เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ ประกาศรัฐบาลยังไม่มีนโยบาย "เก็บภาษีหุ้น"

โดย gamonthip_s

29 ก.ย. 2566

51 views

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในเรื่องการเก็บภาษีหุ้น หลังฝ่ายค้านเปิดเผยข้อมูลว่ามีเอกสารที่จะเก็บภาษีหุ้น ว่า "ในภาวะแบบนี้และระยะเวลาอย่างนี้ ตลาดหุ้นเป็นแบบนี้ ตอนนี้ยังไม่มีนโยบายดังกล่าว"


นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าว กระทรวงการคลังยังไม่มีนโยบายจะเรียกเก็บภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมในการขายหุ้น (Financial Transaction Tax) หรือ FTT และยังไม่มีนโยบายเก็บภาษีจากกำไรการซื้อขายหุ้นภาษีจากธุรกรรมการขายหุ้น (TransaCapital Gain) เนื่องจากรัฐบาล และกระทรวงการคลัง ต้องการเห็นตลาดหุ้นไทยเดินไปในทิศทาง ที่มีสภาพคล่องที่สูง จึงไม่ต้องการเห็นตลาดหลักทรัพย์ของไทยที่มีภาวะซบเซา และมีเสถียรภาพ ต้องการตลาดหลักทรัพย์ที่มีปริมาณการซื้อขายที่มี ทั้งปริมาณ และมีทั้งคุณภาพ ต้องการเห็นตลาดหลักทรัพย์ไทย มีความน่าดึงดูดทั้ง ใน 2 มิติ คือ ดึงดูดต่อนักลงทุนที่จะมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ และดึงดูดต่อบริษัทที่จะมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์



ซึ่งในประเด็นแรก เกี่ยวกับตัวนักลงทุนที่จะมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยนั้น ตลาดหลักทรัพย์ก็ต้องมีความน่าสนใจ และมีความน่าดึงดูดต่อการลงทุน และต้องมีความสามารถในการแข่งขันได้รวมทั้งต้องมีกฎระเบียบที่ผ่อนปรน ที่เอื้อต่อการลงทุน และในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียนนั้น ต้องการเห็นตลาดหลักทรัพย์ไทยนั้นดึงดูดต่อการมาจดทะเบียนของบริษัทต่างๆในระดับโลก เพื่อต้องการในตลาดหลักทรัพย์ไทยที่สามารถแข่งขันได้และมีความเป็นสากล เช่นเดียวกับตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์



ประเด็นสุดท้าย อยากเห็นตลาดหลักทรัพย์ไทยนั้นที่มีต้นทุนในการระดมทุนที่ต่ำ และอยู่ในระดับที่แข่งกันได้ประเด็น ที่สำคัญต้องมีอิฐก้อนแรกของระบบเศรษฐกิจของประเทศ นั่นหมายถึงว่าถ้าต้นทุนในการระดมทุนต่ำ เมื่อบริษัทมีต้นทุน หมายถึงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ นั่นหมายถึงการจ้างงาน ส่งเสิรให้ขนาดเศรษฐกิจเติบโตมากขึ้น เพราะฉะนั้นนี่ 4 ประเด็นที่รัฐบาล และกระทรวงการคลังอยากเห็นตลาดหลักทรัพย์ไทยมุ่งไปสู่สิ่งเหล่านี้



นายเผ่าภูมิ กล่าวต่อว่า อาจมีคำถามว่า การที่ไม่เก็บภาษีจากการขายหุ้น จะทำให้รายได้ภาครัฐหายไปหรือไม่ หรือต้องมีการขาดดุลงบประมาณเพื่อมาชดเชยหรือไม่ นั้น ในแผนการคลังระยะปานกลางยังไม่ได้มีการพิจารณา รวมถึงผลกระทบที่มีนัยยะสำคัญจากนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ของรัฐบาล และหากมีนโยบายนี้มีกำหนดอยู่ในแผนแล้ว ก็หมายความว่าจะมีเงินเข้าสู่ในระบบเศรษฐกิจ 5.6 แสนล้านบาท จะก่อให้เกิดเป็นผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจต่อรัฐบาลกลับคืนมา ในรูปแบบภาษี ไม่ว่าจะเป็นภาษีนิติบุคคล หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT

คุณอาจสนใจ

Related News