'สุทิน' ตรวจเครื่องบิน 6 ลำ เตรียมรับผู้อพยพคนไทย พร้อมเริ่มภารกิจทันที หลังอิสราเอลเปิดน่านฟ้า

'สุทิน' ตรวจสอบเครื่องบินทั้ง 6 ลำ และมาตรการความพร้อม ที่กองบิน 6 สำหรับการอพยพคนไทยที่ประเทศอิสราเอล

หลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้กองทัพอากาศเตรียมความพร้อมของเครื่องบินสำหรับภารกิจเข้าน่านฟ้าอิสราเอลไปอพยพคนไทย

โดยได้มีการจัดเตรียมเครื่องบินทั้งหมด 6 ลำ ประกอบด้วยเครื่องบิน Airbus 340 จำนวน 1 ลำ และเครื่องบิน C-130 จำนวน 5 ลำ

เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางไปที่กองบิน 6 เพื่อตรวจสอบความพร้อมสำหรับภารกิจนำผู้อพยพชาวไทยกลับประเทศ

ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศ โดยฝูงบิน 601 และ ฝูงบิน 602 ได้เปิดให้สื่อมวลชนถ่ายภาพเครื่องบินที่จะใช้ในภารกิจครั้งนี้

โดยเริ่มกันที่เครื่องบิน C-130 ซึ่งแต่ละลำจะสามารถลำเลียงผู้โดยสารและลูกเรือได้ 120 คน แบ่งเป็นผู้โดยสารซึ่งเป็นคนไทยที่จะอพยพจำนวน 77 คน และลูกเรือของกองทัพอากาศอีกประมาณ 43 นาย

โดยเจ้าหน้าที่ได้เตรียมที่นั่งสำหรับอพยพประชาชน อุปกรณ์การแพทย์ เปลสนาม และถังออกซิเจน เอาไว้สำหรับกรณีที่ลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บกลับมาประเทศ

ส่วนเครื่องบิน Airbus 340 สามารถลำเลียงผู้โดยสารและลูกเรือได้ 135 ถึง 140 คน แบ่งเป็นคนไทยที่จะอพยพประมาณ 100 คน และลูกเรือของกองทัพอากาศอีก 35 คน

ในส่วนลูกเรือของกองทัพอากาศที่จะเดินทางไปในภารกิจครั้งนี้ ประกอบด้วยกัปตัน ผู้ช่วยนักบิน ต้นหน ช่างเครื่อง ฝ่ายสื่อสาร ฝ่ายขนส่ง แพทย์เวชศาสตร์การบิน ชุดปฏิบัติการพิเศษ และอากาศโยธินรักษาเครื่องบิน

นาวาอากาศเอกหญิงสุวิสาส์ ศุขตระกูล รองผู้อำนวยการศูนย์ลำเลียงทางอากาศสายแพทย์ สถาบันเวชศาสตร์การบิน เปิดเผยว่าภารกิจครั้งนี้ ได้มีการจัดชุดเวชศาสตร์การบินซึ่งเป็นแพทย์และพยาบาลชุดละ 4 นาย ประจำการอยู่บนเครื่องบินทั้ง 6 ลำ และจัดเตรียมนักจิตวิทยาไป 1 นาย เพื่อช่วยประเมินสภาพจิตใจของผู้ประสพภัย

โดยยืนยันว่าชุดเวชศาสตร์ประจำเครื่องบินทุกลำ ได้เตรียมความพร้อมในการรักษาอาการบาดเจ็บของคนไทยซึ่งเป็นผู้อพยพทุกคน แต่การเดินทางครั้งนี้แต่ละเที่ยวบินจะต้องใช้ระยะเวลาในการบินไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง ซึ่งเป็นภารกิจที่มีความเสี่ยง แต่เจ้าหน้าที่ทุกนายก็พร้อมปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งก็พร้อมเดินทางทันที

ปฏิบัติการครั้งนี้นับว่าเป็นภารกิจครั้งที่สาม ที่ชุดเวชศาสตร์การบินได้มีการร่วมอพยพช่วยเหลือคนไทย โดยสองครั้งก่อนหน้านี้ คือเหตุการณ์ไม่สงบในประเทศซูดาน และเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศตุรกี

นอกจากนี้ นายสุทินบอกว่า จากการมาประชุมร่วมกับกองทัพอากาศ พบว่าทางกองทัพอากาศมีมาตรการเตรียมความพร้อมไว้ในทุกๆ ด้านแล้วสำหรับภารกิจครั้งนี้ซึ่งได้เตรียมความพร้อมไว้ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอประสานมาจากประเทศอิสราเอล ซึ่งหากได้รับการส่งสัญญาณไฟเขียวมาก็พร้อมปฏิบัติภารกิจไปช่วยคนไทยได้ทันที

ทั้งนี้รัฐบาลได้มีการเตรียมแผนสำรองไว้หากกรณีที่กองทัพอากาศ อาจจะรับผู้อพยพคนไทยมาไม่เพียงพอ โดยได้ประสานงานกับสายการบินเอกชนเพื่อที่จะเช่าเหมาลำเครื่องบินในการอพยพคนไทยไว้แล้ว รวมทั้งจะใช้แผนการจอดในประเทศข้างเคียงหากประเทศอิสราเอลปิดน่านฟ้า

ส่วนการช่วยเหลือตัวประกันคนไทยเรื่องนี้ต้องให้ทางกองทัพอิสราเอลรับผิดชอบ เนื่องจากกองทัพของไทยไม่สามารถปฏิบัติภารกิจนี้ ซึ่งเป็นการล่วงล้ำอธิปไตยได้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/PSJs1znVMeY