ชื่นชม! 2 หนุ่มสาวเทศบาลคนดีศรีหล่มสัก เก็บสร้อยคอทองคำได้บนถนน ส่งคืนให้เจ้าของ

วันที่ 29 กันยายน 2566 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ จักรพงษ์ ถนอมดี ได้โพสต์ข้อความ “ ประกาศ #คนดีศรีหล่มสัก นายสุวพัชร คำพา (แบงค์) นางสาวมิ่งขวัญ อาษาวิเศษ (ษา) พนักงานเทศบาลตำบลตาลเดี่ยว อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเก็บทองคำพร้อมพระเลี่ยมทองได้ แถวร้านขนมหวานป้าวี หัวโค้งวัดศรีมงคล ท่านใดทำทองตก ให้นำหลักฐานหรือระบุทองคำ ว่าได้ใส่พระอะไรไว้บนสร้อยคอทองคำ...ตอนนี้นายสุวพัชร คำพา และนางสาวมิ่งขวัญ อาษาวิเศษ ได้นำทองไปลงบันทึกประจำวันไว้ ที่สภ. หล่มสัก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าใครเป็นเจ้าของให้นำหลักฐานไปรับที่ สภ.หล่มสัก ได้เลย... ก็ขอชื่นชมพนักงานของเทศบาลตำบลตาลเดี่ยวทั้งสองคนมากๆเลยน่ะครับ ที่เก็บสร้อยคอทองทำได้และให้ผมลงเฟสตามหาเจ้าของสร้อยคอทองคำต่อไป...ปล... ท่านนายกเทศบาลตำบลตาลเดี่ยว มีลูกน้องดีๆแบบนี้ ต้องมอบรางวัลเป็นพิเศษให้แล้วนะครับ...” พร้อมทั้งมีการนำรูปภาพสร้อยคอทองคำที่ไม่ได้ระบุน้ำหนักเอาไว้มาโพสต์ พร้อมกับพลเมืองดีทั้ง 2 ท่านที่กำลังนำสร้อยคอทองคำ ส่งให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มสัก เพื่อรอเจ้าของทองมาติดต่อรับสร้อยคอทองคำกลับคืน จากนั้นก็มีผู้เข้ามาแสดงความชื่นชมในการทำความดีของบุคคลทั้ง 2 อย่างมากมาย

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังพลเมืองดีทั้ง 2 คน ก็คือ นายสุวพัชร คำพา หรือ แบงค์ และ นางสาวมิ่งขวัญ อาษาวิเศษ หรือ ษา ทั้ง 2 เป็นพนักงานเทศบาลตำบลตาลเดี่ยว อำเภอหล่มสัก

จากการสอบถาม นาย สุวพัชร คำพา อายุ 47 ปี ตำแหน่งสำนักปลัดเทศบาลตำบลตาลเดี่ยว เล่าว่า ตนเองเก็บทองได้แถวโค้งร้านขนมหวานป้าวี กับช่วงร้านข้าวราดแกง ทองอยู่กับตำรวจ ตนได้นำไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้แล้ว ส่วนน้ำหนักทองตนเองกะไม่ถูกเป็นทองเส้นเดียว มีจี้ทองด้วย โดยตกบนถนน ไม่มีผู้คน แต่มีรถขับผ่าน 2-3 คัน แต่ก็ไม่มีใครเห็น ส่วนเจ้าของที่จะมาติดต่อรับทองคืน ต้องบอกด้วยว่า จี้เป็นพระอะไร จึงจะไปรับคืนจากตำรวจได้

ด้าน นางสาวมิ่งขวัญ อาษาวิเศษ อายุ 39 ปี แม่บ้าน เทศบาลตำบลตาลเดี่ยว เล่าว่า ตนเองเลิกงาน กำลังไปซื้อกับข้าวที่ตลาด แล้วมองเห็นทองพอดี เลยจอดรถไปเก็บมา แล้วคุยกันว่าจะทำอย่างไรดี ก่อนตกลงกันไปที่ สภ.หล่มสัก ซึ่งทองนั้นถูกพบวางอยู่กลางถนน ตอนแรกก็คิดว่าเป็นของแท้หรือของปลอม จึงรีบนำไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ โดยหากมีเจ้าของมาติดต่อขอคืน ตนเองก็รู้สึกดีใจ กลัวเจ้าของจะลำบาก เพราะกว่าจะเก็บเงินซื้อมาได้

ด้าน นางสาวภัทราพร ภาชมโฉม อายุ 23 ปี เจ้าของทอง ผู้เสียหาย เล่าว่าตนเองขับรถไม่รู้ว่าทองหล่นหายไปตอนไหน มารู้ตัวก็ขับรถวนหาแต่ไม่เจอ วนประมาณ 3 รอบ ส่วนทองมีน้ำหนัก 50 สตางค์ ซึ่งคุณพ่อซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด ตอนรู้ว่าทองหายตนเสียใจจนร้องให้ แต่พอรู้ว่ามีคนเก็บทองมาคืนก็รู้สึกดีใจมาก ขอขอบคุณ พี่ทั้ง 2 คนด้วย