ยันไม่ได้กลั่นแกล้ง! หัวหน้าชุดค้นบ้าน 'บิ๊กโจ๊ก' ชี้ทำตามหมายจับ 8 ตร.เอี่ยวเว็บพนัน ไม่ทราบเป็นบ้าน ตร.ชั้นผู้ใหญ่

วานนี้ (25 ก.ย. 66) ชุดปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดยุทธการ Big Cleaning Day กวาดบ้านตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าทำการตรวจค้นเป้าหมายรวม 30 จุด ในพื้นที่ 6 จังหวัด ประกอบด้วย เพชรบุรี สมุทรปราการ กรุงเทพฯ ขอนแก่น อุดรธานี และ สระบุรี

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และคอมมานโด พร้อมหมายค้น เข้าทำการตรวจค้นบ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ภายในหมู่บ้านหรู ซอยวิภาวดี 60 หลังสโมสรตำรวจ

---------------

ทั้งนี้ ศาลได้อนุมัติออกหมายจับกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่พัวพันเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์  8 นาย

ข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน”  โดย ตำรวจที่ถูกหมายจับทั้ง 8 นาย และถูกจับกุมตัวแล้ว ประกอบด้วย

• พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผบก.ศฝร.บช.น. (จับแล้ว)
• พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิสมัย ผกก.ตม.จว.จันทบุรี (จับแล้ว)
• พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย รอง ผบก.สส.ภ.4 (จับแล้ว)
• พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รอง ผกก.สส.สภ.สำโรงเหนือ (จับแล้ว)
• พ.ต.อ.อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ ผกก.ตม.จว.ฉะเชิงเทรา (จับแล้ว)
• พ.ต.ต.ชานนท์ อ่วมพร นตต.รอง ผบ.ตร. (จับแล้ว)
• ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว ผบ.หมู่ งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร. (จับแล้ว)
• ส.ต.อ.อภิสิทธิ์ คนยงค์ ผบ.หมู่ (ป) สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา (จับแล้ว)

--------------

ทั้งนี้ บ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ในหมู่บ้านหรู มีด้วยกันทั้งหมด 5 หลัง โดย บ้านหลังที่ 1-2 จะอยู่ติดกัน เป็นบ้านพักของนายตำรวจที่ติดตามบิ๊กโจ๊ก ห่างไปประมาณ 100 เมตร มีบ้านหลังที่ 3 และ 4 เป็นบ้านที่บิ๊กโจ๊กอยู่เอง ถัดไปอีก 2 สองหลัง เป็นบ้านหลังที่ 5 เป็นบ้านที่บิดาของบิ๊กโจ๊กเคยอาศัยอยู่ 

โดยสาเหตุที่ตรวจค้นหลังมีการสืบสวนขยายผลจนพบว่ามีความ เชื่อมโยงกับเครือข่ายการพนันออนไลน์ ในประเทศลาว และเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ ที่ก่อนหน้านี้มีการจับกุม และพบว่าเป็นเครือข่ายที่ใช้บัญชีผู้ต้องหาคดียาเสพติดหลายบัญชีในการหมุนเวียนเงินกว่า 1,000 ล้านบาท

สำหรับการเข้าค้นที่บ้านของพล.ต.อ. สุรเชษฐ์ เริ่มต้นจากตำรวจไซเบอร์สามารถจับกุมเครือข่ายแก๊งพนันออนไลน์มินนี่ได้ ก่อนจะมีการสอบปากคำ และมีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน

โดยพบว่า มีเงินจำนวนมากโอนเข้าบัญชีตำรวจระดับสูงหลายคน อีกทั้งมีเส้นทางการเงินเส้นหนึ่งมีการโอนมาจ่ายเฉพาะแค่ค่าน้ำค่าไฟให้บ้านในซอยวิภาวดี 60 (จุดที่ตรวจค้น) นั่นจึงทำให้ตำรวจขอหมายศาลเพื่อค้นบ้านหลังดังกล่าว

แต่ปรากฎว่า ระหว่างที่กำลังจะเข้าค้นทาง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง.ผบ.ตร. ก็ได้อยู่บ้านหลังดังกล่าวด้วย ก่อนจะออกมาในสภาพชุดนอนเสื้อยืดสีขาว กางเกงกางขาสั้น (บล็อกเซอร์) สีฟ้า สวมถุงเท้าสีขาว โดยไม่ใส่รองเท้าออกมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

