกให้กับรัฐบาล และคณะทำงานจะเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุด


ขณะที่จะเป็นการเกลี่ยงบประมาณของกระทรวงอื่นหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้งบประมาณปี 2567 อยู่ระหว่างหน่วยงานส่งคำขอ มาที่สำนักงบประมาณใหม่ จึงต้องไปดูรายละเอียดว่าโครงการไหนไม่มีความจำเป็น หรือโครงการไหนที่อาจจะดำเนินการไม่ทัน ในปีงบประมาณหรือโครงการที่สามารถลดงบประมาณได้ ก็ต้องมีการปรับลด เมื่อมีการปรับลดแล้วเงินที่เหลือมาก็ต้องนำมาใช้ ในการพัฒนาการลงทุน และใช้ในโครงการที่มีความจำเป็น ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับนโยบายของรัฐ ทั้งนี้ยังไม่ทราบว่าโครงการไหนจะถูกปรับลดงบประมาณ เป็นเรื่องของสำนักงบประมาณที่ต้องไปดูในรายละเอียด


นายจุลพันธ์ ยังยืนยันว่า รัฐบาลนี้ไม่ได้สั่งการให้ลดงบประมาณแต่ละโครงการ แต่ให้ไปดูความจำเป็นของโครงการว่าควรจะมีอยู่หรือไม่ เมื่อได้ตัวเลขมาแล้วก็จะนำไปจัดสรรเพื่อให้ตัวเลขลงตัว


ส่วนการประชุมคณะกรรมการในครั้งต่อไปจะยังไม่มีข้อสรุปใดๆ แต่จะมีการพูดคุยในประเด็นภาพรวมความจำเป็นวัตถุประสงค์ของโครงการ และมีการกระจายงานไปยังส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น การขับเคลื่อนนโยบาย แหล่งเงิน เงื่อนไขการลงทะเบียน รวมถึงความปลอดภัยและข้อกฎหมาย ซึ่งจะมีการมอบหมายให้แต่ละหน่วยงานไปดูแล้วส่งกลับมาให้คณะอนุกรรมการ


ส่วนกรณีที่มีการขยายพื้นที่การใช้สิทธิ์ในระยะ 4 กิโลเมตร เป็นทั้งจังหวัดนั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป และเป็นการไปโพสต์ข้อความที่คลาดเคลื่อน ซึ่งตนเองได้รับฟังข้อเสนอแนะมามาก ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาว่าจะขยายเป็นตำบล เป็นอำเภอ เป็นจังหวัด เท่านั้น สุดท้ายจะจบตรงขอบเขตไหนอยู่ที่คณะกรรมการ

คุณอาจสนใจ

Related News