สังคม

ลุยกวาดเสาคมนาคมเถื่อน ลอบส่งสัญญาณแก๊งคอลฯ ตัดวงจรอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติ

โดย panwilai_c

23 ก.ย. 2566

136 views

เจ้าหน้าที่เดินหน้ากวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์ข้ามชาติ หลังประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก โดยล่าสุดตำรวจไซเบอร์ ร่วมกับกสทช. ลงพื้นที่ตรวจจับสถานีวิทยุคมนาคมเถื่อน ที่หันเสาส่งสัญญาณไปทางประเทศเพื่อนบ้าน ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์และเว็บพนันออนไลน์ ใช้เป็นเครื่องมือหลอกคนไทย โดยครั้งนี้สามารถรื้อเสาสัญญาณที่บริเวณชายแดน จ.ตาก และ เชียงราย รวม 6 สถานี จับกุมผู้กระทำผิดได้ 3 คน



พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช.ด้านกฎหมาย ในฐานะประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยี ร่วมกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการจับกุมสถานีวิทยุคมนาคม และเสาสัญญาณผิดกฎหมายตามแนวชายแดน จ.ตาก และ จ.เชียงราย



โดยปฏิบัติการในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จำนวน 2 สถานี ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีการลักลอบส่งสัญญาณโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาอาชญากรรมด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเว็บพนันออนไลน์ ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาได้มีการกวาดล้างจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีการย้ายฐานปฎิบัติการเข้าสู่พื้นที่ใหม่ๆ ที่ยังสามารถอาศัยสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตจากฝั่งไทยได้ และปลอดภัยจากการกวาดล้างจับกุม



โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนด้าน อ.แม่สอด ที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจและบางส่วนอยู่ภายใต้อิทธิพลของชนกลุ่มน้อย ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการร่วมตำรวจและ กสทช. ได้มีการลงพื้นที่หาข่าวจนนำมาสู่การปฎิบัติการในครั้งนี้



ส่วนในพื้นที่ อ.แม่สาย และ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ก็สามารถปราบปรามได้ จำนวน 4 สถานี โดยได้รื้อถอนสถานีวิทยุคมนาคมผิดกฏหมายทั้งหมด ยึดอุปกรณ์โทรคมนาคมที่ใช้กระทำความผิด ส่งให้พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย



นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กสทช. จะเดินหน้าปราบปรามสถานีวิทยุคมนาคมผิดกฏหมาย ควบคู่ไปกับการจัดระเบียบเสาสัญณาณไม่ให้แพร่สัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน กวดขันจับกุมผู้ขายและผู้เป็นธุระจัดหา ซิมผี บัญชีม้า เพื่อตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์ไม่ให้ทำงานได้สะดวกเหมือนที่ผ่านมา พร้อมทั้งปรับปรุงระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อตีกรอบการใช้เทคโนโลยีให้เป็นไปตามที่ภาครัฐกำหนด

คุณอาจสนใจ

Related News