โดยทางตำรวจได้มีการแสดงหมายศาลเพื่อขอเข้าตรวจค้น แต่ทาง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยังไม่ยอมให้มีการตรวจค้น โดยให้เหตุผลว่าตนเองเป็นตำรวจ ตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ดังนั้น การที่จะเข้าตรวจค้น จะต้องให้ตำรวจระดับสูงเข้ามาด้วย

ระหว่างนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกมาบริเวณหน้าบ้านซึ่งอยู่ในสภาพชุดนอน เสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสั้นสีฟ้า พร้อมกับอ่านรายละเอียดหมายค้น ซึ่งพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้พูดกับเจ้าหน้าที่ระหว่างอ่านรายละเอียดหมายค้น ระบุว่า “ค้นผมได้ไง ออกหมายค้นได้ไง กลับไปเลยไป”
--------------

จากนั้นทาง พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ก็ได้เดินทางมาถึงยังพื้นที่ตรวจค้น และมีการนำพนักงานสอบสวนพร้อมหมายค้นเข้าไปพูดคุยกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นานประมาณ 30 นาที ก่อนที่ทั้งหมด จะเดินเท้าออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

แต่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็มีการ นำเข้าไปตรวจสอบอย่างบ้านพักหลังต่าง ๆ ตามที่คณะพนักงานสอบสวนมีหมายค้นมา โดยระหว่างเดินเท้า ได้มีการพูดกับสื่อมวลชนว่า ก็ตรวจสอบไปตามขั้นตอน ยินดีให้ตรวจสอบ

จากนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์ ภายหลังตำรวจไซเบอร์เข้าค้นบ้านพัก ว่า

เมื่อมีหมายจับของลูกน้องเข้ามา ก็ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจ และให้ตรวจค้นตามขั้นตอน และตนเองเป็นคนนำตรวจค้นด้วยตนเองทุกหลัง และไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอะไร ส่วนลูกน้องหลาย ๆ คนที่ถูกออกหมายจับ ก็ไปสู้คดีกันในชั้นศาล

ส่วนเรื่องเว็บพนันและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนตัวเองเกี่ยงข้องเรื่องของการปราบปรามเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมีหมายค้นเข้ามาตรวจสอบก็ต้องให้ความร่วมมือ

ส่วนเรื่องเส้นทางการเงินแก๊งพนันออนไลน์ ที่มีการโอนเงินเข้าไปยังบัญชีตนเองนั้น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า เป็นเรื่องของลูกน้องที่จะต้องไปชี้แจงกับศาลว่า เส้นทางการเงินดังกล่าวเข้ามาได้อย่างไร โดยยืนยันว่า หากลูกน้องทำผิด ก็ไม่ละเว้นใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ส่วนตัวมั่นใจว่า ลูกน้องไม่ได้กระทำความผิด เนื่องจากทำงานกันมานาน เพราะหากผิดก็ต้องผิดมานานแล้ว

ทั้งนี้ ไม่หนักใจ ในการเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ เพราะตนเองไม่ได้เป็นแคนดิเดตอยู่แล้ว เพราะต้องไปดูระเบียบต่าง ๆ และไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องการสกัดตำแหน่ง ผบ.ตร. ซึ่งส่วนตัว มองว่า เรื่องนี้หากมีใครผิดก็ต้องเข้าค้นได้ แม้ตนเองจะเป็นรอง ผบ.ตร. ก็ต้องให้เข้าค้นได้เช่นกัน

ส่วนเมื่อเช้า ที่ไม่ยอมให้ค้น เพราะตนเองเป็น รอง ผบ.ตร. ต้องให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้ามาตรวจค้น และส่วนตัวไม่ได้กังวลใจว่า จะมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงเข้ามาที่ตนเอง เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ใจ

--------------

ด้าน พล.ต.ท.วรวัฒน์ ระบุว่า การเข้าตรวจค้น เป็นเพียงการทำงานร่วมกันหลังได้รับการประสานมาจาก PCT ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในส่วนของทางสอท. ทำหน้าที่เป็นเพียงคณะทำงานที่ร่วมปฏิบัติการเท่านั้น ซึ่งในส่วนของตนเองทราบถึงว่าปฎิบัติการในวันนี้มาจากขยายผลของทาง PCT ที่จับกุมเครือข่ายพนันออนไลน์

ในส่วนของรายละเอียดทางคดีตนเองไม่ทราบ ส่วนเรื่องที่มีการเข้าค้นบ้านพักของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ แต่จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ไม่ใช่บ้านพักของท่านรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่จากข้อมูลพบว่า มีผู้ต้องหาตามหมายจับบางรายพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว จึงมีการเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นครั้งนี้

จากการตรวจค้น ไม่พบสิ่งผิดปกติหรือผิดกฎหมายใดๆ และเพิ่งทราบข้อมูลจากรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่า อาคารทั้งหมดที่มีการตรวจค้นในวันนี้ เป็นอาคารที่อยู่ในความครอบครองของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เอง

-------------

วานนี้ (25 ก.ย. 66) ที่ บก.น.5 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี เปิดเผยกรณีที่ได้มีการระดมกำลังกวาดล้างเครือข่ายแก๊งพนันออนไลน์ ที่ได้เข้าค้นรวม 30 จุดใน 6 จังหวัดทั่วประเทศ

การเข้าตรวจค้นเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (25 ก.ย.) เป็นการตรวจค้นเพื่อจับกุมบุคคลตามหมายจับ หลังสืบสวนพบว่าบุคคลดังกล่าวพักอาศัยที่บ้านหลังนี้ โดยไม่ทราบว่า มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่ อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวด้วย เพราะชื่อตามทะเบียนบ้านเป็นของบุคคลอื่น ซึ่งเป็นพลเรือน ยืนยันไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินายดังกล่าว

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี (ผบช.กมค.) ฐานะหัวหน้าชุด ศปอส.ตร. หรือ PCT ชุด 4 เปิดเผยว่า

หลังการขยายผลจับเว็บพนันออนไลน์รวม 12 เว็บไซต์ ของตำรวจ ศปอส.ตร. จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย เมื่อ ก.ค. ที่ผ่านมา ได้ขยายผลออกหมายจับอีก 23 คน เป็นตำรวจ 8 นาย พบว่า แบ่งหน้าที่กันทำชัดเจนเป็น 4 กลุ่มความผิด

1.บริหารจัดการเว็บพนันออนไลน์

2.จัดหาบัญชีม้า

3.จัดการธุรกรรมการเงินและบัญชี

4.ผู้ได้รับผลประโยชน์จากบัญชีม้า

โดยตำรวจได้มีการสืบสวนจากหลักฐานที่บ่งชี้ชัดเจนว่า 8 นายตำรวจบางนายมีพฤติการณ์ลักษณะเป็นผู้บริหารเว็บไซต์พนันออนไลน์หรือเสมือนเป็นเจ้าของ ส่วนบางนายก็มีผลประโยชน์เชื่อมโยงในแต่ละกลุ่ม บางคนก็มีหลายพฤติการณ์ โดยพบว่าได้กระทำผิดมานานกว่า 2 เดือนแล้ว แต่จะมีจำนวนเงินหมุนเวียนเชื่อมโยงกับตำรวจเท่าใดนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยืนยันว่ามีคำรวจยศพลตำรวจตรีถึงพันตำรวจเอกเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง

ส่วนการเข้าตรวจค้น เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (25 ก.ย.) เป็นการตรวจค้นเพื่อจับกุมบุคคลตามหมายจับ หลังสืบสวนพบว่าบุคคลดังกล่าวพักอาศัยที่บ้านหลังนี้ โดยไม่ทราบว่ามีตำรวจชั้นผู้ใหญ่อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวด้วย เพราะชื่อตามทะเบียนบ้ายเป็นของบุคคลอื่นซึ่งเป็นพลเรือน ยืนยันไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินายดังกล่าว

ส่วนจะเชื่อมโยงกับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนดังกล่าวหรือไม่นั้น ณ ขณะนี้ยังไม่พบ แต่ก็ต้องมีการขยายผลตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะนอกเหนือจากหลักฐานที่นำมาใช้ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาไปก่อนหน้านี้ ตำรวจยังมีพยานหลักฐานให้เชื่อได้ว่าบ้านหลังดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดด้วย

-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/FyixGMXFItA